Recent reviews by PlearnGaming

- cute graphics
- soothing music
- has dark mode to reduce eye strain
- intuitive puzzles without wall of text
- great pacing of difficulty
- fun puzzle levels with some red herrings

Faeland is amazing and scratches my itch of metroidvania! It has done many things right especially safe environments that teach new mechanics, and shortcuts to get me back to the point. It was my fault forgetting the last "key" so I backtracked every room many times, but at least there was something undiscovered to do so that's ok. The toggle between overworld and cave (instead of whole map system) makes the map easier to see. The music is so good, my favorite one is the town BGM.

BTW I think the game could use a fast travel feature, maybe between statues? I don't know. But I think it will help reduce time of backtracking considerably.

Also, map markers sometimes disappear when placed too much. (New markers can't be placed)

Anyway it is in Early Access so there will be more content/fixes to come. This game has a lot of potentials.

แนว roguelite deckbuilding ที่ไม่ใช่การสะสมการ์ด แต่เป็นการหาสมบัติในดันเจี้ยน แล้วเอาสมบัตินั้นมาใช้ผจญภัยต่อ เช่น เก็บดาบมาใช้โจมตีต่อ โดยต้องบริหารพื้นที่ในกระเป๋าซึ่งมีจำกัด และพิจารณาว่าจะเอาสมบัติชิ้นไหนมาใช้ผจญภัยต่อ ในขณะเดียวกันต้องเก็บสมบัติบางชิ้นกลับบ้านด้วย เป็นเกมที่นำระบบจัดของมาใช้ได้อย่างสร้างสรรค์ แต่ไม่ชอบบางตัวละครเพราะรู้สึกว่ามันไม่เข้ากับ concept ของเกม แต่โดยรวมคือเพลินและดีใจที่ได้เล่นเกมนี้

I had high hope and hype for this game, but I am totally disappointed. I thought this will be the remake of the original O2Jam Online but it is totally NOT. I DO NOT recommend this game for these reasons:
- It feels like a bad port of the mobile version.
- When a button is pressed, it has no feedback (doesn't play a note like the original).
- No 2D UI like the original.
- Songs can't be purchased permanently, can only be rented for 7/30 real-time days.
- Money hungry with subscriptions.
- The spacebar button does not have distinct color (yellow) like the original.

If you are looking for a better rhythm games, I suggest you take a look at Muse Dash, MUSYNX, or DJ Max Respect instead of this trash.

(รีวิวแบบไม่มีสปอย) Tinykin เป็นเกมแนว 3D Platformer สไตล์น่ารัก ที่ผู้เล่นถูกย่อส่วนตัวเล็กนิดเดียว และจะได้ไปเจอกับสิ่งมีชีวิตที่เล็กกว่าเราอีก (เรียกพวกมันว่า Tinykin) ซึ่งเชื่อฟังคำสั่งของเรา และช่วยเราทำภารกิจต่างๆ เช่น ยกของ ผลักของที่ขวางทาง จุดไฟ จุดระเบิด ฯลฯ และจะได้เจอชาวบ้านชาวเมือง ซึ่งเป็นพวกแมลงสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีปัญหา เราจะเข้าไปช่วยแก้ไข ในขณะเดียวกันก็ทำภารกิจส่วนตัวไปด้วย

สิ่งที่ชอบมากๆ คือเรื่องดนตรี เสียงเพลงประกอบฉากในเกมนี้จะเป็นหนึ่งเพลงต่อหนึ่งด่านก็จริง แต่ในด่านนั้น ถ้าเราไปยืนในตำแหน่งสถานที่อื่น เพลงจะเปลี่ยนสไตล์ไปด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าไปยืนใกล้เปียโน เพลงประกอบฉากเป็นทำนองแบบเดิม แต่ใช้เปียโนเล่น ประทับใจมาก

กราฟิกดีทั้งตัวละครและฉาก น่ารักมาก บวกกับสิ่งของต่างๆ ในห้องที่ intuitive (เห็นแล้วเข้าใจได้เลยว่ามันใช้ทำอะไร) ทำให้เกมนี้เล่นไม่ยาก ซึ่งถึงต่อให้มีภารกิจให้ทำหลายอย่างต่อหนึ่งฉาก แต่เราสามารถเชื่อมโยงได้ทันทีว่า ของชิ้นไหนควรเอาไปแก้จุดไหนต่อ และในเกมมีให้เช็คได้ตลอดว่าขาดอะไร ภารกิจให้ทำอะไรต่อ สะดวกมาก ไม่ต้องจำเอง

จำนวนด่าน (stage) ไม่เยอะ แต่ว่าแต่ละด่าน เห็นห้องแค่นิดเดียวก็จริง แต่รายละเอียดเยอะมากกกก มีหลายซอกหลายมุม ในมุมในฉากต่ออีก ผู้เล่นสาย explorer นี่ฟินมากจ้า

สิ่งที่ไม่ชอบคือ ไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือในการเก็บของทั้งหมดให้ 100% ความหมายคือ ถ้าอยากทำต้องไล่เก็บเองทั้งฉาก ฟังดูเหมือนว่าสมควรแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การไล่ย้อนตามเก็บทุกกระเบียดนิ้วในฉากที่โคตรใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องสนุก เสียเวลาเพิ่มอีกหลายชั่วโมงเพื่อตามหานั้นไม่สนุก ยังดีที่ภารกิจหลักไม่ได้บังคับให้ทำ แต่ถ้าผู้เล่นอยากจะทำจริงๆ ก็มีทางเลือกคือ ยอมทนเสียเวลาไล่หาต่อไป หรือไม่ก็เปิดดู walkthrough ซึ่งมันคือนอกขอบเขตของเกม (metagaming) ส่วนตัวคิดว่าถ้าคนทำเกมเขาใส่ตัวช่วยมาให้ในเกมเลย จะน่าสนใจกว่านี้ (เช่นถ้าคุณผ่านด่านนั้นแล้ว ตอนย้อนกลับมาทำ มีไอเทมที่ช่วยสแกนหา อาจจะสแกนเป็นพื้นที่ใหญ่ๆ ว่าโซนนี้มีของเหลืออยู่ แล้วคุณก็ไปหาเอาในโซนนั้น เพื่อจำกัดบริเวณที่กว้างเกินไป ให้เหลือพื้นที่จำกัดให้เราหาได้ดีขึ้นได้)

เกมนี้เป็นเกมเล่นได้คนเดียว (single-player) แต่ใครบอกล่ะว่าต้องเล่นแค่คนเดียว แนะนำให้ช่วยกันนั่งหาเลยครับ ช่วยๆ กันหาจะได้ครบ 555

ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 9 ชั่วโมง 40 นาที เก็บครบ 100% ทุกอย่าง คุ้มค่ามากๆ

This War of Mine เป็นเกมสงคราม แต่เราไม่ใช่ทหารสู้กันในสงคราม เราเป็นเหยื่อชาวบ้านที่ติดอยู่ในเมือง ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่แร้นแค้น อดอยาก ขอความช่วยเหลือใครไม่ได้ เพื่อนบ้านเคยมีน้ำใจ กลายเป็นเอาเปรียบและหวังเอาประโยชน์ ใครดีใครได้ ใครไม่ทันก็ตายไปซะ ไม่ต้องคิดถึงวันพรุ่งนี้ เพราะอาจอยู่ไม่ถึงเย็นนี้ด้วยซ้ำ รอว่าสักวันจะสงบศึก ซึ่งไม่รู้จะมามั้ย บีบคั้นมาก

เกมนี้มีภาษาไทย ในรูปของ Mod ซึ่งผมเป็นคนแปลและทำ ปกติเวลาเราอยากแปลเกมไหน เราจะเล่นเกมนั้นด้วย แต่เกมนี้เป็นเกมเดียวในตอนนี้ ที่แปลแบบอ่านข้อความอย่างเดียว ไม่เข้าไปเล่น และ ไม่คิดจะเล่น (แต่ซื้อเพื่อสนับสนุนและขอบคุณคนทำเกมที่ตีแผ่มุมนี้ออกมา)

เสียงเพลงเมนูเกมหลอนขึ้นมาทันที จำได้ชัดเจนว่าเกมนี้ ตอนแปล ทำได้ไม่กี่ข้อความ แล้วบีบหัวใจมากต้องเลิกแล้วไปหาคลิปนก หรือคลิปใสๆ สวยๆ ดูแทน แล้ววันอื่นกลับมาทำต่อ มันเลยใช้เวลานานกว่าจะแปลเสร็จ โดยเฉพาะบทเด็ก หรือบทชาวบ้านที่เราไปเจอระหว่างทาง

ไม่สปอยนะ อยากรู้ให้ลองเอง เกมดีมากๆ แนะนำ Final Cut รวมเนื้อเรื่องใหญ่ๆ เพิ่มมาอีก และเนื้อหาที่ได้เจอกับเด็กด้วย ผมมองว่าเกมนี้ เป็นเกมแนวสงคราม ที่ตีแผ่เหตุการณ์ในสงคราม ได้ออกมาแบบ "สมจริง" และจดจำไม่เคยลืม

เรา "ไม่เคยเล่น" เกมนี้เลย ถ้าเข้าเกมก็แค่เข้าไปทดสอบม็อดไทยที่ทำเท่านั้น แต่รู้หมดเพราะแปลจากข้างนอก ยังอาการหนักมากเลย (เราอาจไม่ค่อยไหวกับเรื่องแนวนี้ด้วยเป็นทุนเดิม) แต่ขอเตือนเลยว่าใครจะเล่น ถ้าจิตอ่อนให้ข้ามไปจะดีกว่า

เคลียร์ 100% ใช้เวลาไป 17 ชั่วโมง รู้สึกว่าไม่คุ้มกับเวลาเลย

สิ่งที่ชอบ
+ ภาพสวยมาก
+ บรรยากาศแวดล้อมเหมือนหลุดเข้าไปในโลกนิทาน
+ เพลงเพราะ
+ เสียงพากย์อังกฤษแบบบริติช
+ ค่อยๆ เปิดเรื่องราวมาทีละนิด ให้เราค่อยๆ ทำความเข้าใจ และอินไปกับมัน
+ สอดแทรกข้อคิดและปัญหาที่เกิดขึ้นในโลกแห่งความจริง
+ นกฮูกตัวใหญญญ่ น้อนนกฮูกตัวเล็กกก

สิ่งที่ไม่ชอบ
- การผสมของเพื่อแก้ปริศนาไม่ intuitive, ปริศนาไม่ make sense ในหลายๆ เรื่อง, ไม่มี signposting/feedback ที่ดีพอ (กดดูไอเท็มก็พูดไม่ตรงประเด็น แถมเอะอะก็ No No No ตลอด) ทำให้กลายเป็นไม่สนุก อยากเล่นให้จบๆ ไปแล้วรอดู cutscene ต่อ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเป็นข้อผิดพลาดยิ่งใหญ่สำหรับเกม Point and Click Adventure ยิ่งถ้าเป็นมือใหม่ในแนวเกมแบบนี้เข้ามาลอง อาจจะกลายเป็นไม่ชอบแนวเกมนี้ไปเลยก็ได้
- ด้วยความที่ค่อยๆ เล่าเรื่องมากเกินไป เลยกลายเป็นเล่าไม่ทัน ต้องโยนมาให้ตู้มเดียวตอนท้ายเกม
- Achievement ที่ไม่บอกละเอียด ต้องนับเอง จดเอง พลาดแล้วพลาดเลย ถ้าไม่เซฟหลายๆ ช่องคือต้องเริ่มใหม่ (สำหรับ Achievement หลายๆ ตัวที่พลาดแล้วกลับไปแก้ไม่ได้ ผมจะอัปโหลด Save ให้โหลดไปปลดล็อก ซึ่งหาได้ในหัวข้อ Guide ของเกมนี้)

ข้อเสียข้อแรกคือปัญหาใหญ่ที่ไม่แนะนำเกมนี้ สำหรับคนที่อยากลองแนว Point and Click Adventure ที่สนุกและดี ปริศนาดีกว่านี้ (อาจมีข้อเสียบางส่วนนะแต่น้อยกว่านี้) แนะนำซีรี่ส์ Deponia ของค่าย Daedelic Entertainment เหมือนกันครับ

100% ใช้เวลาไปประมาณ 16h 30m

ผมชอบซีรี่ส์ Deponia มากๆ เล่นจบ 100% ทุกภาค เป็นเกมแนว Point and Click Adventure ที่สุดยอด ทั้งในด้านภาพ เพลง ระบบการเล่น ปริศนาที่ทำดีขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละภาค

Deponia Doomsday เป็นภาคที่ 4 ซึ่งมีเนื้อเรื่องต่อจากภาค 1-3 ที่ผ่านมา ต้องเล่นพวกนั้นให้จบก่อนจึงจะเล่นภาคนี้ ระบบเกมพัฒนากว่าเดิมมาก ปริศนาต่างๆ make sense ในแบบของมันมากขึ้น แบ่งเป้าหมายระยะยาวกับระยะสั้นชัดเจนดี แม้ว่าเกมนี้จะเล่นกับการเดินทางข้ามเวลา แต่ก็ไม่สับสนเรื่องปริศนาของแต่ละช่วง

ข้อเสียคือยังมีบางปริศนาที่ signposting/feedback (คำบรรยายบอกใบ้) ไม่ชัดเจน ที่ทำให้รู้สึกว่า "อีหยังวะ" แต่ก็ไม่เยอะ เทียบกับภาคก่อนๆ ที่เยอะกว่านี้ ก็ถือว่าภาคนี้ปรับปรุงขึ้นมาก

แต่ที่เกลียดที่สุดคือ Achievement จัดกลุ่มข้อมูล 3 ดิสก์ ดิสก์ละ 5 ลักษณะ ให้ครบทุกแบบในเกม (243 แบบ) มีเพื่ออะไร ทำไปก็ไม่ได้ช่วยแก้ปริศนาอะไร โมโห

เนื้อเรื่องมีการเดินทางข้ามเวลา ปรับอดีตเปลี่ยนอนาคต เราชอบเรื่องการเดินทางข้ามเวลาอยู่แล้วเลยถูกใจ ที่สำคัญคือเกมยาวพอสมควร เล่นแล้วรู้สึกอิ่มคุ้ม (น่าจะใกล้เคียงกับเล่นภาค 3) และประทับใจที่มีเนื้อหาใน Elysium ให้ทำเพิ่ม ใฝ่ฝันมานานตั้งแต่ภาคก่อนๆ

พอเล่น Doomsday จบแล้ว เรารู้สึกดีที่ได้เล่น ดีแล้วที่มีภาค 4 เพิ่มมา แต่รู้สึกเสียใจที่มันจบ อยากให้มีต่อ อยากเล่นต่อ สงสัยได้กลับไปย้อนเล่นภาคเก่าๆ อีก เล่นภาค 1-3 จบมาแล้ว 4 ปี เพิ่งมีโอกาสได้เล่น Doomsday คิดถึงจัง

Deponia (1-4) เป็นเกมแนว Point and Click Adventure อันดับหนึ่งในดวงใจ

Path of Exile สนุกดีนะ ไม่คิดว่าเกมฟรีจะสนุกขนาดนี้

ข้อดี
- สกิลมันคอมโบได้เยอะมาก ถ้าเอา support skill ไป link กับ skill ไหนก็ได้ มันจะเพิ่มผลของสกิลนั้น อย่างเช่น support: เสกผี ตอนที่เราฆ่ามอนได้ ผมเอาไป link กับสกิล Raise Zombie (ชุบซอมบี้) ผลกลายเป็น ถ้าซอมบี้ฆ่ามอนได้ จะเสกผีเพิ่มด้วย ไม่จำเป็นต้องเป็นเราฆ่ามอน
- ระบบขายของเป็นแบบ barter ทั้งกับผู้เล่นและ npc ด้วย ทำให้ลดปัญหาเงินเฟ้อ ของที่นำมาแลกแทนเงิน เป็นของ commodity และใช้แล้วหมดไป (เช่นของตีบวก)
- มีระบบ season วนเนื้อหาใหม่ๆ มาให้เล่นตลอด ในขณะที่ของเดิมก็ยังเก็บไว้เล่นได้อยู่

ข้อเสีย
- ของเต็มเร็วเกิน เดินในถ้ำ 10 ก้าว ของเต็มละ แล้วเรางกไง ก็วิ่งกลับไปขาย มาใหม่ รัวๆ 4-5 รอบ
- skill tree เป็นร้อยล้านจนเลือกได้ยาก เกิดปัญหา analysis paralysis ไม่รู้จะอัปอันไหน แต่ก็ยังดีที่มีไอเทมให้รีสกิลใหม่ได้

สนุกกว่าเกมแนวเดียวกันที่เสียเงินแพงๆ ที่ชื่อ ... Dungeons อีก

มีดีแค่ภาพสวย ที่เหลือเหมือนแค่พยายามทำกลิ่นอาย metroidvania ให้สาวกเกมสายนี้สนใจ แต่ทำแค่ผิวเผิน เหมือนไม่ใส่ใจลงไปด้วย ฉากจบ 2 แบบ(?) ที่ไม่ได้มีผลอะไร แค่เลือกตัวเลือก 2 แบบไม่เหมือนกันในตอนท้ายเแค่นั้นเลย เออถ้าการกระทำตั้งแต่ต้น ค่อยๆ ส่งผลกระทบมาก็ว่าไปอย่าง อันนี้เหมือนไม่ได้คิดวางแผนมา เหมือนแค่อยากคุยว่ามี 2 แบบนะก็เท่านั้น แล้วถ้าอยากเล่นแบบที่ 2 ด้วย ก็ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่แรก ไม่สามารถโหลดมาสู้อีกรอบได้ แล้วประเด็นคือ เล่น 5 ชั่วโมง เพื่อบทพูด 2 ประโยค แบบไม่ impact อะไรเลย

ระบบต่อสุ้กับเคลื่อนที่ clunky, ปุ่ม dodge/parry อยู่อันเดียวกันและรู้สึกว่าตอนเล่นมันไม่สมเหตุสมผล เนื้อเรื่องอีหยังวะ ฯลฯ