[จุดกำเนิด RTS+survival+TD]

=== ข้อมูลเบื้องต้น ===

ส่วนผสมอันลงตัวระหว่างเกมวางแผนแนว RTS ต้องบริหารจัดการทรัพยากรขยายโคโลนีเอาตัวรอดภายใต้บรรยากาศ streampunk วันสิ้นโลก เตรียมการป้องกันฐานให้ดีก่อนศัตรูจะแห่กันมาบุกฐานของคุณเป็นระลอกๆ เป้าหมายของคุณนั้นเข้าใจง่ายมาก ต้านทานการบุกเวฟสุดท้ายให้ได้คือชนะ

มันต่างกับ RTS กระแสหลักอย่างไร? ในอดีตแม้ว่าผมจะเคยเล่นเกม RTS ที่มีลักษณะต้านทานการบุกเมื่อสิ้นเวลานับถอยหลัง หากกันได้คือชนะอะไรแบบนี้มาบ้าง เช่น Strongholdภาค1 C&C(บางภารกิจ)เป็นต้น ส่วนใหญ่แนว RTS กระแสหลักมักให้เราสร้างฐานไปเรื่อยๆ ควบคู่ไปกับการออกยูนิตมาปะทะกับศัตรู พอเราตีฐานศัตรูแตกหรือกวาดล้างศัตรูให้หมดคือชนะ ลักษณะการป้องกันฐานไปเรื่อยๆเมื่อครบกำหนดเวลามักเป็นภารกิจเสริมเสียมากกว่า (ยกเว้น Stronghold ภาค1) การมาถึงของเกม They are billions ช่วยเปิด genre ย่อยใหม่ให้เกิดขึ้น คือคุณไม่มีฐานหลักของศัตรูให้ตี คุณแค่พยายามขยายฐานและสร้างการป้องกันไปเรื่อยๆ โดยเกมจะเทกองทัพศัตรูใส่เราเป็นระยะๆ โดยระลอกสุดท้ายเป็น"การเทหมดหน้าตัก" หากเราป้องกันได้คือจบเกม ในอนาคตจะมีเกมแนว TAB อีกมากมายเกิดขึ้น โดยเปลี่ยนจากซอมบี้เป็นมอนสเตอร์หรือเอเลี่ยนอะไรก็ตามแต่ ขอให้พึงระลึกไว้ว่ารากเหง้าของเกมแนว TAB คือลักษณะแบบนี้

โผล่มาคุณจะมีฐานหลักอยู่กึ่งกลางแผนที่พร้อมกับทหารจำนวนหยิบมือ ส่วนพื้นที่อื่นๆในแผนที่น่ะเหรอ ซอมบี้ทั้งนั้น (อย่าถามผมว่ามันมาสร้างโคโลนีกลางดงซอมบี้ได้ยังไง) หน้าที่เราคือต้องค่อยๆขยายโคโลนีไปเรื่อยๆ เอาทหารค่อยๆไล่กระชับคืนพื้นที่ พร้อมกับป้องกันศัตรูที่อาจมาหรอยฐายเราเมื่อไหร่ก็ได้ ไล่สร้างโรงงานเก็บทรัพยากรตามแผนที่ โดยมีวิจัยเทคโนโลยีให้ได้สิ่งก่อสร้างหรือยูนิตใหม่ๆ เกมนี้ศัตรูจะแห่แหนมาฐานเราเป็นระลอกๆ(ทีนึงหลายร้อยจนไปถึงหลายพันตัว) โดยเกมจะบอกว่าระลอกต่อไปมาถึงวันไหนจากทิศอะไร เราก็ต้องสร้างแนวป้องกันเตรียมรับมือ ส่วนระลอกสุดท้ายเป็นการเทหมดหน้าตักคือมารอบทิศ หากป้องกันได้คือชนะ

เกมถือว่ามีหลายองค์ประกอบที่ถือว่ายาก ผู้ที่เพิ่งใหม่(โดยเฉพาะไม่ชอบแนวRTS)อาจเบือนหน้าหนีได้ง่ายๆ คอนเซปของมันคือ พลาดครั้งเดียวล้มทั้งกระดาน ระบบอันลือชื่อสุดเกรียนของมันคือระบบปฏิกิริยาลูกโซ่ (chain reaction) หลายๆสิ่งในเกมก็เหมือนเอื้อให้คุณเผลอ ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยพอแก้ไขจนไปถึงขั้นพินาศ เช่น สิ่งก่อนสร้างมันมีระยะมองเห็นไม่ไกล(ถ้าไม่ใช่พวกป้อมหรือหอสังเกตการณ์) หากคุณจดจ่อกับงานอะไรมากไปจนลืมดูมินิแมพ รู้สึกตัวอีกทีคือเสียงเตือนว่าซอมบี้ตีฐานอยู่ ซึ่งหากมันตีสิ่งก่อสร้างเนี่ยมันแตกไวมาก และเมื่อสิ่งก่อสร้างนั้นติดเชื้อ คนงานในสิ่งก่อสร้างทุกคนจะกลายเป็นซอมบี้ไปไล่ตีสิ่งก่อสร้างถัดไปไปเรื่อยๆ ดังนั้นคุณอาจสร้างฐานเป็นชั่วโมง แต่ซอมบี้ตัวเดียวที่หลงเข้ามาจะทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่เป็นกองทัพซอมบี้ลุกลามจนควบคุมไม่ไหวได้

ระบบต่างๆถือว่าเบสิกเข้าใจง่าย ใครเคยเล่นแนว RTS ก็เข้าใจได้ทันที แต่คุณอาจต้องใช้เวลาเรียนรู้อยู่บ้างเพื่อเล่นให้รอด ซึ่งหากคุณเล่นจนช่ำชองแล้ว คุณจะได้พบกับอีกรสชาติของความสนุกและความท้าทายที่หาไม่ได้จากเกมอื่นๆ

โหมดในเกมหลักๆมี 4 รูปแบบ campaign เนื้อเรื่องหลัก / survival เอาตัวรอดในแผนที่สุ่ม / challange ประจำรายสัปดาห์หรือรายเดือน / เล่นแผนที่ custom ซึ่งเอาเข้าจริงๆทั้งหมดนั้น gameplay ก็คล้ายๆกันดังที่ผมกล่าวข้างต้น คุณค่าทั้งหมดจึงแทบอยู่ที่โหมดเนื้อเรื่องหลัก (campaign) ในโหมดนี้เราจะรับหน้าที่เป็นแม่ทัพช่วยขยายโคโลนีให้อาณาจักรแห่งสุดท้าย(?)ของมนุษย์ โดยไล่ทวงคืนพื้นที่จากฝูงซอมบี้ที่มีอยู่เต็มพื้นทวีปไปหมด เกมมีความอิสระให้เราสามารถเลือกทำภารกิจใดก่อนหลังได้ การชนะภารกิจนึงจะเปิดภารกิจถัดๆไปเป็นลักษณะเหมือนโครงข่ายใยแมงมุม โดยภารกิจมี 3 รูปแบบ

1. Colony mission สร้างฐานป้องกันซอมบี้ตาม gameplay หลัก
2. Tactical mission เป็นลักษณะเราควบคุมฮีโร่ (มีให้เลือกชายกับหญิง) เข้าไปสำรวจเก็ยทรัพยากรในพื้นที่
3. Swarm mission แบบไม่ใช่สร้างฐาน แค่เลือกส่วนผสมยูนิตวางๆแล้วให้ยูนิตป้องกันศัตรูที่ไหลบ่ามารอบทิศ

แต่ละแผนที่เมื่อเล่นเสร็จจะได้แต้มคะแนนกับแต้มการวิจัย แต้มวิจัยช่วยปลอดล็อคเทคโนโลยีใหม่ๆเป็นตัวช่วยให้เราเล่นฉากต่อๆไปได้ง่ายขึ้น แต้มคะแนนนั้นจะถูกคูณตามระดับความยากเมื่อเล่นผ่าน (แต่จะโดนหักออากบางส่วนถ้าภารกิจล้มเหลว) เมื่อจบแคมเปญทั้งหมด คะแนนที่ได้คือแต้มคะแนนทั้งหมดบวกกัน

ในแคมเปญมีทั้งหมดราว 50 ภารกิจ กินเวลาการเล่นอย่างน้อย 60-70 ชั่วโมงแน่ๆ โดยแต่ละภารกิจจะบ่งบอกความยากว่ามีกี่หัวกระโหลก อันนี้ยังไม่รวมเรากดเพิ่มความยากแคมเปญได้อีกเพื่อให้ได้คะแนนเยอะๆ+ความมันส์ หรือหากเราติดจนเล่นไม่ผ่านจริงๆก็สามารถมากดลดความยากชั่วคราวได้ โดย Swarm mission นี่รูปแบบการเล่นอ่อนที่สุด แทบเป็นการปล่อย AFK ให้ผ่านด่าน Tactical mission เองออกแบบมาได้ดีกว่าแต่ชวนหัวร้อนได้มาก ฮีโร่ตายคือเริ่มใหม่(เช่นโดนศัตรู one shot kill หรือพลาดปาระเบิดโดนตัวเองตาย) หรือบางทีต่อให้เราเคลียร์ศัตรูทั้งแผนที่แล้วยังต้องมานั่งหาว่าแต้มวิจัยมันอยู่ตรงไหนฟะแทบตาแตก (มันเกม photo hunt หรือไง?) ไอ้ Tactical mission เนี่ยหลายๆอันจะข้ามก็ได้ แต่ถ้าเล่นก็จะทำให้ได้แต้มวิจัยมาช่วยอัพเทคโนโลยีให้เล่นแผนที่ต่อๆไปง่ายขึ้น รสชาติจริงๆของแคมเปญจึงอยู่ที่ colony mission แบบดั้งเดิมนั่นแหละ

เสียงประกอบเกมนี้ทำได้ดี ส่วนตัวผมชอบ soundtrack ที่เป็น orchestra หลายๆอัน โดยเฉพาะที่มาตอน final wave มันติดหูมาก (ลองไปดูกระบวนการอัด soundtrack ได้ใน youtube) อนาคตผมเล่นเกมแนว TAB อีกกี่เกม เวฟสุดท้่ายผมก็อาจเผลอฮัมเพลง final swarm ของ TAB อยู่ร่ำไป

=== สรุป ===

++ ต้นตระกูล"เกมแนวTAB" จุดเด่นอยู่ที่ความเข้าใจง่าย เรียนรู้ได้ง่าย ระบบยังไม่ซับซ้อน เน้นเรื่อง time management มากกว่า resource management

+ Quality of life ที่ขัดเกลามาค่อนข้างดีตามาตรฐาน และสามารถตั้ง custom key ได้ / soundtrack ที่ทำมาได้ค่อนข้างดี / ตั้งแต่เล่นมายังไม่เคยเจอบัคเลย(?)

+/- "easy to learn, hard to master" ด้วยความไม่ซับซ้อนหากมองอีกทางคือผู้เล่นเองก็มีตัวช่วยไม่มาก หากชอบแนวนี้จะพบว่าเกมมีความสนุกและท้าทายอย่างมาก ในความยากระดับสูงๆต้องรีดเร้นความสามารถการ mutitasking ในระดับนึง (อนาคตเกมแนว TAB ที่ตามออกมาในอนาคตน่าจะง่ายขึ้นเรื่อยๆ)

+/- แคมเปญเป็นตัวชูโรงหลัก มี Colony mission ที่ดี แต่อาจมี Swarm mission ที่ไร้สาระ / Tactical mission ที่ปวดตับ(และปวดตา) มาลดทอนคะแนนลงไป

- เนื่องจากลักษณะของเกมที่ค่อนข้างไม่ซับซ้อนและจังหวะเกมที่เนิบนาบ เล่นๆไปสิ่งที่คุณทำได้คือเพิ่มความยากขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดนึงคุณอาจพบว่ามันซ้ำซากจำเจ แต่นั่นก็น่าจะกินเวลาไปกะมันหลายสิบชั่วโมงจนคุ้มค่าเกินราคาแล้วล่ะนะ

[จุดกำเนิด RTS+survival+TD] === ข้อมูลเบื้องต้น === ส่วนผสมอันลงตัวระหว่างเกมวางแผนแนว RTS ต้องบริหารจัดการทรัพยากรขยายโคโลนีเอาตัวรอดภายใต้บรรยากาศ streampunk วันสิ้นโลก เตรียมการป้องกันฐานให้ดีก่อนศัตรูจะแห่กันมาบุกฐานของคุณเป็นระลอกๆ เป้าหมายของคุณนั้นเข้าใจง่ายมาก ต้านทานการบุกเวฟสุดท้ายให้ได้คือชนะ มันต่างกับ RTS กระแสหลักอย่างไร? ในอดีตแม้ว่าผมจะเคยเล่นเกม RTS ที่มีลักษณะต้านทานการบุกเมื่อสิ้นเวลานับถอยหลัง หากกันได้คือชนะอะไรแบบนี้มาบ้าง เช่น Strongholdภาค1 C&C(บางภารกิจ)เป็นต้น ส่วนใหญ่แนว RTS กระแสหลักมักให้เราสร้างฐานไปเรื่อยๆ ควบคู่ไปกับการออกยูนิตมาปะทะกับศัตรู พอเราตีฐานศัตรูแตกหรือกวาดล้างศัตรูให้หมดคือชนะ ลักษณะการป้องกันฐานไปเรื่อยๆเมื่อครบกำหนดเวลามักเป็นภารกิจเสริมเสียมากกว่า (ยกเว้น Stronghold ภาค1) การมาถึงของเกม They are billions ช่วยเปิด genre ย่อยใหม่ให้เกิดขึ้น คือคุณไม่มีฐานหลักของศัตรูให้ตี คุณแค่พยายามขยายฐานและสร้างการป้องกันไปเรื่อยๆ โดยเกมจะเทกองทัพศัตรูใส่เราเป็นระยะๆ โดยระลอกสุดท้ายเป็น"การเทหมดหน้าตัก" หากเราป้องกันได้คือจบเกม ในอนาคตจะมีเกมแนว TAB อีกมากมายเกิดขึ้น โดยเปลี่ยนจากซอมบี้เป็นมอนสเตอร์หรือเอเลี่ยนอะไรก็ตามแต่ ขอให้พึงระลึกไว้ว่ารากเหง้าของเกมแนว TAB คือลักษณะแบบนี้ โผล่มาคุณจะมีฐานหลักอยู่กึ่งกลางแผนที่พร้อมกับทหารจำนวนหยิบมือ ส่วนพื้นที่อื่นๆในแผนที่น่ะเหรอ ซอมบี้ทั้งนั้น (อย่าถามผมว่ามันมาสร้างโคโลนีกลางดงซอมบี้ได้ยังไง) หน้าที่เราคือต้องค่อยๆขยายโคโลนีไปเรื่อยๆ เอาทหารค่อยๆไล่กระชับคืนพื้นที่ พร้อมกับป้องกันศัตรูที่อาจมาหรอยฐายเราเมื่อไหร่ก็ได้ ไล่สร้างโรงงานเก็บทรัพยากรตามแผนที่ โดยมีวิจัยเทคโนโลยีให้ได้สิ่งก่อสร้างหรือยูนิตใหม่ๆ เกมนี้ศัตรูจะแห่แหนมาฐานเราเป็นระลอกๆ(ทีนึงหลายร้อยจนไปถึงหลายพันตัว) โดยเกมจะบอกว่าระลอกต่อไปมาถึงวันไหนจากทิศอะไร เราก็ต้องสร้างแนวป้องกันเตรียมรับมือ ส่วนระลอกสุดท้ายเป็นการเทหมดหน้าตักคือมารอบทิศ หากป้องกันได้คือชนะ เกมถือว่ามีหลายองค์ประกอบที่ถือว่ายาก ผู้ที่เพิ่งใหม่(โดยเฉพาะไม่ชอบแนวRTS)อาจเบือนหน้าหนีได้ง่ายๆ คอนเซปของมันคือ พลาดครั้งเดียวล้มทั้งกระดาน ระบบอันลือชื่อสุดเกรียนของมันคือระบบปฏิกิริยาลูกโซ่ (chain reaction) หลายๆสิ่งในเกมก็เหมือนเอื้อให้คุณเผลอ ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยพอแก้ไขจนไปถึงขั้นพินาศ เช่น สิ่งก่อนสร้างมันมีระยะมองเห็นไม่ไกล(ถ้าไม่ใช่พวกป้อมหรือหอสังเกตการณ์) หากคุณจดจ่อกับงานอะไรมากไปจนลืมดูมินิแมพ รู้สึกตัวอีกทีคือเสียงเตือนว่าซอมบี้ตีฐานอยู่ ซึ่งหากมันตีสิ่งก่อสร้างเนี่ยมันแตกไวมาก และเมื่อสิ่งก่อสร้างนั้นติดเชื้อ คนงานในสิ่งก่อสร้างทุกคนจะกลายเป็นซอมบี้ไปไล่ตีสิ่งก่อสร้างถัดไปไปเรื่อยๆ ดังนั้นคุณอาจสร้างฐานเป็นชั่วโมง แต่ซอมบี้ตัวเดียวที่หลงเข้ามาจะทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่เป็นกองทัพซอมบี้ลุกลามจนควบคุมไม่ไหวได้ ระบบต่างๆถือว่าเบสิกเข้าใจง่าย ใครเคยเล่นแนว RTS ก็เข้าใจได้ทันที แต่คุณอาจต้องใช้เวลาเรียนรู้อยู่บ้างเพื่อเล่นให้รอด ซึ่งหากคุณเล่นจนช่ำชองแล้ว คุณจะได้พบกับอีกรสชาติของความสนุกและความท้าทายที่หาไม่ได้จากเกมอื่นๆ โหมดในเกมหลักๆมี 4 รูปแบบ campaign เนื้อเรื่องหลัก / survival เอาตัวรอดในแผนที่สุ่ม / challange ประจำรายสัปดาห์หรือรายเดือน / เล่นแผนที่ custom ซึ่งเอาเข้าจริงๆทั้งหมดนั้น gameplay ก็คล้ายๆกันดังที่ผมกล่าวข้างต้น คุณค่าทั้งหมดจึงแทบอยู่ที่โหมดเนื้อเรื่องหลัก (campaign) ในโหมดนี้เราจะรับหน้าที่เป็นแม่ทัพช่วยขยายโคโลนีให้อาณาจักรแห่งสุดท้าย(?)ของมนุษย์ โดยไล่ทวงคืนพื้นที่จากฝูงซอมบี้ที่มีอยู่เต็มพื้นทวีปไปหมด เกมมีความอิสระให้เราสามารถเลือกทำภารกิจใดก่อนหลังได้ การชนะภารกิจนึงจะเปิดภารกิจถัดๆไปเป็นลักษณะเหมือนโครงข่ายใยแมงมุม โดยภารกิจมี 3 รูปแบบ 1. Colony mission สร้างฐานป้องกันซอมบี้ตาม gameplay หลัก 2. Tactical mission เป็นลักษณะเราควบคุมฮีโร่ (มีให้เลือกชายกับหญิง) เข้าไปสำรวจเก็ยทรัพยากรในพื้นที่ 3. Swarm mission แบบไม่ใช่สร้างฐาน แค่เลือกส่วนผสมยูนิตวางๆแล้วให้ยูนิตป้องกันศัตรูที่ไหลบ่ามารอบทิศ แต่ละแผนที่เมื่อเล่นเสร็จจะได้แต้มคะแนนกับแต้มการวิจัย แต้มวิจัยช่วยปลอดล็อคเทคโนโลยีใหม่ๆเป็นตัวช่วยให้เราเล่นฉากต่อๆไปได้ง่ายขึ้น แต้มคะแนนนั้นจะถูกคูณตามระดับความยากเมื่อเล่นผ่าน (แต่จะโดนหักออากบางส่วนถ้าภารกิจล้มเหลว) เมื่อจบแคมเปญทั้งหมด คะแนนที่ได้คือแต้มคะแนนทั้งหมดบวกกัน ในแคมเปญมีทั้งหมดราว 50 ภารกิจ กินเวลาการเล่นอย่างน้อย 60-70 ชั่วโมงแน่ๆ โดยแต่ละภารกิจจะบ่งบอกความยากว่ามีกี่หัวกระโหลก อันนี้ยังไม่รวมเรากดเพิ่มความยากแคมเปญได้อีกเพื่อให้ได้คะแนนเยอะๆ+ความมันส์ หรือหากเราติดจนเล่นไม่ผ่านจริงๆก็สามารถมากดลดความยากชั่วคราวได้ โดย Swarm mission นี่รูปแบบการเล่นอ่อนที่สุด แทบเป็นการปล่อย AFK ให้ผ่านด่าน Tactical mission เองออกแบบมาได้ดีกว่าแต่ชวนหัวร้อนได้มาก ฮีโร่ตายคือเริ่มใหม่(เช่นโดนศัตรู one shot kill หรือพลาดปาระเบิดโดนตัวเองตาย) หรือบางทีต่อให้เราเคลียร์ศัตรูทั้งแผนที่แล้วยังต้องมานั่งหาว่าแต้มวิจัยมันอยู่ตรงไหนฟะแทบตาแตก (มันเกม photo hunt หรือไง?) ไอ้ Tactical mission เนี่ยหลายๆอันจะข้ามก็ได้ แต่ถ้าเล่นก็จะทำให้ได้แต้มวิจัยมาช่วยอัพเทคโนโลยีให้เล่นแผนที่ต่อๆไปง่ายขึ้น รสชาติจริงๆของแคมเปญจึงอยู่ที่ colony mission แบบดั้งเดิมนั่นแหละ เสียงประกอบเกมนี้ทำได้ดี ส่วนตัวผมชอบ soundtrack ที่เป็น orchestra หลายๆอัน โดยเฉพาะที่มาตอน final wave มันติดหูมาก (ลองไปดูกระบวนการอัด soundtrack ได้ใน youtube) อนาคตผมเล่นเกมแนว TAB อีกกี่เกม เวฟสุดท้่ายผมก็อาจเผลอฮัมเพลง final swarm ของ TAB อยู่ร่ำไป === สรุป === ++ ต้นตระกูล"เกมแนวTAB" จุดเด่นอยู่ที่ความเข้าใจง่าย เรียนรู้ได้ง่าย ระบบยังไม่ซับซ้อน เน้นเรื่อง time management มากกว่า resource management + Quality of life ที่ขัดเกลามาค่อนข้างดีตามาตรฐาน และสามารถตั้ง custom key ได้ / soundtrack ที่ทำมาได้ค่อนข้างดี / ตั้งแต่เล่นมายังไม่เคยเจอบัคเลย(?) +/- "easy to learn, hard to master" ด้วยความไม่ซับซ้อนหากมองอีกทางคือผู้เล่นเองก็มีตัวช่วยไม่มาก หากชอบแนวนี้จะพบว่าเกมมีความสนุกและท้าทายอย่างมาก ในความยากระดับสูงๆต้องรีดเร้นความสามารถการ mutitasking ในระดับนึง (อนาคตเกมแนว TAB ที่ตามออกมาในอนาคตน่าจะง่ายขึ้นเรื่อยๆ) +/- แคมเปญเป็นตัวชูโรงหลัก มี Colony mission ที่ดี แต่อาจมี Swarm mission ที่ไร้สาระ / Tactical mission ที่ปวดตับ(และปวดตา) มาลดทอนคะแนนลงไป - เนื่องจากลักษณะของเกมที่ค่อนข้างไม่ซับซ้อนและจังหวะเกมที่เนิบนาบ เล่นๆไปสิ่งที่คุณทำได้คือเพิ่มความยากขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดนึงคุณอาจพบว่ามันซ้ำซากจำเจ แต่นั่นก็น่าจะกินเวลาไปกะมันหลายสิบชั่วโมงจนคุ้มค่าเกินราคาแล้วล่ะนะ