20
Products
reviewed
0
Products
in account

Recent reviews by Binary010110

< 1  2 >
Showing 1-10 of 20 entries
5 people found this review helpful
91.7 hrs on record (11.1 hrs at review time)
[ตะลุยเขาวงกต Rougelike / เอาตัวรอดจากสารพัดผีสาง / บรรยากาศญี่ปุ่นจ๋าๆ]

(ตอนแรกผมก็ว่าจะไม่รีวิวเกมแนวนี้ บังเอิญเคราะห์หามยามดีดันเปิดไปดูเจ้าพ่อวงการเล่นแล้วเกิดความสนใจในระบบ gameplay ก็เลยกดซื้อมาเล่นเองขำๆ ปรากฎว่าเล่นไปเล่นมา แปปๆ อ้าว จบเกมไม่รู้ตัว แถมชอบอีก ก็เลยจะมาเขียนรีวิวทิ้งไว้ให้ท่านผู้สนใจครับ)

Shadow corridor เป็นเกมแนวหนีผีในเขาวงกต โดยมันจะสุ่มเขาวงกตให้ใหม่ในการเล่นแต่ละรอบ (ตามสไตล์เกม rougelike) หน้าที่ของคุณคือหา "หยกสีเขียว" ราว 3-5 ชิ้นตามระดับความยาก เมื่อครบก็เดินหาทางออกได้เลย ฟังดูง่ายใช่ไหมครับ? เพราะแบบนั้นเกมเลยเตรียมอุปสรรคนานาประการมาขัดขวางเรา โดยเฉพาะฝูงผีซึ่งเกมนึงจะมีอย่างน้อย 2-3 ตัวแน่ๆ คอยดักรุมกระทืบเราในเขาวงกต เราเองก็ต้องพยายามหลบๆซ่อนๆรวมถึงควานหาไอเทมต่างๆมาใช้เพื่อเอาตัวรอดออกไปให้ได้

Gameplay ถือเป็นจุดแข็งที่สุดของ Shadow corridor ตั้งแต่ภาคแรก ภาคนี้ได้รับการปรับสมดุลให้มีความท้าทายลุ้นระทึกโดยไม่ทรมานคนเล่นจนเกินไป มีการปรับปรุงให้มีมิติเพิ่มขึ้นหลายๆด้าน ตัวอย่างเช่น...
- ระบบการ์ดที่เหมือน perk โดยเราสามารถลองใส่ๆถอดๆให้เหมาะกับสไตล์การเล่นของเรา เช่น ย่องได้เบาขึ้น พังประตูด้วยมือเปล่า ช่องเก็บไอเทมเพิ่มขึ้น ฯลฯ แต่เดิมไอ้หยกที่เราเก็บมาภาคแรกคือไร้ความหมาย แต่ภาคนี้หยกที่ว่าสามารถนำไปแลกซื้อการ์ด perk ได้ ทำให้หยกควรค่าแก่การฟาร์ม
- ระบบโซล (วิญญาณ) พูดง่ายๆเหมือนแต้ม mana ในเกม คุณเก็บได้เรื่อยๆ แต่ก็ใช้ไปเรื่อยๆหากใช้ความสามารถต่างๆในเกม เช่น ใช้เป็นเชื้อเพลิงไฟฉายที่สว่างกว่าปกติ ใช้แสดงมินิแมพ เอาไปแลกเพิ่ม max HP หรือ 1UP ฯลฯ
- ระบบร้านค้า ใช้เทรดแลกเปลี่ยนไอเทมโดยมีสื่อกลางคือโซลเป็นค่าเงิน คุณอาจเป็นสายฟาร์มที่รวยโซลจากการเทรดกับร้าน หรืออาจไม่ใช้งานมันเลยก็สามารถเล่นจบได้
- ระบบ corruption หลักๆมาจากการแตะน้ำหรือโดนฝนในด่าน อันนี้เป็นอุปสรรคกับผู้เล่น โดยจะทำให้เลือดผู้เล่นลดลงเรื่อยๆ ยิ่งค่านี้สูงยิ่งลดไว
- ไอเทมใหม่ๆ คือบางอันมันดูโกงดีมากเทียบกับภาคก่อน แต่ความหลากหลายของมันก็ช่วยเพิ่มมิติให้กับ gameplay ได้เป็นอย่างดี แบบว่าหนีจนเหนื่อยแล้วงั้นรึ? เจอนี่หน่อย ปืนลูกโม่ลงอาคม
- พื้นที่สำหรับคั่นเวลาระหว่างภารกิจ (intermission) ให้คุณนั่งชิว ชมบรรยากาศ ฟังเพลง จิบกาแฟ ให้อาหารหอยทาก ฯลฯ (ซึ่งในภาคแรกจะไม่มีพื้นที่พักใจแบบนี้เลย)

ภาคนี้มีการปรับปรุงให้มีความแฟร์ที่มากขึ้นและเล่นง่ายขึ้นกว่าภาคแรก เดิมอยากบอกว่าผีภาคแรกเนี่ยหูผีจมูกมดมาก ญาณสัมผัสเข้าขั้นรู้ดีเกินคน(ว่าไปมันก็ไม่ใช่คน) ซ่อนดีแค่ไหนก็โดนแดก ไว้ใจไม่ได้เลยถ้าไม่อยู่ในที่ซ่อน(กล่อง/หีบ) ถ้าโดนเจอทีคือหนียากสุดๆแทบปล่อยจอยได้เลย เพราะเราวิ่งแล้วมีเหนือย ภาคใหม่นี้คือเล่นหลบซ่อนลอบเร้นได้ดีขึ้น ผีไม่รู้ดีจนเว่อร์แล้ว ระบบ perk / โซล / ร้านค้า ที่ใส่มาเพิ่มล้วนเป็นคุณกับผู้เล่นทั้งสิ้น นอกจากนี้เกมยังเปิดให้เลือกระดับความยากก่อนเล่นแต่ละด่านได้ด้วย (แบบง่ายนี่คือ หาหยกแค่3ชิ้น คุณอาจผ่านได้ภายใน 10 นาทีเท่านั้น)

ในด้านกราฟฟิคมีการพัฒนาขึ้นอย่างมาก ด้วยขุมพลัง unreal engine 4 เสริมด้วยบรรยากาศแบบญี่ปุ่นจ๋าๆ ด่านแต่ละด่านดูมีความเป็นเอกลักษณ์ และให้บรรยากาศในการเล่นที่แตกต่างกัน (ก็แน่ล่ะ ออกมาหลังจากภาคแรกนานโข กราฟฟิคเลยคนละเรื่อง)

สุดท้ายด้านเนื้อเรื่องนี่ ผมว่าอย่าไปคิดอะไรมาก เพราะเกมนี้ core หลักคือ gameplay ล้วนๆ แต่กระนั้นก็ต้องบอกว่าเนื้อเรื่องทำได้เข้าใจง่ายมาก เคลียร์ในตัวของมันเองระดับนึง ต่อให้ไม่ต้องอ่านเอกสารในเกมเลยก็ตาม เทียบกับภาคแรกนี่เนื้อเรื่องนี่มีความซับซ้อนมากกว่าภาคใหม่นี้อยู่พอสมควร หลายอย่างต้องอ่านเองจากเอกสาร หรือต่อให้อ่านแล้ว หลายเรื่องก็ยังไม่เคลียร์อยู่ดี

======== [สรุป] ========

++ Core gameplay ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น คุณภาพคับแก้ว มันคือการหนีผีในเขาวงกต เหมาะสำหรับผู้รักความท้าทาย โดยเฉพาะภาคนี้ได้รับการออกแบบมาให้เข้าใจได้ง่ายไม่ซับซ้อน น่าจะทำให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น อย่ากดซื้อถ้าคุณไม่รู้ว่านี่คือเกมอะไร แต่ถ้าเคยเห็น gameplay แล้วรับกับมันได้ ซื้อมาลองโลดเลยครับ ของดีในราคาโคตรถูก

+ บรรยากาศในเกม ผมว่าไม่ถึงกับสยองขวัญหรือหลอนอะไรแบบนั้น แต่มันเป็นลักษณะบรรยากาศที่กดดันมากกว่า เป็นความกดดันที่พอประมาณ เมื่อผ่านแล้วเอนโดรฟินในหัวก็หลั่งให้ความฟินไปอีกแบบ ตรงนี้ดูคล้าย dark deception (แต่อันนั้นมันวิ่งโฉ่งฉ่าง) ผมยังไม่แน่ใจว่าสรุปแล้วจะเรียกมันว่า"เกมผี"ได้หรือเปล่า ต่อให้ใส่อุปสรรคเป็นผีมาก็เถอะนะ

+ กราฟฟิคในเกมสวยสด ฉากทำมาได้หลากหลายดีมาก จำนวนด่านเหมาะสมกับราคา

+/- เนื้อเรื่องเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน จริงๆคงไม่เน้น เพราะเกมนี้เด่นเรื่อง gameplay

- บัคเล็กน้อยประปราย (แก้รีวิวให้ เพราะทีมงานทยอย patch บัคใหญ่ๆไปแล้ว)
Posted 2 April. Last edited 5 April.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
No one has rated this review as helpful yet
2.2 hrs on record
ddd
Posted 26 November, 2023.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
3 people found this review helpful
27.9 hrs on record (27.8 hrs at review time)
[เกมแนวบริหารจัดการธุรกิจสีเทา / ด้วยกลิ่นอายแบบ breaking bad / อนาคตยังจะคาดหวังให้พัฒนาได้ไกลกว่านี้สักแค่ไหน?]

Definitely Not Fried Chicken เป็นเกมที่จะให้คุณสร้างโครงข่ายธุรกิจโลกสีเทา คุณจะเริ่มต้นจากฐานบัญชาการใหญ่คือโรงงานผลิตยาเสพย์ติด ที่ตั้งอยู่แบบทนโท่กลางเมือง คุณจะอยู่กับธุรกิจ"สีดำ"โดยผลิตยาส่งขายตามออเดอร์ที่มาทางโทรศัพท์โดยตรง หรือจะไม่ผลิตยาเลยแต่ซื้อพื้นที่บริหารธุรกิจ"สีขาว"เพียวๆ เช่น ร้านไก่ทอด ร้านโดนัท ไนท์คลับ คาสิโน ฯลฯ (แต่สายขาวเล่นยากกว่ามาก) อย่างไรก็ตาม core หลัก เหมือนเค้าจงใจให้เล่นแบบ"สีเทา" คือสร้างธุรกิจอื่นๆขึ้นบังหน้าเพื่อลักลอบขายยาเสพย์ติดนั่นเอง

ธุรกิจในเกมมี 6 ประเภท แต่ละประเภทมาด้วยกลไกการทำเงินแตกต่างกันพอควร มีเวลาทำการที่ต่างกัน และสามารถลอบจำหน่ายยาเสพย์ติดได้ต่างชนิดกัน โดยยามี 3 กลุ่มหลัก คือ กัญชา เมทแอมเฟตตามีน และโคเคน แต่ละกลุ่มก็มีแยกย่อยลงไปอีกกลุ่มละ 3 ชนิด เช่น กัญชาก็มี สายพันธุ์พื้นฐาน สายพันธุ์ roast และสายพันธุ์อะเมซอน เป็นต้น มูลค่าของยาที่ผลิตได้จะขึ้นกับคุณภาพโดยระบุเป็น 1-3 ดาว ทำให้ต้องมานั่งจัดเรื่องของแสง อุณภูมิ ความชื้นในอากาศ เพื่อให้ได้ยาที่คุณภาพสูงๆ

โอเค มาดูแง่ลบกันบ้าง โดยส่วนตัวคิดว่าแรงบันดาลใจของเกมน่าจะมาจาก breaking bad โดยตรง ซึ่งแม้จะรวมระยะเวลาพัฒนาก็ถือว่าออกมาสายไปนานโขหลายปี ด้วยคอนเซปหลักๆ "ผลิตยาขายโดยใช้ธุรกิจอื่นๆบังหน้า" ซึ่ง... ก็มีดีอยู่แค่นั้นจริงๆ หลายๆอย่างดูกลวงไปเสียหมด หลักๆคือเกมนี้เป็น sandbox ซึ่งก็มีเป้าหมายในเกมนิดหน่อย แต่ระบบทำเควสมีแค่ "ส่งยาX จำนวนY คุณภาพขั้นต่ำกี่ดาว" ส่งครบก็จบ แค่นั้นเอง หากคุณผ่านเกมบริหารจัดการมาเยอะๆก็พอนึกออกว่าเกมอื่นๆยังมีภารกิจที่หลากหลายกว่านี้มาก เช่น ผลิตของให้ได้เท่าไหร่ต่อวัน ทำกำไรจากร้านนั้นนี้ให้ได้เท่าไหร่ บริการลูกค้าให้พอใจกี่คน เป็นต้น ซึ่งไอ้เกมนี้มันไม่มีเลย ทั้งๆที่มี aspect เรื่องธุรกิจชูโรงทั้งที

แถมเกมนี้ก็ดันไม่มีระบบการวิจัยหรือ tech tree ใดๆทั้งนั้น วิธีปลดล็อคของในเกมคือส่งยาไปแลกเป็นแต้ม แล้วเอาแต้มปลดของใหม่ๆ เช่น เริ่มมาคุณผลิตได้แค่กัญชา พอส่งยาไปมหาวิทยาลัยมากเข้า ก็สะสมแต้มเพื่อปลดล็อคกัญชาพันธุ์ใหม่ๆหรือยาเสพย์ติดชนิดอื่นๆ ถ้าส่งยาไปโรงรถก็จะสามารถสะสมแต้มปลดล็อครถกระบะหรือรถบรรทุก ทำให้ส่งยาได้ทีละมากๆ ถ้าส่งยาไปร้านขายปืนก็จะสะสมแต้มปลดล็อคอาวุธชุดเกราะใหม่ๆ ฟังก็ดูตื่นเต้นดีแหละ แต่ปัญหาของระบบนี้ก็คือ ทำไมเราต้องซื้อของที่อยู่ตรงกลางๆด้วย? สะสมแต้มซื้อของที่ดีที่สุดก็จบเลยดิ อย่างร้านปืนผมกดซื้อแค่ปืนM4อันสุดท้ายก็จบเลย ปืนอีกสิบชนิดกลางๆจะไปซื้อทำไม ขณะที่ถ้าเป็นระบบ tech tree เกมจะบังคับให้เราติดอยู่ในเทคใดๆพักนึงก่อนที่จะปลดล็อคขั้นต่อไปได้ ทำให้การบริหารจัดการสถานการณ์ณ.ขณะนั้นรวมถึงทางเลือกการวิจัยดูมีมิติมากกว่า

แม้จะออกจาก early เป็นตัว 1.0 แล้วก็ตาม แต่เกมยังมีบัคพอสมควร เช่น พนักงานหยุดทำงานดื้อๆในบางร้าน แต่พวกนี้ก็แก้ปัญหาได้ด้วยการโหลดเกมขึ้นมาใหม่ ไอ้โรงงานหลักของเราตอนท้ายเกมสิ่งก่อสร้าง+คนงานเยอะๆนี่จะเริ่มแลคมากขึ้นเรื่อยๆ เพลงในเกมก็มีแค่3แบบ ไม่มีอะไรให้พูดถึง อีกเรื่องคือเกมนี้มันเป็น sandbox ที่เล่นง่ายมาก ค่อนข้างเบาสมองเลย ด้วยความที่ไม่มีเป้าหมายใดๆมาบีบบังคับ ส่งยาโง่ๆทางโทรศัพท์ก็ได้เงิน ตอนแรกๆที่เกมมา early ใหม่ๆจะเล่นยากกว่านี้นิดหน่อย คือส่งยาทางโทรศัพท์เนี่ยได้เงินน้อย+ยาก ต้องส่งให้ครบในเวลาที่กำหนด ส่งไม่ทันก็ฟาวด์ไปเสียทั้งของและเสียเวลาฟรี ทำให้มีสตีมเมอร์ไทยหลายคนบ่นว่าเล่นยาก พอตัวเต็มออกมาเลยกลายเป็นเกมโคตรง่าย ง่ายจนขาดความท้าทายไปเลยซะงั้น เล่นเกมถึงบางจุดก็มีอีเว้นโรงงานโดนบุก ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอีกเพราะกับดักระดับท้ายๆรุนแรงนรกมาก

สุดท้ายที่ต้องบ่นหนักๆคือ quality of life ที่ค่อนข้างแย่ เอาง่ายๆ ผมไม่เคยเจอเกมบริหารจัดการธุรกิจที่ไม่มีหน้าต่างรายรับรายจ่าย ยอดขาย หรืออย่างน้อยที่สุดแค่"กำไรขาดทุน"ให้ดู ซึ่งก็งงมากเพราะมันเคยมีใน early แบบง่ายๆให้ดู เราก็ยังคิดว่าเดี๋ยวพอตัวเต็มออกมาน่าจะทำให้ดีขึ้นมั้ง พอตัวเต็มออกกลายเป็นว่าหาย? เห็นทีมงานบอกจะเพิ่มกลับมาให้เร็วๆนี้ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ต่อมาคือระบบบริหารคนงานที่เข้าขั้นบัดซบ คือเวลาคุณจ้างคนมาใหม่1คน สิ่งที่ต้องทำคือ 1.เซ็ตกะเวลาทำงาน 2.เซ็ตโซนทำงาน 3.เซ็ตงานที่จะให้มันทำ 4.เลือกติดของสวมใส่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งคุณต้องมาทำแบบนี้เป็นรายตัว"ทุกตัว" มันจึงมีข้อแตกต่างมากระหว่างตอนที่คนยังน้อยๆไม่ถึง10คน เทียบกับโรงงานที่คนเกิน50คน คุณอยากเปลี่ยนรองเท้าทุกคนเหรอ? กดไปดิครับ ไม่สามารถ sort คนงานได้ ทำให้เวลามีคนโดนลูกหลงถูกยิงตาย คุณต้องมานั่งนับเอาเองว่าคนที่ทำหน้าที่อะไรหายไป (ซึ่งมันเรียงคนงานได้มั่วมาก) นี่แหละคือตัวอย่างของ QoL ที่ยังอยู่ในระดับแย่ตอนนี้

======== [สรุป] ========

+ คอนเซปโดยรวมคือ"ผลิตยาขายโดยทำธุรกิจอื่นบังหน้า"ถือว่าน่าสนใจ การได้ลองสร้างธุรกิจชนิดใหม่ๆที่แตกต่างกันก็ดูสนุกดี ตรงนี้ผมยังถือว่าแนะนำให้เล่นคั่นเวลาพอได้ก็แล้วกัน

+/- ความง่ายระดับแมวที่ไหนก็เล่นได้ ความเป็น sandbox เหมาะกับคนไม่ชอบการแข่งขัน แต่อีกแง่คือขาดความท้าทาย ก็แค่สร้างไปเรื่อยๆจนคุณเบื่อไปข้างนึง

- นอกจากการสร้างธุรกิจ หลายอย่างดูกลวงและล้าสมัย แบบว่าถ้าคุณเล่นเกมบริหารจัดการอื่นมาก่อนจะขัดใจมาก เช่น ระบบเควสที่มีภารกิจแค่แบบเดียวทำให้มีก็เหมือนไม่มี ระบบปลดล็อคของที่ล้าสมัยประมาณว่ามาจากยุคที่ยังไม่มี tech tree เป็นต้น ไม่มีทางเลือก ไม่มีคู่แข่ง ไม่มีอีเว้นสุ่ม (จริงๆคือยังไม่มีเชี่ยไรทั้งนั้น)

-- Quality of life ที่อยู่ในขั้นแย่ บางอย่างคือว้าวมากจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือตัวเต็ม เช่น การที่ต้องมานั่งเซ็ตคนงานเป็นรายตัว เป็นเกมทำธุรกิจแท้ๆแต่ดันทะลึ่งไม่มีแม้แต่ข้อมูลสรุปกำไรขาดทุนให้ดู เป็นต้น และด้วยความที่มันเป็น 1.0 แล้ว เลยคิดว่าต่อให้แก้ UI แก้ QoL ที่บกพร่อง(หรือควรจะมีแต่แรก) ระบบต่างๆก็คงไม่วิเศษวิโสไปมากกว่านี้เท่าไหร่แล้ว
Posted 8 October, 2023. Last edited 8 October, 2023.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
18 people found this review helpful
2
1
71.8 hrs on record (40.6 hrs at review time)
Early Access Review
"อยากได้แบบนี้ไปประดับห้องบ้างจังน้า" ผมเหม่อมองเรือจำลองในขวด หากแต่ว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของผม ตัวเจ้าของห้องนั้นนอนเป็นศพอยู่ห่างไปไม่กี่เมตร เขาคือเหยื่ออีกคนของโลกใบนี้ โลกที่เส้นแบ่งระหว่างความดีกับความเลวพร่าเลือนเต็มที ผมคือนักสืบเอกชนที่ดูแลคดี ก่อนหน้านี้ผมไขคดีมาหลายคดีแล้ว แต่ไม่มีคดีไหนเหมือนคดีนี้ . . .

กลางดึกคืนหนึ่ง คืนที่เงียบสงบเหมือนคืนทั่วๆไป ผมนอนหลับอยู่บนเตียงขณะที่เสียงแจ้งเหตุทางวิทยุดังขึ้น เกิดคดีฆาตรกรรม สถานที่ก็คือ... ตึกของผมเอง เป็นห้องถัดขึ้นไป4ชั้น ปกติแล้วทางเลือกของผมซึ่งเป็นนักสืบเอกชนจะสามารถเลือกได้ว่าจะไปรับแบบฟอร์มเอกสารรายงานคดีที่ศาลาว่าการเมืองหรือไปยังที่เกิดเหตุโดยตรง เนื่องจากเกิดเหตุในตึกเดียวกันผมจึงเลือกขึ้นไปยังห้องที่เกิดเหตุทันที เพราะหากโชคดีชัตเตอร์กันภัยอาจกักตัวฆาตรกรไว้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นคดีจะ"หวานหมู"มาก ผมลงมือกดลิฟท์แต่ก็คิดว่าช้าไป รีบจ้ำขึ้นบันไดไปดีกว่า

เมื่อมาถึงชั้น7ก็พบว่าห้องที่เกิดเหตุไม่ได้ล็อค สุดปลายครัวไกลๆผมเห็นร่างไร้วิญญาณร่างหนึ่งนอนอยู่ หากแต่ผมยังรู้สึกได้ว่ามี"คนอื่น"อยู่ในห้อง ทันใดนั้นหมอนั่นออกมาโจมตีผมจากข้างหลัง สถานการณ์วุ่นวายเล็กน้อย เมื่อเราใจเย็นลงจึงทราบว่าหมอนั่นคือแฟนของผู้ตาย น่าจะเป็นคนกดสัญญาณนิรภัยและโทรแจ้งตำรวจด้วย เมื่อสอบถามข้อมูลจากแฟนคนที่ว่า หมอนี่ไม่เห็นใครหรือได้ยินเสียงอะไรที่ผิดปกติเลย จะบอกว่ากลับมาจากที่ทำงานก็พบศพแฟนตัวเองเลยสินะ? กว่าจะคุยกันรู้เรื่อง"ตำรวจ"ก็มาถึงสถานที่เกิดเหตุ ผมจึงต้องให้ตำรวจตรวจสอบและกันพื้นที่ก่อน นี่แหละน้าผมจึงเสียดายที่ตัวเองไม่มีตรากับเขาบ้าง นักสืบเอกชนอย่างผมอยู่นอกระบบโครงสร้างอำนาจรัฐ ทางการนอกจากไม่ให้อำนาจใดๆก็ยังไม่คาดหวังว่าพวกนอกระบบอย่างเราจะแก้คดีได้ด้วย แต่หากแก้ได้ผมก็จะได้มีเงินไปจ่ายหนี้นอกระบบที่ค้างอยู่ล่ะนะ

ผมทำการสอบถามและเก็บลายนิ้วมือเพื่อนบ้านในชั้นเดียวกัน มีหนึ่งคนที่เห็นบุคคลรูปร่างผอมทำตัวมีพิรุธอยู่หน้าห้องผู้ตาย เวลา17.15 (ก่อนได้รับแจ้งเหตุ3ชั่วโมง) ผมเอารูปแฟนผู้ตายให้ดูเขาตอบว่าไม่ใช่ นอกจากนี้เพื่อนบ้านจากห้องที่อยู่ตำแหน่งเหนือห้องผู้ตายไปชั้นนึงก็แจ้งว่าเห็นคนรูปร่างผอมทำตัวน่าสงสัยเช่นกัน แต่เวลาที่พบคือ14.00 เมื่อตำรวจออกไปจากห้องเกิดเหตุ ก็ได้ทีผมเข้าไปตรวจสอบห้องผู้ตายแล้ว ผู้ตายเป็นหญิงผิวสีที่ทำงานในร้านสะดวกซื้อห่างไปหนึ่งบล็อคนี้เอง ผลชันสูตรเบื้องต้นคาดว่าถูกแทงด้วยของมีคมขนาดใหญ่ ประมาณการเวลาเสียชีวิตราว17.00-18.15 แต่ไม่พบอาวุธสังหารในที่เกิดเหตุ พื้นครัวมีการวาดเป็นลวดลายวงกลมเหมือนบูชาอะไรสักอย่าง กำแพงมีตัวอักษรเขียนว่า "หวาดกลัว" (Afraid) ผมทำการรื้อค้นเอกสาร ตรวจสอบถังขยะ ตรวจสอบคอมพิวเตอร์ผู้ตาย ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ หากแต่เซฟของผู้ตายถูกเปิดค้างไว้ เมื่อตรวจสอบพบว่ามีลายนิ้วมือที่ไม่รู้จักติดอยู่ภายใน มันไม่ใช่ทั้งของผู้ตายและแฟนของผู้ตาย

ผมดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดประจำตึก น่าเสียดายกล้องที่ชั้น7ไม่พบความผิดปกติในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ คำให้การของเพื่อนบ้านเชื่อถือได้ไหม? หรือแค่เป็นจังหวะที่กล้องกวาดไปมองมุมอื่นเลยถ่ายไม่ติดกันแน่? ผมซึ่งมีแต่ลายนิ้วมือของคนที่น่าจะเป็นฆาตรกร จึงเริ่มต้นจากการไปที่ทำงานของผู้ตายซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ เมื่อจ่ายเงินให้พนักงานนิดหน่อยผมก็ลอบเข้ามายังหลังร้านได้ หลังจากรื้อค้นเอกสารประวัติเพื่อนร่วมงานของผู้ตายทั้ง5คนก็ไม่มีใครที่มีลายนิ้วมือตรงเลย ส่วนแฟนของผู้ตายก็ทำงานที่ห้องพยาบาลในศาลากลาง ผมเดินทางไปตรวจสอบลายนิ้วมือเพื่อนร่วมงานก็พบว่าไม่มีใครที่ตรงอีกเช่นกัน นี่มันอะไรกัน? ไม่ใช่แฟน ไม่ใช่เพื่อนบ้าน ไม่ใช่เพื่อนร่วมงาน คราวนี้ผมเริ่มตระหนักได้ว่าไอ้ความรู้สึกตอนแรกที่ว่าคดีนี้คงหมูๆนี่มันเริ่มกลายเป็นหมูหินเสียแล้ว

ท้องที่หิวเริ่มทำให้ค่าสมาธิผมลดลง นี่เราไม่ได้กินข้าวกินน้ำมาสักพักแล้วนี่นะ ผมจึงไปซื้อโดนัทกับโคล่ามากินที่ม้านั่งสวนสาธารณะ แต่ใจผมยังจมดิ่งอยู่กับคดี ผมสืบคดีนี้ตั้งแต่สองทุ่มจนฟ้าสาง เบาะแสมีแค่ลายนิ้วมือต้องสงสัยและคำให้การเพื่อนบ้านเท่านั้น เมื่อผมกินเสร็จผมก็กลับไปศาลากลาง ได้เวลาสำหรับยกที่สองแล้ว ผมดำเนินการค้น"ทุกชื่อ"ในสมุดบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของผู้ตาย เปรียบเทียบฐานข้อมูลของรัฐที่บันทึกลายนิ้วมือของทุกคนเอาไว้ ผมดำเนินการค้นไปทีละชื่อ แต่เมื่อครบทั้ง40ชื่อก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อ ไม่มีใครมีลายนิ้วมือตรงเลย หรือจะเป็นสักคนในตึกเดียวกันกับผู้ตาย? ผมเดินทางไปตรวจสอบลายนิ้วมือที่กล่องจดหมายประจำตึกทีละกล่อง ลายนิ้วมือหลายอันแม้จะตรงกับเจ้าของเบอร์โทรในสมุดบันทึกของผู้ตาย แต่ก็ไม่มีอันไหนตรงกับที่พบในเซฟของผู้ตายเลย ขณะที่ฝนเริ่มตกโปรยปราย ใจผมก็เริ่มเคว้งคว้าง

ยกที่สาม ผมรำพึงกับตัวเองว่าเราต้องไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดใหม่ทั้งหมด และให้ความสำคัญกับคำให้การเพื่อนบ้านห้องเยื้องๆและห้องที่อยู่เหนือห้องผู้ตายมากขึ้น ผมนั่งมาร์ครูปทุกคนที่รูปร่างผอมที่เจอในกล้อง ตลอดเวลา24ชั่วโมงของวันที่เกิดเหตุ เมื่อกล้องที่ชั้น7ตรวจไม่พบ ผมก็ขยายไปตรวจกล้องที่ล็อบบี้อีก (เพราะกล้องชั้นอื่นๆถ่ายไกลเกินจะมองเห็นบันได) ผมตรวจสอบอย่างละเอียดจนเจอผู้ต้องสงสัยที่รูปร่างผอมเพิ่มมาอีก8ราย ผมปริ๊นรูปทุกคนออกมา หวังจะเอาไปให้พยานลองชี้ตัวดู ว่าแล้วผมก็ไปเคาะห้องเพื่อนบ้านที่อยู่เยื้องๆ ไม่มีใครตอบ ผมสืบคดีนี้มาจนถึงบ่ายแก่ๆของอีกวันแล้ว นั่นสินะ เขาคงไปทำงานแหละ ผมจึงไปเคาะห้องเพื่อนบ้านอีกคนที่อยู่เหนือผู้ตาย มีคนแปลกหน้ามาเปิดประตู เขาแจ้งว่าเป็นคู่ขาของเพื่อนบ้านที่เป็นหนึ่งในพยาน ส่วนแฟนของเขา(พยาน)ไปทำงาน สอบถามได้ความว่าวันที่เกิดเหตุเขาไม่พบใครทำตัวน่าสงสัย ว่าแล้วเขาก็ให้สถานที่ทำงานแฟนของเขามา ผมไม่รอช้า รีบถ่อไปเจอกับเพื่อนบ้านถึงที่ทำงาน เขาไล่ดูรูปผู้ต้องสงสัยให้ทีละใบ แล้วผมก็ต้องเจอกับความผิดหวัง ไม่ใช่คนพวกนี้ทั้งหมด ผมคว้าน้ำเหลวอีกแล้ว

ฝนหยุดไปสักพัก ท้องฟ้าภายนอกเริ่มแจ่มใส แต่ภายในสมองผมยังตื้อไปหมด ผมคิดอะไรไม่ออก ผมทบทวนเบาะแสที่ผมมีตอนนี้ คือลายนิ้วมือของใครก็ไม่รู้ที่ติดในเซฟกับปากคำเพื่อนร่วมห้องผู้เป็นพยาน2ราย ซึ่งเราตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วพยานก็บอกว่าไม่ใช่ใครเลย ไม่ใช่เพื่อนร่วมงาน ไม่ใช่คนที่อยู่ในสมุดบันทึกเบอร์โทร หรือมันจะเป็นคนไร้บ้านแถวนี้ที่บังเอิญมีปากเสียงกับผู้ตาย? หรือจะเป็นพวกธุรกิจผิดกฎหมายที่ชั้นใต้ดิน? ความคิดผมล่องลอยไปไกลก่อนที่เสียงจากพนักงานแคชเชียร์จะเรียกวิญญาณผมกลับเข้าร่างที่เหม่อลอยอยู่ในร้านสะดวกซื้อ "เอ่อ ซื้อแค่นมครับ" เดี๋ยวก่อนนะ ฆาตรกรฆ่าโดยใช้ของมีคม ร้านค้าพวกนี้หลายๆร้านมีบันทึกประวัติการขายสินค้าไว้ ถ้าแบบนี้เราอาจลองตามสืบจากร้านพวกนี้ดูโดยเน้นพวกร้านขายอาวุธว่าใครซื้ออาวุธมีคมโดยเฉพาะพวกมีดขนาดใหญ่ไว้บ้าง คิดได้ดังนั้นผมกระดกนมเข้าปากทีเดียวหมดกล่อง ได้เวลาต่อยกที่สี่ มีร้านถูกกฎหมายสองร้านที่ยอมให้ผมตรวจสอบรายการสินค้าที่ขายไปได้(แลกกับเงินสินบนเล็กๆน้อยๆ) ผมตรวจสอบประวัติการซื้อขายย้อนหลังไป3วันได้ผู้ต้องสงสัยมาอีก7คน ผมวิ่งกลับไปศาลากลางอีกครั้งเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้แล้ว หากไม่เจออีกเราคงต้องไปตรวจสอบพวกร้านค้าใต้ดินและพวกปล่อยกู้นอกระบบสินะ ผมนึกพลางกรอกรายชื่อลงในระบบเพื่อตรวจสอบลายนิ้วมือ เมื่อคนจะถูกแจ็กพอต มันก็ถูกตั้งแต่ชื่อแรกที่กรอก บิงโก ผมยิ้มอย่างผู้ชนะ

ลายนิ้วมือปริศนาที่ติดในเซฟตรงกับเจ้าของใบเสร็จที่ซื้อดาบขนาดเล็กเวลา10.30วันเดียวกัน เมื่อเอาชื่อไปค้นหาต่อก็ได้พบกับความจริงที่ว่า เขาคือคู่ขาของพยานที่อยู่เหนือห้องผู้ตายไปหนึ่งชั้นนั่นเอง คนที่ผมเพิ่งเจอมาหมาดๆที่ให้ที่ทำงานแฟนตัวเองซึ่งเป็นพยานมานั่นแหละ ทำเอาผมนั่งนึกย้อนหลังถึงคำให้การตอนแรกของ"พยาน"คนที่ว่าทันที หึหึ เจอคนน่าสงสัยเวลาบ่ายสอง"มายแอส" ผมนึกในใจ ขั้นตอนสุดท้ายผมรีบเอารูปคู่ขาคนที่ว่าไปให้เพื่อนร่วมชั้นผู้ตายที่อยู่ห้องเยื้องๆยืนยัน ใช่หมอนี่จริงๆ มันใกล้มากขนาดว่าแค่ลงบันไดมาชั้นนึงแล้วเลี้ยวเข้าห้องผู้ตายจังหวะกล้องกวาดไปทางอื่นได้เลย เพราะแบบนี้ไงกล้องวงจรปิดเลยจับภาพไม่ได้ ผมตามไปจับหมอนั่นที่ทำงาน หิ้วระเบิดแสงเผื่อไปด้วยโดยได้แต่หวังว่าจะไม่ต้องใช้มัน เมื่อติดสินบนยามเข้าไปก็พบว่าเจ้าฆาตรกรมีห้องทำงานแยกเป็นของตัวเองเสียด้วย จึงไม่ยากนักที่ผมย่องไปข้างหลัง จับเขาใส่กุญแจมือในห้องนั้นทันที ไร้การขัดขืน ผมทำการค้นตัวหมอนั่น ใช่เลย ดาบชนิดเดียวกับที่ซื้อตามใบเสร็จ น่าจะเป็นอาวุธสังหาร ผมกรอกแบบฟอร์มแล้วรีบวิ่งไปส่งเรื่องให้ทางตำรวจที่ศาลากลางด้วยความเร็วประหนึ่งรันเนอร์NFLวิ่งทำทัชดาวน์ หน้าที่ของผมจบลงแล้ว ที่เหลือคือหน้าที่ของตำรวจ ปิดคดี

ผมได้รับเงินค่าจ้างมาก้อนหนึ่ง เอาไปทำอะไรดีนะ จ่ายหนี้? ซื้อปืนดีๆสักกระบอก? ซื้อของแต่งบ้านเพิ่ม? ซื้อแผ่นดิสอัพเกรดความสามารถตัวเอง? เอาเถอะ เดี๋ยวค่อยคิด ผมตัดสินใจแวะบาร์ขากลับเพื่อผ่อนคลาย เมื่อกลับมาถึงห้องผมอาบน้ำ เพลียจนสายตัวแทบขาด ผมทิ้งร่างกายที่หนักเหมือนตะกั่วลงบนเตียง คงมีเวลาอีกสักพักกระมังก่อนที่วิทยุแจ้งเหตุคดีฆาตรกรรมจะดังขึ้นอีกครั้ง

ก่อนปิดไฟ สายตาผมอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปชมเรือจำลองในขวดที่ตู้โชว์ปลายเตียง มันยังสวยเหมือนเดิม สสารไม่เคยหายจากโลกใบนี้ บางครั้งมันแค่เปลี่ยนที่วางจากห้องหนึ่งมายังอีกห้องหนึ่งเฉยๆ ส่วนทรัพย์สินอื่นๆค่อยเอาไปจำนำวันพรุ่งนี้ก็แล้วกันผมนึก

แล้วผมก็ปิดไฟ

9/10

ถ้าเกมมีแมวจะให้อีกหนึ่งคะแนน

*หมายเหตุ* ไม่สปอย เพราะเกมนี้เป็นเคสแบบ auto generate
Posted 5 May, 2023. Last edited 5 May, 2023.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
3 people found this review helpful
6.8 hrs on record
เกม puzzle เจ๋งๆ ปริศนาสร้างสรรค์ความยากกำลังดี เป็นการแก้ปริศนาเพื่อหาวิธีเปิดกล่องหรือเครื่องกลไล ใช้ภาษาอังกฤษน้อยมาก ปริศนาหลักๆเป็นพวกรูป+ตัวเลข+มิติสัมพันธ์ (แต่หากติดสักพักอยู่จะมีคำใบ้ภาษาอังกฤษให้) ไม่ใช่เกมผีและไม่มีผี มีแค่เสียงหลอนหูนิดๆบางจังหวะกล้อมแกล้ม รวมๆคุณภาพคับแก้วแบบนี้ ในราคาที่โคตรถูก แนะนำให้ซื้อมัดรวมแพคได้เลย
Posted 6 March, 2023.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
1 person found this review helpful
72.0 hrs on record (42.8 hrs at review time)
Early Access Review
[พบกับเกมจำลองการต่อสู้ดิ้นรนในสังคมเมือง / Life sim + management ในโทนเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม]

เลิกงานแล้วอยากเล่นเกมคลายเครียดงั้นรึ? เล่นเป็นฮีโร่? อัศวินผู้กล้า? หน่วยรบพิเศษ? ตัวเอกอนิเมะ? ถ้าต้องการแบบนั้นขอให้ถอยห่างจากเกมนี้ เกมที่คุณจะได้เล่นเป็นแค่ "คนธรรมดาย่ำต๊อก" (nobody) ทำงานงกๆอาบเหงื่อต่างน้ำ ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อ "พลิกชะตา" ของตนเอง (turnaround)

Nobody - The Turnaround มาด้วยคอนเซปของการเป็นคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำ ที่ต้องเข้ามาต่อสู้ดิ้นรนในสังคมเมืองเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายตามความฝันของแต่ละคน ทั้งนี้บางคนอาจเริ่มต้นจากศูนย์ แต่บางคนก็เริ่มต้นจากติดลบด้วยซ้ำ เพราะมีทั้งหนี้สินและภาระต่างๆที่ต้องดูแลรับผิดชอบมากมาย

รูปแบบการเล่นเป็นลักษณะจำลองการใช้ชีวิตในสังคมเมือง (Life sim) ที่ไม่ชิวเหมือนเกมปลูกผักเพราะเกมนี้มีเนื้อเรื่องหรือมีจุดมุ่งหมายว่าต้องทำอะไรให้สำเร็จภายในกี่วัน ดังนั้นมันจึงต้องอาศัยทักษะการบริหารจัดการ (management) ในระดับนึง สิ่งที่ต้องบริหารในเกมนี้มี3มิติ 1. บริหารเวลา 2. บริหารเงิน 3. บริหารค่าสถานะของตัวละคร โดยการทำงานย่อมได้เงิน เงินย่อมต้องแบ่งสัดส่วนมาใช้ดำรงชีวิต และวางแผนเก็บออมเพื่อการลงทุนหรือเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายของเกม ทั้งนี้เวลาในแต่ละวันก็มีจำกัด ต้องแบ่งเวลาทำงานหาเงิน เวลาพักผ่อน และเวลาฝึกทักษะหรือฝึกฝนอาชีพให้ทำงานระดับที่สูงกว่าได้ด้วย รวมไปถึงเนื้อเรื่องชีวิตผู้คนหลากหลายที่คุณจะค่อยๆสุ่มเจอเมื่อเล่นๆไป

บรรยากาศในเกมเป็นสังคมเมืองเล็กๆแบบจีน มีป้ายข้อความภาษาจีน เสียงพากษ์ตัวละครภาษาจีน และเสียงล้งเล้งนิดหน่อยตามโอกาส โดยดำเนินเรื่องอยู่ใน"หมู่บ้านหลงก่าง" โทนภาพในเกมออกหม่นๆและสิ่งก่อสร้างในเกมรวมถึงสภาพสังคมดูจะย้อนยุคเล็กน้อย(หรือไม่น้อย?) ทุกวันนี้หลงก่างถูกยกระดับเป็นเมืองไปแล้ว โดยจัดเป็นเขตหนึ่งของมหานครเสิ่นเจิ้น - เมืองที่ฉายาเป็นซิลิคอนวัลเลย์แห่งเอเซีย แค่เมืองนี้เมืองเดียวก็ gdp เกือบเท่าทั้งประเทศไทย โดยถือเป็นแหล่งบริษัท startup เทคโนโลยีรวมถึงพวกบริษัททำเกมอินดี้จำนวนมาก (น่าสงสัยว่าทีมงานน่าจะมีออฟฟิศอยู่ในเขตนี้หรือไม่?) อย่างไรก็ตามเรื่องเทคโนโลยียังคล้ายของยุคปัจจุบัน มีทั้ง smartphone มีอีคอมเมิส มีสแกนQR (แต่ในเกมก็ดันย้อนยุคไปให้เงินสดกันอยู่ในหลายๆจังหวะไม่รู้ทำไม)

ระบบจ๊อบในเกมเป็นงานจิปาถะ (gig job) ที่จ่ายเงินเป็นรายวัน โดยถูกวางเป็นสิ่งที่คล้าย job tree ซึ่งต้องจ่าย skill point เพื่อปลดล็อคจ๊อบหรือสกิลต่างๆ และ job tree ที่ว่าก็ถูกล็อคเอาไว้ด้วยระดับขั้นของตัวละคร (คล้าย rank) โดยเริ่มมาเราจะเป็นคนกากๆต้องค่อยๆทำตามเงื่อนไขต่างๆเพื่อปลดล็อคระดับขั้นที่สูงกว่า เมื่อปลดล็อคเสร็จก็จะสามารถปลดเอางานที่ระดับสูงกว่ามาทำได้ ซึ่งงานระดับท้ายๆต้องมีทักษะที่สูงพอระดับนึง รวมถึงอาจต้องจบการฝึกอบรมอาชีพมาด้วย แต่การเลื่อน rank ของตัวละครก็ตามมาด้วยเป้าหมายใหม่ๆให้ทำกันต่อไป รวมถึงตัวละครเราจะมีความต้องการมากขึ้น เช่น ต้องการที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ต้องการคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

ลักษณะเด่นอย่างนึงของเกมนี้คือมันมี minigames เยอะมาก โดยการประกอบอาชีพรับจ๊อบแต่ละอันก็มีแต่ละ minigames ให้เล่น (แม้ว่าบางอันอาจดูง่ายๆไปหน่อยก็เถอะ) ทำงานขนอิฐก็มีเกมขนอิฐ ทำงานส่งอาหารก็มีให้วิ่งส่งอาหารตามแผนที่ ทำงานล้างรถก็มีให้ล้างรถ ฯลฯ หลายๆอันเล่นเพลินดีมาก โดยเกมจะมีค่าแรงพื้นฐาน เช่น 180 หยวน แต่นอกจากนั้นหากเล่นมินิเกมดียังได้โบนัสอีกด้วย ยิ่งทำดีมากยิ่งได้มาก เช่นอีก 100 หยวน จบกะการทำงานได้รวม 280 หยวนเป็นต้น งานยิ่งทำก็ยิ่งชำนาญ ช่วยเพิ่มค่าแรง ได้ค่าทักษะ ได้ความสัมพันธ์กับนายจ้าง แต่ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดหนื่อย ความเครียด ความสะอาดที่ลดลง เป็นต้น คุณจึงต้องแบ่งสรรเวลาไปพักผ่อนฟื้นฟูค่า status พื้นฐาน โดยมินิเกมสันทนาการก็มีมาให้เล่นอยากหลากหลาย เช่น ยิงลูกโป่ง ปาห่วง หมากรุกจีน ไพ่นกกระจอก แทงพูล ทอยเต๋า เต้นแอโรบิคกับอาม่า และอื่นๆอีกมากมาย

เกมมีระบบจีบสาวมีตัวละครให้เลือกจีบได้หลากหลาย โดยบางคนอาจต้องเจอเหตุการณ์สุ่มก่อน แต่บางคนเขาก็อยู่ในเมืองนั่นแหละ หากแต่ว่าต้องเพิ่มค่าความสัมพันธ์ไปถึงระดับนึงก่อนจึงจะชวนคุยเรื่องส่วนตัวได้ หากแต่ระบบจีบสาวจะมีระดับหัวใจและอีเว้นที่ตายตัวและรวบรัดกว่าพวกตระกูลปลูกผักมาก เหมือนเป็นทางเลือกมากกว่าไม่ใช่ระบบชูโรงของเกมนี้ ในขณะที่เกมนี้มีทางเลือกการประกอบอาชีพที่หลากหลาย แต่การตอบคำถามตามบทสนทนาในเกมอาจไม่ได้สำคัญมาก มักแค่เพิ่มลดความสัมพันธ์กับคู่สนทนา มีไม่กี่ตรั้งที่มีผลเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่อง จึงไม่ต้องไปซีเรียสอะไรขนาดนั้น

ตอนนี้ในเกมยังเป็น early access ประกอบไปด้วย 1) โหมดเนื้อเรื่องออกมาแค่ 1 จาก 3 เนื้อเรื่อง 2) โหมด challenge ที่มีตัวละครให้อีก 3 แบบ 3) โหมด endless (โหมดสุดท้ายจะไม่มีเวลามาบีบว่าต้องทำตามเป้าหมายภายในเวลากี่วัน) ปัญหาที่เจอคือสมดุลยังแปลกๆ โดยเฉพาะอาชีพท้ายๆที่รอการปรับสมดุล (จริงๆคือมันมีธุรกิจอู่ซ่อมรถที่ยังทำไม่เสร็จด้วยล่ะนะ) บัคงงๆเล็กน้อยเช่น ให้แบกตู้ไปส่งพื้นที่ๆมันยังไม่ปลดล็อค แม้ว่าส่วนตัวผมยังไม่เจอบัคที่ทำให้เกมพังอะไร แต่ทั้งนี้ได้ยินว่าทางฝั่งผู้เล่นจีนมีปัญหามากขนาดที่ว่าไม่สามารถเล่นเกมนี้ได้ในระบบปฏิบัติการเก่าๆ (บางคนอัพเดทก็เล่นไม่ได้) คนจีนเลยมารีวิวบอมแบบวินาศสันตะโร แต่ก็เพราะความผิดพลาดขนาดเล่นไม่ได้จนต้องพักการจำหน่ายในสตีมชั่วคราวนี่แหละ (เปิดให้เล่นแค่2-3วัน ทีมงานก็ถอนการจำหน่ายออกชั่วคราวเลย)

--------------------------------------------------------------------------------------------------

=== [สรุป] ===

++ ต่อสู้ดิ้นรนสร้างเนื้อสร้างตัวไปตามแนวทางที่คุณเลือก เพื่อบรรลุเป้าหมายสุดท้ายในชีวิต ผ่านระบบ job ที่หลากหลาย โดยความท้าทายอยู่ที่คุณต้องบริหารเงิน บริหารเวลา และจัดการกับค่าสถานะของตัวละคร วางแผนการใช้ชีวิตได้สนุกๆแบบไม่หนักสมองมาก

++ มินิเกมที่ยัดมาให้เล่นเยอะแยะมากมากคือแทบทุก job และทุกกิจกรรมสันทนาการ และหากไม่อยากเล่นก็กดข้ามได้

++ ระบบ job tree ทำให้ replay value ค่อนข้างมาก แบบรอบนี้เล่นอาชีพสายถึกไปแล้ว รอบหน้าลองอาชีพสายบริการบ้าง หรือสั่งของมานั่งขายแบกะดินก็ย่อมได้ สามารถผสมผสานทางเลือกในการประกอบอาชีพได้มากมาย

+ เพลงในเกมไพเราะ เสริมสร้างบรรยากาศได้ดีมาก มักจะออกแนวเพลงสู้ชีวิตแต่ก็มีเพลงแนวรักๆอยู่บ้างเหมือนกัน แม้จะเป็นเกมฟอร์มเล็กๆแต่ก็ยังอุตส่าห์มีเสียงพากษ์บทสนทนาแทบทั้งเกม(แต่เป็นภาษาจีนและค่อนข้างโมโนโทน)

+/- เนื้อเรื่องผู้คนที่มีความหลากหลายให้พบเจอ (คล้ายอีเว้นในสตาดิวแบบย่อๆ) ซึ่งอนาคตคงเพิ่มเติมลงมาอีก ทางเลือกตอบมีแค่ไม่กี่อันจะส่งผลกระทบต่อเนื้อเรื่องจริงๆ ตรงนี้บางคนอาจชอบเพราะไม่เครียด (ไม่ใช่แบบอยู่ๆตอบพลาดกลายเป็นยาจกเฉยเลย) ขณะเดียวกันบางคนก็อาจไม่ชอบ

- แทบไม่มี tutorials (early access อ่ะนะ) คุณจะได้ความรู้สึกเหมือนคนที่เดินทางมาทำงานในเมืองจริงๆ แบบโผล่มาลงรถบัสแล้วก็ยืนงงเลย(ถ้ารถไม่ชนตายไปเสียก่อน) ไม่มีการแนะนำสถานที่อะไรใดๆทั้งสิ้น แถมระบบค่าสถานะก็ไม่แนะนำด้วย หลายๆอย่างต้องพยายามอ่านและทำความเข้าใจเอง (แต่ทุกมินิเกมจะมีการบอกวิธีเล่นไว้แล้ว) บางอย่างอาจเพราะทีมงานกำลังปรับจูนระบบการเล่นให้ลงตัวอยู่ ดูจากระบบอารมณ์ที่เปลี่ยนไปพอสมควรจาก demo

- การปรับสมดุลอาชีพที่ยังไม่ลงตัว อาชีพท้ายๆเองก็ยังทำไม่เสร็จ หลายๆพื้นที่ยังทำไม่เสร็จ ตัวเลือกเสื้อผ้าและสิ่งของหมวดข้าวของใช้ยังมีให้ซื้อน้อยไปหน่อย หากอนาคตเพิ่มมาเยอะๆน่าจะช่วยเพิ่มทางเลือกในมิติการบริหารเงินอีกมาก (ก็อย่างว่าแหละ early access)

- บัคประปรายเล็กน้อยที่ผู้เขียนเองก็ยังไม่ค่อยพบ ผู้เล่นต่างชาติ(ฝรั่ง)เองก็ไม่ค่อยพบเรื่องบัค แต่ผู้เล่นจีนพบบัคหนักหน่วงมากจนหลายๆคนเล่นไม่ได้เลยทีเดียว (แล้วคุณลองนึกสภาพพวกที่รอมา10เดือน ซื้อday1แล้วเล่นไม่ได้ดูสิ)
Posted 21 November, 2022. Last edited 21 November, 2022.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
13 people found this review helpful
221.9 hrs on record (47.7 hrs at review time)
[มันคือการจำลองระบบเศรษฐกิจและการปฏิรูปสังคมขนานใหญ่]

*เกมนี้มันคือตัวของมันเอง ห้ามคิดว่ามันคือ heart of iron แบบย้อนยุคเด็ดขาดไม่งั้นคุณจะผิดหวัง*

Victoria3 จะนำพาคุณไปสู่ยุควิคตอเรียน โดยในเกมให้เวลาคุณ 100 ปี คือตั้งแต่ปี 1836 ถึงปี 1936 ซึ่งเป็นยุคทองแห่งการล่าอาณานิคมและบ่มเพาะความขัดแย้งต่างๆขึ้นระหว่างมหาอำนาจอย่างมากมายในทุกหัวมุมต่างๆของโลก (ในไทย 1836 คือสมัยร.3) โดยคุณอาจเลือกเล่นเป็นประเทศที่ก้าวหน้าพยายามตั้งอาณานิคมหรือบีบบังคับประเทศที่ล้าหลังกว่า คอยครอบงำระบบเศรษฐกิจและการค้าของโลกใบนี้ หรืออาจเล่นเป็นประเทศด้อยพัฒนาที่ต้องเร่งปฏิรูประบบเศรษฐกิจและสังคมเพื่อถีบตัวให้พ้นจากภัยต่างชาติ อยากทำไทยให้เป็นมหาอำนาจรายใหม่ของโลกงั้นรึ? ทั้งหมดตั้งอยู่บนบนความอิสระของระบบ grand strategy + sandbox โดยผู้พัฒนา Paradox เจ้าเดิม

หลักๆเกมจะมีหลาย aspect ได้แก่ 1.เศรษฐกิจ 2.สังคม 3.การทูต 4.การทหาร โดยจุดขายเกมนี้ที่ทีมพัฒนากล่าวไว้คือ1กับ2ซึ่งมีความละเอียดสูง ส่วนข้อ3ผมถือว่าทำได้กลางๆ ส่วนข้อ4ถือเป็นจุดด้อยที่ถูกลดความละเอียดลงมาก ขออธิบายแจกแจงรายหัวข้อได้ดังนี้...

1. ด้านเศรษฐกิจ - เกมนี้เน้นมากๆเรื่องของการสร้างระบบเศรษฐกิจที่มีความละเอียดยิบย่อยสูงมากๆ ตลอดทั้งเกมเหมือนคุณกำลังสร้างเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจเพื่อแข่งกับบรรดามหาอำนาจชาติอื่นๆ โรงงานนั้นสร้างง่ายจริงหากแต่ว่าโหมดการทำงานของโรงงานจะค่อยๆปลดล็อคตามการวิจัย เมื่อคุณปรับรูปแบบการทำงานของสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะมีผลกระทบต่อราคาสินค้าภายในตลาดประเทศคุณ เช่น โรงงานทำเครื่องมือเปลี่ยนจากการใช้ไม้ทำเป็นใช้เหล็กทำ ราคาเหล็กย่อมพุ่งขึ้น ราคาไม้ก็ลดต่ำ ราคาเครื่องมือก็ย่อมลดลง(เพราะมี supply มากขึ้น) มันไม่ใช่คิดแต่จะขุดเหล็กเพิ่มแต่ต้องคิดด้วยว่าจะเอาไม้ที่เหลือไปทำอะไร เป็นต้น โดยประสิทธิภาพ(ทางกำไร)ของโรงงานขึ้นสะท้อนออกมาในรูปของ productivity หากของที่โรงงานผลิตขายได้ราคาดีย่อมเกิดการจ้างงาน(จนเต็มตามเลเวลของโรงงานนั้นๆ) แต่หากผลผลิตปลายทางมันล้นตลาด ราคาต้นทุนมากกว่าราคาสินค้าที่ทำได้ ย่อมเกิดการลดการจ้างงานโดยอัตโนมัติ คุณสามารถสั่งการสร้าง trade route แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น นำเข้าของที่ขาดและส่งออกของที่มีมากเกิน แต่คนอื่นก็ทำได้เหมือนกัน เช่น เพื่อนบ้านเอาของที่ตัวเองผลิตล้นตลาดมาเทใส่ประเทศเราอีก (คือเราก็ล้นแต่มันล้นมากกว่าเรา) จำเป็นต้องปรับภาษีเพื่อลดการนำเข้า หรืออาจต้องเปลี่ยนกฎหมายด้านการค้ามาช่วย เป็นต้น

2. การเมืองและสังคม - ในเกมนี้สรุปให้ง่ายๆคือกฎหมายมาจากรัฐบาล (ไม่แบ่งนิติบัญญัติ-ตัวเกมคิดรวมๆให้เข้าใจง่าย ไม่คำนึงถึงการแบ่งอำนาจตามหลักของมองเตสกิเออ) รัฐบาลจะเป็นคนเสนอร่างกฎหมาย ดังนั้นเพื่อให้ร่างกฎหมายต่างๆถูกเสนอขึ้นไปได้ย่อมต้องมีการปฏิรูป(reform)รัฐบาลเป็นระยะเพื่อปรับสมดุลอำนาจกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆภายในรัฐบาล กลุ่มผลประโยชน์ต่างๆมีอำนาจทางการเมืองมากน้อยต่างกัน หากคุณปรับมั่วๆเอาคนที่อำนาจน้อยมาเป็นรัฐบาล คนมีอำนาจเยอะกระเด็นออกไป ย่อมส่งผลต่อ"ความชอบธรรม"ของรัฐบาล นำมาซึ่งผลลบหลายประการตั้งแต่ระยะเวลาการผ่านกฎหมายล่าช้าออกไปจนถึงอาจโดนปฏิวัติ กฏหมายหลายอันถูกล็อคตามกลุ่มผลประโยชน์ไม่พอ ยังอาจต้องใช้เทคโนโลยีในการปลดล็อค รวมถึงอาจต้องมีการผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องไปก่อนด้วย กลุ่มผลประโยชน์เองมี traits ดี 2 อย่างและมีแย่ 1 อย่าง เช่น กลุ่มทหารหากค่า approval สูงถึง 5 จะทำให้ -20% ราคาเทคโนโลยีสายทหาร (วิจัยได้เร็วขึ้น) หากถึง 10 จะ +30% พลังโจมตีและพลังป้องกันทหารทุกยูนิต แต่หากทหารไม่ชอบขี้หน้าเราถึง -5 จะทำให้ค่าใช้จ่ายด้านยุทธโธปกรณ์เพิ่มขึ้น 50% เลยทีเดียว ทั้งนี้แต่ละกลุ่มผลประโยชน์มีสิ่งที่ตัวเองสนใจแตกต่างกัน การกระทำบางอย่างอาจทำให้บางกลุ่มชอบบางกลุ่มเกลียด และหากทุกคนชอบฝ่ายที่เสียประโยชน์ก็มักเป็นตัวผู้เล่นเอง ดังนั้นการชั่งน้ำหนักกลุ่มผลประโยชน์เพื่อการปฏิรูปสังคมและชิงความได้เปรียบจึงเป็นอีกแง่มุมที่สำคัญมาก ไม่งั้นไม่ต้องให้ชาติอื่นมาโค่นคุณหรอก เกมจะโอเวอร์โดยสงครามภายในเองนี่แหละ

3. การต่างประเทศและการทูต - การต่างประเทศหลายๆอย่างถูกจำกัดด้วย 2 เรื่อง คือ เขตผลประโยชน์และลำดับเกียรติยศของประเทศ เกียรติยศของประเทศจะเป็นตัวบ่งบอกว่ามีโอกาสที่ประเทศอื่นๆจะสนใจในสิ่งที่เราร้องขอได้มากแค่ไหน ดังนั้นหากคุณเป็นประเทศบนเกาะห่างไกล หากไม่ทำตัวเองให้มีความสำคัญอะไรสักอย่าง ก็ย่อมไม่มีใครสนใจคุณ ตัวเลือกการทูตจึงเริ่มจากทำอะไรแทบไม่ได้(เสนอได้แต่ไม่มีใครสนใจ) ไปจนถึงเมื่อยิ่งใหญ่แล้วใครๆก็ฟังคุณมากขึ้น เกียรติของประเทศยังสามารถทำให้คุณประกาศ"เขตผลประโยชน์"ได้มากขึ้น อนึ่งเขตที่ประเทศเราอยู่(หรือมีอาณานิคมอยู่)ถือว่าเรามีผลประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวแล้วจึงไม่ต้องประกาศซ้ำ โดยเขตผลประโยชน์ทำให้คุณมีตัวเลือกทางการทูตในเขตนั้นๆเพิ่มขึ้นมาและจะประกาศที่ไหนในโลกก็ได้ หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวคุณย่อมมีสิทธิเข้า"เสือก"เรื่องชาวบ้านในพื้นที่นั้นๆได้ ปัญหาคือระบบการทูตยังแปลกๆและมีความไม่สนเหตุสมผลอยู่หลายๆจุด เช่น ผมเล่นไทยค้าขายกับจีนมานาน เป็นมิตรกันมาตลอด(ความสัมพันธ์สีเขียว)ไม่เคยขัดแย้งอะไรเลย วันดีคืนดีผมไปตีประเทศอะไรก็ไม่รู้บนเกาะปาปัวนิวกินีที่ห่างไกล ประเทศที่ว่ามันดึงจีนเข้ามารุมตีผมได้เสียแบบนั้น ซึ่งจริงๆไอ้การดึงชาวบ้านแปลกๆแบบไม่สมเหตสมผลนี่แหละผู้เล่นเองก็ทำได้ ดึงAช่วยตบB แล้วดึงCช่วยตบBอีก กล่าวโดยสรุปคือต้องรอการอัพเดทระบบการทูตให้มีความสมเหตสมผลมากกว่านี้

4. การทหาร - มาถึงจุดอ่อนของเกมๆนี้คือเรื่องของการทหาร ที่บางมุมหยาบมากๆ (แม้แต่ UI ก็ยังหยาบเลย) แถมบางมุมดูจงใจทำมาเพื่อตัดเกมผู้เล่นให้ไปเน้นพัฒนาด้านอื่นมากกว่ามุ่งเน้นทำสงคราม การรบนั้นใช้ระบบ war goal เหมือนซีรีย์อื่นๆของ paradox เช่น HOI และ stellaris โดยคุณสามารถเลือกได้หลายอย่างว่าตีเค้าเพื่อยึดพื้นที่เลย บังคับเปิดประเทศ บังคับเปิดเมืองท่า ยึดเมืองขึ้นของคนอื่น แม้แต่เปลี่ยนแปลงการปกครองก็ทำได้ อนึ่งเกมอื่นๆทั่วไปการสงครามมันจะชัดเจนแต่แรกแล้วว่าใครพวกใคร หากแต่เกมนี้ไม่ครับ คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคุณจะเจอตอหรือไม่ ช่วงเวลาก่อนสงครามนี่แหละที่จะทำให้สงครามโง่ๆชิงพื้นที่เล็กๆลุกลามเป็นอะไรก็ไม่รู้ขนาดใหญ่ได้ เพราะช่วงเวลาก่อนสงครามที่ต่างฝ่ายต่างหาพวกเพิ่มได้ (ซึ่งมันก็มาเอาประโยชน์เฉพาะหน้าแทบทั้งนั้น) เช่น ดึงAช่วยตีBโดยสัญญาจะยกค่าปฏิกรรมสงครามให้A พอจบสงครามก็แยกย้ายไม่ได้ผูกพันอะไรกัน เป็นต้น ส่วนเฟสการรบ มันทำได้แค่เลือกแม่ทัพคุมทหารไปรบตามแนวรบนั้นๆ (ลากเองแบบ HOI ไม่ได้) เลือกได้แค่โจมตีหรือป้องกัน ที่เหลือว่าด้วย stats พื้นฐานของทหารตามด้วยค่า buff/debuff อื่นๆ กลายเป็นโอกาสชนะ นอกจากนี้เกมยังมีระบบค่าความเกรียน (Infamy) หากถึงร้อยเมื่อไหร่ มหาอำนาจทั่วโลกจะเริ่มรุมตบเรา เป็นระบบที่สร้างมาเพื่อตัดเกมผู้เล่นไม่ให้รบยึดพื้นที่ได้แบบรัวๆนั่นเอง ด้วยความที่ระบบสงครามมันเป็นแบบนี้ ทำให้ผู้เล่นที่ชินกับ HOI ต่างก่นด่าสาปแช่งกันเป็นการใหญ่

ดังนั้นแบบที่ผมย้ำไปตอนแรก *อย่าคิดว่ามันเป็น HOI แบบย้อนยุค เพราะคุณจะผิดหวัง* Heart of iron คือช่วงเวลาแห่งสงครามโลก ทุกสิ่งทุกอย่างจึงไหลไปลงที่"การสงคราม"เป็นมิติที่สำคัญอันดับหนึ่งของเกม แต่สำหรับ Victoria เป็นยุคแห่งการล่าอาณานิคม การปฏิรูประบบเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นมิติสำคัญที่สุดจึงเป็น"เศรษฐกิจ"และ"การเมืองและสังคม"

--------------------------------------------------------------------------------------------------

=== [สรุป] ===

++ Grand strategy เลือกเล่นเป็นประเทศอะไรก็ได้ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ไปตามความคิดของคุณ

++ ระบบเศรษฐกิจที่ค่อนข้างลึก แถมยังมีความสำคัญสูงที่สุดเพราะเป็นรากฐานของทุกสิ่งทุกอย่างในเกมนี้ ระบบการเมืองและสังคมที่สร้างสรรค์ เลือกชั่งน้ำหนักกลุ่มผลประโยชน์และเลือกผ่านกฏหมายเพื่อเอา buff/debuff ให้เหมาะกับสถานการณ์

+/- ระบบเศรษฐกิจและการเมืองอีกแง่นึงอาจเป็นยาขมเช่นกัน ความซับซ้อนของเกมอาจทำให้มือใหม่เบือนหน้าหนีเอาง่ายๆ ถ้าคุณไม่เข้าใจเล่นๆไปก็เจ๊งไปเองโดยไม่ต้องมีใครมายุ่งอะไรกับคุณเลย เช่น โดนสงครามภายในหรือเงินติดลบแล้วแก้ไม่เป็นจนประเทศล้มละลาย

+/- การตัดเกมสำหรับผู้เล่นสายการทหาร บางระบบเหมือนจะทำมาเพื่อดัดหลังเสียด้วยซ้ำ แถมการรบยังค่อนข้างหยาบมาก ขัดแย้งกับระบบเศรษฐกิจที่โคตรซับซ้อน เหมือนบีบให้คนสนใจเศรษฐกิจและสังคมมากกว่า ถูกใจสายบริหารแต่น่าจะขัดใจสายทหารแน่ๆ

- ขาดความ competitive เพราะมันเป็น sandbox คุณสามารถเล่นหลบมุมกดสร้างอัตโนมัติไปจนจบเกมก็ได้ (แล้วก็บอกเกมเล่นง่ายจัง เพราะมันยังไม่มีอะไรมาชี้วัดว่าเล่นดีไม่ดี) เหมือนแค่แข่งกับตัวเองว่าพอใจแค่ไหน บรรยากาศที่ชิวเกินไปอาจทำให้บางคนขาดแรงกระตุ้นในการเล่นให้มันดี AI เองก็สร้างมาดูกั๊กๆให้ผู้เล่นรู้สึกย่ามใจ ควรมีระบบชี้วัด เช่น เก็บแต้มการพัฒนารวม (development point) แข่งกับประเทศอื่นๆใน tier เดียวกัน

- ระบบการทูตที่งงๆและยังขาดความสมเหตสมผลในหลายๆจุด (น่าจะถูกเพิ่มเติมในdlc) นอกจากพวกที่เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรไปแล้ว ทุกคนก็พร้อมเอาประโยชน์เฉพาะหน้าจากสงคราม ระบบ IOU (obligation) ที่ใช้ดึงพันธมิตรกันมั่วซั่ว

- ปัญหา performance ตามสไตล์เกมพรรค์นี้ เล่นไปปีหลังๆเหมือนข้อมูลมันเยอะจนทำให้มีความหนืดในบางจังหวะ บางทีเด้งเกมดับเลย

- ตามสไตล์ Paradox เปิดมาทีไรรีวิว mixed ประจำ ต้องรอแก้บัค ปรับสมดุล และรอเพิ่มหลายๆมิติด้วยกองทัพ DLCs
Posted 31 October, 2022. Last edited 7 December, 2022.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
5 people found this review helpful
72.2 hrs on record (32.5 hrs at review time)
Early Access Review
[RTS + 4X / เรียนรู้และเข้าถึงได้ง่าย / บางอย่างดูคล้ายบอร์ดเกม]

Dune: Spice Wars เป็นเกมที่ทำออกมาบนพื้นฐานตามท้องเรื่องของนวนิยาย Dune (จริงๆมีหนังด้วย ล่าสุดของปี2021) จริงๆเรื่องราวจักรวาลของ Dune มันก็ใหญ่มาก แต่อันนี้จะโฟกัสที่การแย่งชิงอำนาจทั้งการเมืองและการค้าขายทรัพยากรล้ำค่าที่เรียกว่า spice เพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ปกครองดวงดาวทะเลทรายแห่งนี้ แน่นอนว่าต้องใช้ทุกวิถีทางทั้งกำลัง(การทหาร) การเจรจา(การเมือง) เล่ห์เหลี่ยม(การจารกรรม)

ความขัดแย้งบนดาวสะท้อนออกมาผ่านขั้วอำนาจฝักฝ่ายต่างๆ ซึ่งตอนนี้มี 4 ฝ่าย(ขณะที่เขียนรีวิว) แต่ละฝ่ายยังสามารถเลือกความสามารถเฉพาะได้อีก 2 จาก 4 อย่าง โดยรวมทุกฝ่ายมีวิธีการเล่นที่ค่อนข้างแตกต่างกัน มีสิ่งที่ต้องสนใจและกลไกเกมที่ค่อนข้างแตกต่างกันอยู่บ้าง สิ่งก่อสร้างแกนหลักและแผนผังเทคโนโลยีส่วนใหญ่เหมือนกันหมด จะมีแค่บางอันที่ถูกปรับเปลี่ยนไปตามฝ่ายนั้นๆ เช่น สีแดงมีเทคโนโลยีสร้างความหวาดกลัวเวลาปล้นหมู่บ้านทำให้กลับมายึดง่ายขึ้นในอนาคต สีฟ้าสร้างสิ่งก่อสร้างกาฝากในเมืองคนอื่น สีเหลืองไม่มีสนามบินให้สร้างเพราะสามารถขี่หนอนได้ เป็นต้น

ด้านการทหาร ยูนิตแต่ละฝ่ายมีชนิด (class) ที่ค่อนข้างเหมือนกัน แต่ชื่ออาจแตกต่างกันเพราะความเก่งต่างกัน ทำให้สุดท้ายประโนชน์ใช้สอยแตกต่างกัน เช่น สีแดงมีทหารปราบจราจลที่มีเกราะหนักและโดรนหายตัว สีฟ้ามีโดรนที่ช่วยฮีลและพลแม่นปืน สีเหลืองแค่นักรบธรรมดาก็เก่งอิ๊บอ๋ายแต่มีจำนวนไม่มาก เป็นต้น มีระบบคลาสสิกแบบประสบการณ์ยูนิต(ติดบั้ง) แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือมี command point ที่ไม่มากนักแถมยังมี upkeep
ทำให้เราไม่สามารถปั๊มยูนิตมาล้นจอแบบ RTS บางเกมได้ ส่วนการดำเนินเกมก็ใช้ระบบ 4X ทั่วไปคือเริ่มจากสิ่งก่อสร้างแกนหลัก ยึดหมู่บ้านตามเขตต่างๆเพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างเอาทรัพยากรวนเวียนไปเรื่อยๆ โดยหมู่บ้านอาจเปลี่ยนมือได้ แต่หากสิ่งก่อสร้างแกนหลักแตกคือฝ่ายนั้นๆแพ้ทันที

ด้านการเมือง มีระบบภาเพื่อทำการโหวตมติต่างๆไปเรื่อยๆทั้งเกม โดยมติมี 3 ประเภท ได้แก่ 1. มติแบบที่มีผลกับทุกคน เช่น เร่งการวิจัยเทคโนโลยีบางสาย 2. มติที่ผลกับคนเดียว (ต้องเลือกว่าจะโหวตใส่ใคร) เช่น เป้าหมายติดลบ 30% ค่าอิทธิพล 3. มติเกี่ยวกับการแต่งตั้งตำแหน่ง (ซึ่งมี 5 ตำแหน่งในเกม) นอกจากระบบสภายังสามารถตามหาชนพื้นเมืองเพื่อค้าขายเจริญความสัมพันธ์เพื่อสร้างพันธมิตรรับเอาโบนัสอะไรบางอย่างได้

ด้านการจารกรรม มีระบบการจัดวางสายลับเพื่อรับเอาโบนัสด้านต่างๆ เอาทรัพยากรก็ได้ หรือจะจัดลงตามฝ่ายศัตรูเพื่อดูรายละเอียดปลีกย่อยและเอาค่า Intel (ข้อมูล) ซึ่งสุดท้ายค่านี้สามารถเอาไปแลกกับ"แผนการ" เหมือนกับความสามารถ buff / debuff ใช้สนับสนุนทหารเราเองหรือป่วนคู่แข่งได้ เช่น 50ข้อมูลเพื่อเปิดแผนที่ 200ข้อมูลเพื่อสนับสนุนยุทธปัจจัยทหาร(ให้ฟื้นเลือด+supplyนอกพื้นที่) 500ข้อมูลเพื่อให้เมืองเป้าหมายเกิดกบฎ นอกจากนี้ความโหดของระบบสายลับในเกมนี้ก็คือท้ายๆเกมมันสามารถทำลายฝ่ายเป้าหมายทิ้งได้เลยผ่านการลอบสังหาร3ขั้น ซึ่งใช้ทั้งทรัพยากรและเวลาค่อนข้างมาก แต่หากทำสำเร็จก็จะทำลายฝ่ายนั้นๆไปเลย ไม่สนว่าจะมีพื้นที่มากแค่ไหนหรือมีทหารมากแค่ไหน

โดยรวมตอนนี้ยังเป็น early access อนาคตน่าจะมีอะไรเพิ่มมาอีกเยอะ เช่น เพิ่มฝ่าย เพิ่มยูนิต เพิ่มรูปแบบแผนที่ ปรับสมดุลความสามารถ แก้เรื่องการทูต(ที่โคตรโง่) ระบบความยากที่ควรทำได้ยากกว่านี้(เพราะ AI ยังโง่มาก) ซึ่งการปรับความยากเกมสมัยนี้มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ (ปรับ normal ดันเหมือน easy ส่วนปรับ hard จริงๆคือ normal เป็นต้น) แต่รวมๆแค่นี้ก็ถือว่าเล่นได้สนุกพอประมาณแล้ว เรียนรู้โคตรง่าย ความซับซ้อนยังไม่มากนัก หลายๆอย่างก็ดูแอบคล้ายบอร์ดเกม แล้วถ้าไม่ได้ดูหนังหรืออ่านนิยายจะเล่นรู้เรื่องไหม คำตอบคือเล่นได้สบาย (ผมก็ไม่ได้อ่าน+ไม่ได้ดู) เพราะแม้ว่าหลายๆอย่างมันคือชื่อเฉพาะทำให้ฟังดูเหมือนจะเข้าใจยาก แต่คุณเล่นรอบเดียวก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร เช่น Landsraad ก็คือสภา Sietches คือหมู่บ้านชนเผ่าที่เราไปค้าขายด้วยได้

--------------------------------------------------------------------------------------------------

=== [สรุป] ===

++ 4X เบาๆที่ใช้ระบบการรบแบบ RTS เรียนรู้ง่าย เล่นง่าย ความซับซ้อนไม่มากนักแต่สนุกใช้ได้ ให้อารมณ์บางมิติคล้ายๆบอร์ดเกม

++ ตัวเลือกในการเล่น 4 ฝ่าย (ขณะเขียนรีวิว) ที่ค่อนข้างมีจุดสนใจที่แตกต่างกัน วิธีการเล่นที่แตกต่างกันเล็กน้อย ผ่านการปะทะกันทั้งใน 3 สมรภูมิคือ สนามรบ การเมือง และการจารกรรม พยายามมุ่งสู่รูปแบบการชนะ 3 รูปแบบ

+/- ใช้ชื่อเฉพาะค่อนข้างเยอะ สำหรับคนที่ดูหนังหรือเสพย์นิยายอาจรู้สึกอิน แต่สำหรับคนที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ Dune เลยอาจเบือนหน้าหนีเวลาเจอชื่อเฉพาะเยอะๆ ทำให้เกมดูเหมือนจะเรียนรู้ยาก แต่จริงๆเข้าใจง่ายมาก เล่นตาเดียวจบก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร

- AI ที่โง่คือเหยื่อ โดยรวมถือว่ายังขาดการขัดเกลา ความยากในเกมก็ยังดูไม่มีประโยชน์นักหาก AI ยังคงโง่งม แม้ว่าคุณจะเล่นระดับความยากสูงสุด (insane) ก็ตาม มันก็ให้ความรู้สึกว่า AI ดื้อด้านดึงดันเหมือนเด็กเสียมากกว่า นอกจากนี้ระบบการทูตก็โคตรโง่ เหมือนเจรจากับคนสมองเสื่อมซึ่งมันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวมันเองกำลังได้เปรียบหรือเสียเปรียบ (แต่อย่างว่าแหละ นี่คือ early access)

- Quality of life บางอย่างยังดูขาดๆ เช่น รถเก็บ spice สามารถให้หนีหนอนอัตโนมัติได้ แต่พอหนีมาแล้วก็จอดนิ่งๆ ต้องมานั่งกดให้มันกลับไปทำงานเอง (เพื่ออะไร?) จัดเรียงยูนิตการ์ดไม่ได้ ขาด shortkey หลายอย่าง ฯลฯ (เหมือนเดิม นี่คือ early access)
Posted 15 July, 2022. Last edited 16 July, 2022.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
3 people found this review helpful
1 person found this review funny
30.2 hrs on record (8.6 hrs at review time)
Early Access Review
[Colony survival + RTS / แนวเดียวกับ They are billions / แลดูมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีในอนาคต]

=== ข้อมูลเบื้องต้น ===

มาอีกแล้วกับเกมแนวตระกูล TAB กล่าวโดยย่อคือเราจะมีสิ่งก่อสร้างหลัก(ปราสาท)เกิดอยู่กลางแมพ ซึ่งเราก็ต้องเก็บรวบรวมทรัพยากร สร้างสิ่งก่อสร้างขยายฐานออกไปเรื่อยๆจากศูนย์กลาง คอยสร้างทหารและวิจัยพัฒนาสิ่งก่อสร้างใหม่ โดยทั้งฉากเริ่มมาจะมีศัตรูกระจายอยู่รอบๆทั่วไปหมด เราสร้างทหารมาไล่ยึดพื้นที่ในฉากเพื่อตัวเองจะได้ขยายไปได้ โดยเกมจะให้เราตั้งรับการบุกเป็นระลอก(เป็นเวฟ) โดยที่ระลอกสุดท้ายจะจัดหนักจัดเต็มที่สุดแบบศัตรูทะลักมาทั่วทุกสารทิศ หากเรายังสามารถตั้งรับเอาตัวรอดได้ก็คือชนะ

เกมตระกูลนี้คนที่เคยเล่น RTS จะรู้สึกว่าเข้าใจได้ง่ายมาก เป็นลักษณะสร้างของบางสิ่งเพื่อปลดล็อคบางสิ่งหรืออัพเดทสิ่งที่มีอยู่เดิม และก็ปั๊มทหารออกไปไล่กวาดศัตรู แต่แม้ว่าเข้าใจได้ง่ายก็ยากที่จะเชี่ยวชาญ เพราะเกมแนวนี้มักมากับความยากแบบเกรียนๆซึ่งอาจทำให้คนที่ไม่เคยชินกับตระกูล colony survival เบือนหน้าหนีได้ง่ายๆ (เกมยากแต่ก็ยังมีความแฟร์ในระดับที่เอาชนะได้) แต่หากคุณเป็นคนที่คิดว่าความยากในระดับกำลังดีคือรสชาติแห่งความท้าทาย เกมตระกูลนี้เป็นสิ่งที่คุณต้องมาลองเล่นไล่เรียงไปทีละเกมแน่นอน

เกมเลือก setting เป็นยุคปี 1491 ซึ่งเป็นช่วงท้ายๆของยุคมืดหรือยุคกลางในยุโรป (medieval age) ซึ่งยุโรปส่วนใหญ่ใช้ระบบการปกครองแบบศักดินาสวามิภักดิ์ (feudalism) ในโลกแห่งความจริงก็มีเหตุการณ์ในปีนี้เรียกว่า Bread and Cheese Revolt มีชาวนาลุกฮือขึ้นต่อต้านการเก็บภาษี โดยฆ่าเจ้าหน้าที่เก็บภาษีและบุกเข้าปล้นทำลายปราสาทสองหลังในฮอลแลนด์ ในเกมนี้ก็...เอิ่ม...ใช่ครับ เราเล่นเป็นขุนนาง (lord) คนนึงที่ต้องมารับมือกับกองทัพกบฏชาวนาที่แห่แหนมาจากทั่วทุกสารทิศนั่นเอง ใน campaign จะมีเนื้อเรื่อง+ด่านต่างๆมากมาย ทั้งนี้เมื่อเข้าด่านสองเราสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะทำตามหน้าที่ของตัวเองหรือเลือกไปอยู่ฝ่ายชาวบ้าน (ซึ่งจะทำให้เกมที่มันยากอยู่แล้วยากขึ้นไปอีก)

อย่าลืมว่าตัวเกมเป็น early access มีแค่โหมด endless กะ campaign ซึ่งแคมเปญเองแม้ว่าดูแผนที่แล้วน่าจะมีเป็นสิบๆด่าน แต่ตอนนี้ก็ยังเล่นได้แค่ 3 ด่าน (ยังทำแคมเปญไม่เสร็จ) รูปแบบภารกิจก็ยังเห็นรูปแบบเดียว แต่ระบบหลายๆอย่างก็ถือว่าสนุกและเริ่มลงตัว มี quality of life ที่ดีระดับนึง

=== เปรียบเทียบกับ They are billions ===

- บรรยากาศต่างกันโดยสิ้นเชิง อันนี้ดูสดใสมากกว่าโดยเป็นแนวธรรมชาติๆ ศัตรูหลักคือกบฏชาวนา (ไม่ใช่ซอมบี้ในยุคโลกล่มสลาย) ใครที่บ่นๆว่าใน TAB หรือ age of darkness บรรยากาศดูหม่นๆทะมึนๆ มีแต่ซอมบี้/ปีศาจ/สัตว์ประหลาด ก็น่าจะชอบบรรยากาศที่ดูสดใสกว่าในเกมนี้ ส่วนการหมุนมุมกล้องก็ทำได้อิสระ โดยกราฟฟิคเป็นมนุษย์ก๊องแก๊งคล้ายๆ totally accurate battle simulator แต่รวมๆดูสวยงามทันสมัยกว่า TAB ที่ออกไปคล้ายๆแนว retro+steampunk

- ระบบกลางวันกลางคืนที่ยังไม่เห็นว่ามันมีผลอะไรเท่าไหร่ แค่ 1.ทุกเช้าจะได้คนงานใหม่ตามจำนวนที่อยู่อาศัยรองรับ 2.คนจะกินอาหาร (อาหารถูกหักจากยุ้งฉาง) หากอาหารไม่พอคนก็จะป่วย ประสิทธิภาพการผลิตลดลงหรืออาจม่องไปเลย 3.เวฟมาตามที่นับถอยหลัง

- การเก็บเกี่ยวทรัพยากรจะมีการขนไปเท ไม่ใช่ตัวเลขบวกลอยๆ ยกตัวอย่างเช่น สร้างกระต๊อบเก็บผลไม้ คนงานจะเดินไปเก็บตามพุ่ม หากพุ่มหมดก็จะย้ายไปเก็บพุ่มอื่นต่อ สุดท้ายเอาทรัพยากรไปเทที่ปราสาทหรือยุ้งฉางจึงจะนับ ไม่ใช่ระบบบวกลอยแบบ TAB หรือ AoD ที่คำนวณตัวเลขแบบให้ทรัพยาตามหน่วยเวลา (10ไม้/8ชั่วโมง อะไรแบบนี้ ซึ่งTABไม่เคยมีคนออกไปตัดไม้จริง แต่เกมนี้มีคนเดินออกไปโค่นต้นไม้ ดังนั้นป่าจะหายไปเรื่อยๆ) แต่การสร้างนู่นนี่ยังเป็นการหักอัตโนมัติจากสิ่งที่เรามีเหมือนกัน (เช่น ไม่ต้องขนไม้ไปวางเพื่อสร้าง) ดังนั้นคุณต้องคิดด้วยว่าจะวางผังเมืองยังไงให้มีประสิทธิภาพ

- ไม่มีระบบ chain reaction ตรงนี้ถือว่าง่ายกว่า TAB (หรือมองอีกแง่อาจเพราะมันคือระบบที่ unique เฉพาะ TAB นั่นแหละ) หากแต่ชาวนาที่ใช้แค่คราดโง่ๆในเกมนี้ก็ดันทำลายสิ่งก่อสร้างได้เร็วใช้ได้

- สร้างฐานที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องสร้างเสาไฟเหมือน TAB (ก็สิ่งก่อสร้างยุคกลางมันไม่ใช้ไฟฟ้าอะนะ) หากแต่ว่าการสร้างเป็นระบบที่เราสั่งสร้างปุ๊บยังต้องรอคนงาน(เดินอืดอาด)มาตอกจนกว่าสิ่งก่อสร้างจะเสร็จด้วย ไม่ใช่กดวางปุ๊บมันจะค่อยๆงอกขึ้นมา

- ขยายฐานได้ง่ายกว่าเดิมเพราะไม่มีลูป [สร้างฟาร์ม>อาหาร>สร้างบ้าน>คนงาน>ฟาร์ม...] เกมนี้คุณสามารถปั๊มคนเป็นร้อยได้ในไม่กี่วัน เพราะสามารถสร้างบ้านไปก่อนได้ไม่มีขีดจำกัด(แค่ตามจำนวนไม้ที่มี) ส่วนคนงานจะมาทุกรุ่งเช้าและจะมีการกินอาหารเฉพาะตอนรุ่งเช้าเท่านั้น ดังนั้นถ้าคุณจัดสรรอาหารสำรอง(หรือหาเสริมได้ไว)จะสามารถขยายประชากรได้ไว ทำให้รู้สึกมีอะไรต้องทำตลอด ไม่ควรปล่อยให้เวลาสูญเปล่า

- ทรัพยากรหลายอย่างเป็นแบบใช้แล้วหมดไป เช่น เก็บไม้มีการโค่นต้นไม้จริง ดังนั้นป่าจะค่อยๆหายไป เหมืองหินเหมืองเหล็กก็มีวันใช้จนหมด

- ลืมไปได้เลยกับการหา choke point เพราะเกมนี้มันแทบไม่มี เหมือนเป็นที่เปิดโล่งแทบทั้งแมพ (ป่าก็เดินทะลุได้) ดังนั้นเมื่อเล่นๆไปสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการล้อมฐานด้วยกำแพงเมืองจีนยาวเหยียดนับร้อยลี้

- ไม่มีป้อมยิงอัตโนมัติ การป้องกันหลักคืออาศัยเอาทหารที่เรามีไปประจำการตามประตู/กำแพง/หอคอย (คล้าย stronghold พิกล) ตรงนี้ถือว่ายากกว่า TAB แต่ก็ไม่แน่ว่าอนาคตอาจเพิ่มมาให้ล่ะนะ

- เลือกระดับความยากได้หลากหลาย แม้ว่าจะมีระดับความยากแค่ 3 ระดับ(ซึ่งระดับสุดท้ายถือว่าเดือดดีมากแล้ว) แต่การที่ในเคมเปญมันสามารถเลือกได้ว่าจะอยู่ฝ่ายพระราชาหรือฝ่ายชาวนา การเลือกฝ่ายชาวนานี่แหละทำให้สามารถขยายความยากออกไปได้อีก (ซึ่งเลือกเล่นฝ่ายชาวนาแบบยากสุดคือเดือดมาก)

=== สรุป ===

++ ง่ายต่อการเรียนรู้และเข้าถึง ใครชอบแนว Colony survival ควรจัดมาลองอย่างยิ่ง ไม่ต้องคิดมาก ยิ่งชอบ TAB ยิ่งต้องลอง

+ Quality of life ทำออกมาได้ดีใช้ได้ / ตั้ง custom key สำหรับผู้ชื่นชอบการใช้ hotkeys ได้ / มีคัทซีนตามเนื้อเรื่องที่มีอารมณ์ขันแบบเกรียนๆ / ตัวเลือกความยากที่หลากหลาย

+/- ยังเป็น early access แม้ว่าหลายๆอย่างต้องรออัพเดทโดยเฉพาะแคมเปญ แต่ตอนนี้ก็ถือว่ามีศักยภาพที่จะเติบโตเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมในอนาคต (แถมราคาโคตรถูก)

- รูปแบบภารกิจยังมีชนิดเดียว / ต้องรอดูว่าจะมีตัวเลือกในแคมเปญที่มีผลต่อแนวทางการเล่นไหม เช่น อัพ tech หรือ perk ในแคมเปญเพื่อให้แนวทางการเล่นไม่ซ้ำเดิม เพราะหากไม่มีพอเล่นไปนานๆย่อมสามารถจำลำดับและรูปแบบการออกสิ่งก่อสร้างได้ ไม่มีอะไรให้ต้องพลิกแพลงมาก
Posted 11 February, 2022. Last edited 12 February, 2022.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
1 person found this review helpful
83.6 hrs on record (14.2 hrs at review time)
nice
Posted 27 November, 2021.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
< 1  2 >
Showing 1-10 of 20 entries