4
Products
reviewed
365
Products
in account

Recent reviews by Wilbur Bot

Showing 1-4 of 4 entries
2 people found this review helpful
43.8 hrs on record (10.9 hrs at review time)
นี่แหละ RE ที่เป็น Survival Horror ที่แท้จริง !!
Posted 25 January, 2019.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
2 people found this review helpful
1 person found this review funny
77.1 hrs on record (26.4 hrs at review time)
Dark Souls 3
ภาคนี้นับเป็นภาคที่ปิดจบไตรภาคของ Dark Souls ซึ่งเป็นเกมที่ขึ้นชื่อในเรื่องความยาก จนถูกขนานนามว่าเป็นเกม "ปาจอยทิ้ง"
( เกมแรกๆที่ถูกขนานนามด้วยชื่อนี้ คือเกม Demon's Souls ซึ่งอยู่ในเครื่อง PS3 เป็นเกมแรกของเกมตระกูลโซลเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นทีมงานทีมเดียวกันที่ทำ Dark Souls 1 และ 3 /ภาค 2 ใช้คนละทีมงานในการทำ แต่บริษัทเดียวกัน/ และเกม Bloodborne นั่นเอง )

ในภาค 3 นี้จะเป็นเนื้อเรื่องที่ต่อจากภาค 1 ซึ่งหลังจากที่ตัวเราในภาคแรกได้ทำการ Link The Fire เพื่อสานต่อยุคแห่งไฟนั้นเอง...
ผมจะเกริ่นเนื้อเรื่องไว้แค่นี้ละกัน

เอาล่ะ มาดูที่องค์ประกอบอื่นๆบ้าง

ระบบในเกม
- มีการประยุกต์ระบบในเกมในเครือหลายๆเกมเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นหลอดโฟกัส ( หรือก็คือหลอด FP หรือ Focus Point ) ที่ได้ถูกเพิ่มเข้ามา ซึ่งเวลาเราใช้ Weapon Skill หรือใช้เวทย์ ค่าของหลอดนี้ก็จะลดลงด้วย ซึ่งหลอดนี้ ปรากฎครั้งแรกในเกม Demon's Souls
- ความเร็วของเกมที่เพิ่มขึ้น และใช้เอนจิ้นตัวเดียวกันกับ Bloodborne
- การตีบวกอาวุธ ตันที่บวก 10 เหมือนกับ Dark Souls 2
- Weapon Skill หรือ Sword Art เป็นระบบที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ที่ทำให้อาวุธในเกมภาคนี้ น่าหยิบนำมาใช้ทุกชนิด
- เพลงประกอบในภาคนี้จัดว่าทำออกมาได้อลังการพอสมควร ให้อารมณ์ตื่นเต้นในการสู้เกือบทุกตัวเลยทีเดียว
- การ Co-op ในภาคนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ไม่จำเป็นต้องมีเลเวลเฉลี่ยใกล้ๆกันเหมือนภาคแรก หรือต้องมี Souls Memory ใกล้ๆกันเหมือนภาค 2 เราก็ยังสามารถเล่น Co-op กับคนอื่นได้ เพียงแค่เราตั้งรหัสให้เหมือนกันกับคนที่เราอยากจะ Co-op ด้วย แล้วพอเราเข้าไปเราจะโดนปรับให้ Status ให้ใกล้เคียงกับ Host ที่เรียกเรามา เพียงแค่นี้เราก็สามารถเล่น Co-op ได้อย่างสนุกสนานแล้ว
- การซื้อเวทย์บางชนิดต้องนำ Tome บางชนิดไปแลกด้วย เพราะฉะนั้น ใครจะเล่นสายเวทย์ พยายามเดินสำรวจแมพให้ดีๆละกันนะ
- ระบบอื่นยิบย่อย โดยรวมก็ทำมาดีมาก แต่ไม่ถึงขั้นที่ว่าดีเยี่ยมเท่าไหร่ เพราะมันก็ยังมีบัคมาให้เห็นประปราย

โดยรวมเกมภาคนี้ทำออกมาในเกณฑ์ดีมาก ยังคงระดับความยากไว้เหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิม /ฮา
มอนสเตอร์ข้างทางก็ยังถือว่าโหดกว่าบอสเหมือนเดิมเลยก็ว่าได้ /ฮาอีกรอบ

เกมนี้นับว่าเป็นเกมที่กินสเป็คเครื่องเยอะพอสมควร แต่ภาคไม่ได้ทำสวยขนาดที่ว่าจำเป็นต้องกินสเป็คขนาดนี้ ( ไปดูคลิปของคนอื่นมา ปรับสูงสุดก็แค่ทำให้เห็นผมนุ่มสลวยมากขึ้นเท่านั้นเอง/ฮา )
แต่โดยรวมเครื่องผมก็ยังเล่นได้ โดยที่เฟรมเรตดรอปมาที่ 30-40 กว่าๆ นั้นคือเฟรมดรอปลงมามากที่สุดสำหรับเครื่องผม
โดยรวมก็ยังรันได้ที่ 50-60 FPS โดยประมาณตลอด ถึงแม้ว่าเครื่องผมจะไม่ผ่านสเป็คขั้นต่ำก็ตาม /ฮา

สำหรับระบบการควบคุม ถ้าใครใช้จอยที่เล่นไม่ได้ สามารถแก้ได้ด้วยการใช้โปรแกรมเปลี่ยนจอยให้เป็น Xbox ซะ แค่นี้ก็สามารถเล่นได้แล้ว /ผมจอย 199 ตั้งแต่ภาค 1 แล้ว ไม่มีเงินเปลี่ยนจอยซักที 55555555
ส่วนการเล่นด้วยคีย์บอร์ดก็ยังทำออกมาในระดับแย่เหมือนเดิม (เกมนี้คงทำมาให้สำหรับพวกมีจอยเล่นจริงๆน่ะแหละ/ฮา ) แต่เราสามารถตั้งค่าปุ่มกดตามใจชอบได้ เพราะงั้นท่านก็สามารถเปลี่ยนได้ตามใจชอบได้เลย

สรุปแล้ว
ภาคนี้ได้นำจุดเด่นๆของแต่ละเกมในเครือเดียวกันมาแปลงโฉมใหม่ ให้ออกมาดูดีที่สุด แล้วได้แก้ในเรื่องยิบย่อยต่างๆออกมาได้ดีมาก
นับเป็นอีก 1 เกมที่ท่านควรจะมีไว้ประดับคลังเกมไว้เลยครับผม
Posted 14 April, 2016. Last edited 14 April, 2016.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
5 people found this review helpful
1 person found this review funny
22.6 hrs on record (14.6 hrs at review time)
ไม่อยากจะเกริ่นอะไรเท่าไหร่ งั้นขอบอกข้อดีและข้อเสียเลยละกัน

ข้อดี
- เป็นเกมแนว Musou หรือแนววิ่งๆฟันๆนั่นเอง ไม่ใช่ Turn Base แบบตระกูลภาค Rebirth ที่ผ่านมา
- โดนตีแล้วเสื้อขาดได้ ( สำหรับสายหื่นโดยเฉพาะ /ฮา )
- มีระบบส่องด่านขณะที่กำลังสู้อยู่ได้ด้วย ( ก็สำหรับสายหื่นอีกนั่นแหละ /เอาไว้ส่องพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ หุหุหุ )
- ตัวไฟล์เกมมีขนาดน้อยมาก ถ้าเทียบกับเกมตระกูล Neptunia ด้วยกัน

ข้อเสีย
- สำหรับใครที่ชอบสไตล์การเล่นแบบ Turn Base ที่เป็นเสน่ห์ของ Neptunia เหมือนภาคหลักๆ ก็ขอบอกเลยนะครับว่า ให้มองข้ามภาคนี้ไปได้เลย
- ถ้าใครไม่ชอบอะไรที่มันซ้ำซากจำเจเท่าไหร่ ทั้งระบบต่อสู้ ดันเจี้ยน หรือมอนสเตอร์ ที่ถึงจะหลายโหมดให้ลองเล่นก็เถอะ แต่ก็ยังซ้ำซากจำเจเหมือนเดิม ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งลองเลยครับ
- ภาพในตอนนี้ ยังเหมือนพอร์ตมาจาก PS Vita ได้ยังไม่ค่อยดีสำหรับ PC เท่าไหร่ เนื่องจากปรับจอใหญ่แล้ว สามารถเห็นภาพที่แตกๆได้อย่างชัดเจน ( ในอนาคตเค้าอาจจะแพทเกมให้มันดีขึ้นกว่านี้ก็ได้ ก็ต้องรอดูกันต่อไป )
- ในเรื่องการปรับจอย น่าจะสามารถใส่ได้แค่จอย Xbox เท่านั้น ?? ( ไม่แน่ใจเท่าไหร่เหมือนกันในเรื่องนี้ แต่เนื่องจากใส่จอย 199 ( พอดีงบน้อย /ฮา )
แล้วไม่สามารถตั้งค่าให้จอยใช้งานได้ จึงเดาได้ว่าน่าจะใช้จอย Xbox ได้อย่างเดียว
( จอยสำหรับของเครื่อง PS ทั้งหลาย ผมไม่มีจึงไม่ได้ลอง ถ้าใครลองแล้วก็มาบอกต่อกันหน่อยนะว่ามันใช้ร่วมกันได้หรือเปล่า )
เพราะว่าสำหรับ Neptunia ภาคอื่นๆก็สามารถใช้จอย 199 เล่นได้ปกติ ดังนั้นผมจึงอาจจะบอกว่านี้เป็นข้อเสียได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่นัก ( อีกอย่างเกมนี้มันก็ควรที่จะเล่นด้วยจอย Xbox อยู่แล้วนี่เนอะ /ฮา )

ในส่วนของเนื้อเรื่องขอไม่นำมารีวิวนะครับ เนื่องด้วยเหตุผลบางประการ

แล้วก็ในส่วนของบัคในเกม เท่าที่เล่นมาก็ไม่เจออะไรเท่าไหร่นะ เพียงแต่แค่มีอาการเสียงกับภาพไม่ตรงกันในบางจังหวะเท่านั้นเอง โดยส่วนตัวแล้ว สำหรับผมก็ไม่นับว่าเป็นปัญหาอะไรมาก แต่ก็อาจจะเสียอรรถรสในการเล่นไปซักหน่อย

สรุปโดยรวม ถ้าใครชื่นชอบเกมตระกูล Neptunia แต่อาจจะไม่ชอบอะไรที่มันซ้ำซากน่าเบื่อจนเกินไป แนะนำว่าให้รอไปก่อนฮะ แล้วค่อยมาสอยก็ยังทันครับผม ^^
Posted 23 March, 2016. Last edited 24 March, 2016.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
1 person found this review helpful
89.6 hrs on record (45.5 hrs at review time)
อืมมม จะเริ่มต้นจากตรงไหนดีก่อนล่ะ....

เริ่มจากตัวเกมก่อนเลย
สำหรับภาคนี้นั้นก็ยังให้อารมณ์เกมที่ยังเป็นเกมตระกูลโซลเหมือนเดิม
หรือก็คือ การเกิด ตาย วนเวียน นั่นเอง /ขำ
แต่ถึงอย่างงั้น ในภาคนี้ก็ยังรู้สึกได้ว่าง่ายกว่าภาคแรกมาก /ยกเว้นด่าน DLC อ่ะนะ 555555
บอสในภาคนี้มีเยอะกว่าภาคก่อนก็จริง แต่ไม่ค่อยเป็นที่น่าจดจำซักเท่าไหร่....

ระบบในเกม
ในภาคนี้ไม่ต้องใช้ Humanity เพื่อที่จะกลายร่างเป็นคนจากกองไฟอีกต่อไป
เราสามารถกดใช้ได้จากช่อง Inventory ได้เลย ทำให้สะดวกขึ้นเยอะ
แต่ในขณะเดียวกัน การที่จะอัพเลเวลนั้น เราจะต้องวาร์ปกลับไปที่เมืองแรก
เพื่อที่จะไปให้ NPC อัพเลเวลให้

ในส่วนของระบบ Co-op สำหรับภาคนี้นั้น สามารถทำได้
โดยที่เราและเพื่อนเรานั้นต้องมี Soul Memory อยู่ในระดับเดียวใกล้เคียงกัน
ซึ่งแตกต่างจากภาคแรก ที่ว่าต้องมีเลเวลใกล้เคียงกันถึงจะ Co-op กันได้
รายละเอียดเพิ่มเติมนั้น หาได้จากวิกิเลยฮะ...

ในส่วนของการควบคุม
ในการควบคุมนั้น การใช้จอยเล่นถือว่าปกติแล้วก็ลื่นไหล
ไม่มีอาการที่ว่ากดแล้วมันจะดีเลย์ย้อนหลัง /ไม่ก็ผมยังไม่เจออาการนี้
จอยที่ใช้เล่นนั้น ใช้ได้ตั้งแต่จอย Xbox ที่ทางเกมเค้าแนะนำ ไปยันจอย 199 ที่หาได้ตามตลาดทั่วไป
แค่เอาไปตั้งค่าเซ็ทปุ่มเอาเอง อาจจะยุ่งยากหน่อย แต่ก็สามารถนำมาใช้เล่นได้ปกติครับผม

ในส่วนของการควบคุมด้วยคีย์บอร์ดนั้น มีตำหนิในหลายๆอย่าง
เช่น การที่เรากดแล้ว มันไม่ทำตาม , กดโจมตีต่อเนื่อง แต่มันกลับโจมตีแล้วเว้นช่วงจังหวะให้เอง
ซึ่งถือว่าเป็นผลเสียในระดับนึง แนะนำว่าถ้าใครยังไม่มีจอยแล้วอยากเล่นล่ะก็ ให้เก็บเงินซื้อจอยไปก่อน
ไม่งั้นอาจจะเบื่อเกมนี้เร็ว เนื่องจากกดแล้วไม่ได้ดั่งใจนั่นเอง....

มาสรุปกันเลยดีกว่า
สำหรับผม ผมขอให้คะแนนที่ 8/10
ในภาคนี้โดยรวมแล้วถือว่า สนุก ยังคงความเป็น DarkSouls ได้อยู่
ด้านเนื้อเรื่องไม่ค่อยน่าติดตามเท่าภาคแรกซักเท่าไหร่ แล้วยังมีปัญหายิบย่อยหน่อยๆ
แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก นับได้ว่าเกมนี้เป็นเกมที่สามารถดูดเวลาชีวิตของคุณได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
Posted 10 February, 2016. Last edited 10 February, 2016.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
Showing 1-4 of 4 entries