28
Products
reviewed
462
Products
in account

Recent reviews by Blue하늘

< 1  2  3 >
Showing 1-10 of 28 entries
2 people found this review helpful
67.6 hrs on record (67.5 hrs at review time)
Forcing Players to Connect PSN? What a joke.
Posted 4 May. Last edited 4 May.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
34 people found this review helpful
2 people found this review funny
12.7 hrs on record (6.7 hrs at review time)
"เหนือความคาดหวัง และคาดหมายทุกอย่างระหว่างการเล่น เอ็นจอย และเอนเตอร์เทนกับเกมตลอดตั้งแต่ต้นยันจบค่ะ!!"
.
จะรีวิวแบบสั้น ๆ ไว ๆ [?] หลังเล่นจบ คือปกติเราจะเฉยกับเนื้อเรื่องเกมค่ายนี้ ถ้าไม่นับ Until Dawn พวก Man of Medan กับ Little Hope นี่คือเฉย ๆ สำหรับเรามาก เลยคิดว่า House of Ashes เนื้อเรื่องน่าจะธรรมดา ๆ เช่นกันค่ะ ปรากฎว่าไม่! เล่นแล้วแม่งรู้สึก Beyond 5555+
.
ก่อนอื่นเลยถ้าคุณคาดหวังความสยองขวัญอะไรล่ะก็เกมนี้แทบไม่มีให้ค่ะ! เพราะมันคือแอ็คชั่น แบบแอ็คชั่นเหี้ย ๆ เหมือนพวกภาพยนตร์แบบ Alien, Terminator อะไรแบบนั้น!
.
เนื้อเรื่องของเกมจะเริ่มต้นในปี 2003 กับสงครามอิรัก กลุ่มตัวเอกคือทหารอเมริกันที่ได้รับภารกิจให้ไปกำจัดสถานที่ ที่เชื่อว่าเป็นโรงงานผลิตอาวุธเคมีของ 'ซัดดัม ฮุสเซน' แต่ทว่าขณะที่ทำการเก็บกวาดพื้นที่เพื่อค้นหาพวกเขา กลับถูกซุ่มโจมตีโดยทหารอิรัก และเกิดแผ่นดินไหวจนพาทหารทั้ง 2 ฝ่ายตกไปยังวิหารใต้ดินของชาวสุเมเรียน และนั่นก็ได้เป็นการปลุกสิ่งมีชีวิตโบราณบางอย่างขึ้นมา!
.
บอกเลยค่ะว่าการนำเสนอเรื่องราวในเกมภาคนี้ดูดีขึ้นเป็นอย่างมากค่ะ ถ้าเทียบกับภาคก่อน ๆ ของเกมค่ายนี้ ตัวเกมมีความเป็น Cinematic มากขึ้น ในแง่ของมุมกล้อง และการนำเสนอ มีโมเมนต์เท่ ๆ และน่าจดจำพอสมควร ในส่วนของการเก็บพวกเอกสารบางประเภทจะมีพวก Flash-Back เล่าย้อนหลังแบบพวกวิดีโอเทปคลาสสิค พร้อมเสียงบรรยายมาให้เราดู และฟัง คือมันเล่าได้น่าติดตามมาก [แต่ Feature นี้ตอนเล่นออนไลน์กับเพื่อนไม่มีดันเป็นให้อ่าน Text เพียว ๆ] ชวนให้เราอยากประติดประต่อเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนเหตุการณ์ในเกม
.
แต่ถึงอย่างนั้นเนื้อเรื่องเกมพวกพล็อตความสัมพันธ์ย่อยบางอย่างเรารู้สึกว่ามันธรรมดาไปหน่อยค่ะ ในเกมก็จะยังมีความไม่ Make-Sense บางอย่างอยู่บ้างที่แบบน่าจะสังเกตได้ง่าย ว่าทำไมมันไม่ทำงี้วะ กับบ้างเรื่อง และตัวละคร Rachael ที่เรารู้สึกว่าการออกแบบบุคลิกนิสัยนางทำออกมาได้ห่วย เหมือนใส่มาเพื่อทำประเด็นรักสามเราในพล็อตย่อยซะมากกว่า [แต่ตัวละครอย่าง Salim,Nick,Jason นี่บุคลิกนิสัยดีตามสไตล์หนังแนวนี้ค่ะ!] แต่ถึงมันจะมีจุดด้อยแบบนั้น แต่มันก็เป็นอะไรที่ดีเทลเล็กน้อยมาก เพราะตลอดการเล่นที่เราได้รับคือความบันเทิง อารมณ์แบบดูหนังสนุก ๆ ดี ๆ สักเรื่องค่ะ!
.
ในส่วนของเกมเพลย์ก็สไตล์เกมแนวนี้นะคะ เน้นเลือกช้อยส์ กับ QTE เป็นหลัก ในภาคนี้เราจะปรับระดับความยากได้ ซึ่งยิ่งง่ายพวก QTE ก็จะมีเวลาให้กดมากขึ้น ทำนองนี้ ซึ่งในระดับ Normal ที่เราเล่น เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างจะแปลก ๆ ไปหน่อยค่ะ คือบางทีเวลานับถอยหลังก็เร็ว บางทีมันก็ช้า ด้วยความที่ภาคนี้ Cutscene ในหลาย ๆ ฉากมันยาว เวลาพวก QTE มานี่ตกใจค่ะ เพราะนั่งรอเพลินจนโฟกัสไม่ทัน
.
ทางฝั่งของ Choice ในเกมนี้ ก็ทำออกมาได้ดีค่ะ บางอันก็เป็น Choice หลอก [เลือกอันไหนไม่ต่างกันมาก] แต่หลาย Choice ก็จะแอบพาผู้เล่นไปลำบาก หรือ ไปตายทีหลังดีค่ะ [มันมีอยู่ช้อยส์นึงที่ขึ้นมาในช่วง 25% แรกของเกมมา 2-3 รอบ ซึ่งพอเราเล่นจบ เราเลยรู้ว่าถ้าเราเผลอไปทำแบบนั้น พอเข้ามาในช่วงเกมครึ่งหลังน่าจะมาลำบากในฉากไหน]
.
ในส่วนของพวกเสียงพากย์อันนี้บางช่วงเรารู้สึกว่าเสียงภาคมันดูไร้อารมณ์ไปนิดนึง แต่แบบมันแค่บางฉากน้อย ๆ กับประโยคไม่กี่คำ พวกซาวด์เสียงปืน เสียงบรรยากาศ การออกแบบฉากทั้งหลายก็ทำออกมาได้ดีค่ะ อลังมากด้วย! [ในแบบสไตล์หนังแนวนี้อ่ะนะคะ แต่เราบอกไม่ได้ว่าอะไรเดี๋ยวสปอยฉากสำคัญ!] แต่ก็ยังมีพวกบัคเล็กน้อยที่เราเจอแบบบัคโมเดลตัวละครคอหมุนหัวหมุนงี้ขณะควบคุมค่ะ แต่ก็เกิดขึ้นแบบแค่ราว ๆ 4-5 วิแล้วก็หาย หรือ บางทีดูฉากย้อนความจากเอกสารเสร็จ จอดำแช่จนนึกว่าค้าง [แต่ความจริงไม่]
.
สรุปแล้วถ้าอยากเล่นเกมที่มีเนื้อเรื่องบันเทิงย่อยง่ายไม่ได้น่ากลัวหรือสยองขวัญมาก มีความแอ็คชั่น + ระเบิดตูมตาม + เอาตัวรอดจากสัตว์ประหลาด เกมนี้ก็จะตอบโจทย์ด้านความบันเทิงค่ะ โดยตอนนี้ในด้านสตอรี่เรายกให้เป็นอันดับ 1 ในซีรี่ส์ของเกมที่ออกมาตอนนี้ เพราะเราชอบความกล้าที่จะนำเสนอเนื้อเรื่องที่แบบ [***พูดไม่ได้เพราะจะสปอย***] มาก เมื่อเทียบกับเกมก่อนหน้าในซีรี่ส์
.
+สตอรี่ที่ทำออกมาได้อย่างบันเทิง และน่าติดตาม มีความกล้าในการเล่นใหญ่
+การนำเสนอเรื่องราวย่อยต่าง ๆ ในเกมที่ทำออกมาได้น่าอ่าน และน่าติดตามอย่างพวก Cutscene ย้อนอดีตจากบันทึกที่เราค้นหาเจอ
+เล่นแล้วเหนื่อยเพราะ แอ็คชั่นทีคือไม่พักหายใจ และถ้าพลาดคือตัวละครเสี่ยงตาย
+ประสบการณ์การเล่นกับเพื่อนแบบออนไลน์ (Shared-Story) สร้างประสบการณ์ที่ตื่นเต้น และน่าจดจำ
.
-เนื้อเรื่องรองของตัวละครบางตัวรู้สึกว่าธรรมดาไปหน่อย เลยทำให้ตัวละครบางตัวที่ว่ารู้สึกว่าเป็นส่วนเกินนิดนึง
-QTE ในเกมที่ความเร็วดูไม่แน่ไม่นอนในบางครั้ง
-มุมกล้องในที่แคบบางทีมันอยู่ติดกับตัวละครมาก จนทำให้การมองสำรวจรอบ ๆ ทำได้ลำบาก
-ในการเล่นออนไลน์กับเพื่อน บางครั้งจะเกิดบัคหรือแอนิเมชั่นในขณะที่สำรวจของในฉาก
Posted 22 October, 2021. Last edited 23 October, 2021.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
29 people found this review helpful
3 people found this review funny
24.6 hrs on record (14.0 hrs at review time)
"เมื่อคุณเอา Dishonored มาปั่นกินให้ย่อยง่าย และเพิ่มกันเพลย์มัน ๆ เข้าไป จึงกลายเป็นอะไรที่ เอ็นจอย มีสไตล์ เข้าใจง่าย แต่ก็ด้อยกว่าเกมอื่น ๆ ของ Arkane เมื่อเทียบกับบรรดาเกมก่อนหน้า"
.
[Story]
คุณจะได้รับบทเป็น Colt 'The Captain' Vahn ที่ตื่นขึ้นมาบนชายหาดของเกาะปริศนา Blackreef ที่กำลังติดอยู่ในลูปเวลา 1 วัน ด้วยผลของการทดลองบางอย่าง โดยไร้ซึ่งความทรงจำว่าตัวเองเป็นใคร และมาที่นี่ได้ยังไง แต่อย่างเดียวที่เขารู้ก็คือ เขาจะต้องทำลายลูปเวลาที่เกิดขึ้นบนเกาะแห่งนี้ให้จงได้ โดยการฆ่าเหล่า ผู้มีวิสัยทัศน์ทั้ง 8 (Visionaries) แล้วความจริงเบื้องหลังของเกาะแห่งนี้คืออะไร และภารกิจของ Colt จะสำเร็จหรือไม่ ก็เป็นอะไรที่คุณต้องติดตามกันเองใน Deathloop
.
ในแง่ของการนำเสนอเนื้อเรื่อง ส่วนใหญ่แล้ว เกมจะบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านบทพูดของ Colt กับ Julianna และเอกสารต่าง ๆ ภายในเกมที่ผู้เล่นต้องค้นหา และสำรวจ โดยจะมีคัทซีนมาบ้างในบางช่วง ซึ่งบอกเลยค่ะ ว่าคุณจะงง เหมือนกับตัวเอกที่ความจำเสื่อม เพราะด้วยปริศนาที่ทิ้งไว้เยอะ จนทำให้บางทีเล่นจบแล้ว คุณก็อาจจะยังมีคำถามเหลืออยู่เยอะมาก ขนาดเราว่าตัวเราเองอ่านเอกสารกับบันทึกเสียงอะไรเยอะแล้ว เล่นจบยังมีหลายเรื่อง งง ๆ อยู่เลยว่ามันยังไง
.
แต่ถึงจะเป็นงั้น แต่จากประสบการณ์ตลอดการเล่นเพื่อเสพเนื้อเรื่อง ก็เป็นอะไรที่ประทับใจ และชวนให้ติดตามต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ แถมการพูดคุยสนทนากันของ Colt และ Julianna นี่เป็นอะไรที่ฟังเพลินฟังสนุกค่ะ โดยเฉพาะเสียง Julianna นี่น่ารักละมุน แบบกวน ๆ ส่วนพระเอกเราก็กวนตีน เน้นฮากลับ การฟัง 2 คนนี้พูดคุยกันเลยเป็นอะไรที่บันเทิงใจไม่น้อยค่ะ
.
[Gameplay]
ก่อนอื่นเลยถ้าคุณเคยเล่นเกมก่อน ๆ ของค่าย Arkane มาก่อน อย่าง Dishonored หรือ Prey มาเกมนี้ แบบเดิมเป๊ะค่ะ เข้ามือได้ทันทีเลย ในช่วงแรกที่เรายังมีไอเท็มอะไรน้อยเน้น Stealth ก็คือ Dishonored ดี ๆ นี่ล่ะค่ะ 555+ แต่พอเราเริ่มมีสกิล มีของเยอะก็จะกลายเป็นแบบในตัวอย่างเกมเพลย์เลย วิ่งไล่ยิง กระโดดไปมาพร้อมซีนเท่ ๆ โอเค...นอกเรื่องพอแล้ว เรามาเข้าในส่วนของระบบเกมกัน
.
อย่างแรก ถึงเนื้อเรื่องเกมนี้จะบอกว่าเราจะต้องจบลูปให้ได้ภายใน 1 วัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเกมจะจับเวลาการเล่นเรานะคะ เพราะช่วงเวลาในเกมจะแบ่งออกเป็น 4 ช่วงคือ เช้า บ่าย เย็น มืด และแผนที่ในเกมจะแบ่งออกเป็น 4 เขต (ในแต่ละช่วงเวลา ตำแหน่งศัตรู กับดัก การเปิด-ปิดตึก หรือ เหตุการณ์บางอย่างก็จะเกิดขึ้นไม่ซ้ำกันกับช่วงเวลาอื่น)
.
โดยเราจะเริ่มต้นทุกลูปที่ตอนเช้า และจะต้องทำการเลือกว่าจะไปสำรวจพื้นที่ไหนก่อนจาก 4 เขต ซึ่งจะใช้เวลาในการเล่น และสำรวจแผนที่ของเขตที่ไปเท่าไหร่ก็ได้ แต่เมื่อเรากลับเข้าฐานลับของเรา เวลาในเกมก็จะดำเนินต่อเข้าสู่ช่วงเวลาถัด พร้อมกับเปิดโอกาสให้เราเลือกแผนที่เขตต่อไปที่จะสำรวจต่อ ซึ่ง 1 ลูปในเกม ก็จะวนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ นั่นเองค่ะ และทุกครั้งที่ขึ้นลูปใหม่ของอย่างไอเทม ปืน เครื่องราง ตัวอัพเกรดสกิลต่าง ๆ ที่เราหามาได้ก็จะหายไป แล้วถ้าไม่อยากของหายต้องทำยังไง? มาดูกันในส่วนถัดไปค่ะ
.
ตัวเกมจะมีค่าเงินที่เรียกว่า Residuum อยู่ ซึ่งหลัก ๆ สามารถที่จะหาได้จากการ Interact ใส่ของที่เรืองแสงแปลก ๆ, ฆ่าเป้าหมายอย่างเหล่า Visionaries, และเอาไอเทมต่าง ๆ ที่มีซ้ำไปย่อย โดย Residuum นี่เป็นสิ่งที่เราจะต้องใช้ เพื่อจ่ายในการ Infuse ของทุกอย่างที่เราหาได้เข้าตัวค่ะ และมันก็จะอยู่กับเราถาวรในทุกลูป (เว้นแต่จะไปกดย่อยเอง) พอเป็นแบบนี้แล้วแน่ล่ะว่ายิ่งเล่นไป แล้ว Infuse ของเข้าตัวเยอะ ๆ เกมก็จะยิ่งเล่นง่ายขึ้นมาก
.
และนี่ก็จะเป็นระบบหลัก ๆ ทั้งหมดของเกม Deathloop ค่ะ ที่แตกต่างจากเกมเก่า ๆ ของ Arkane แต่ว่าปัญหามันอยู่นี่แหล่ะว่า ถ้าไม่นับกันเพลย์ที่เวลายิงมันส์, หน้าจอ HUD ที่เรียบร้อยสบายตา และการควบคุมที่ทำออกมาได้ดีแล้ว ส่วนอื่นของเกมมีหลายอย่างที่ด้อยกว่า Dishonored และ Prey มาก อย่างความคิดสร้างสรรค์ และอิสระอะไรที่เกมเก่า ๆ เคยมี เกมนี้กลับมีน้อยค่ะ อย่างพวกเหล่า Visionaries นี่ ตำแหน่งทุกอย่างฟิกไว้หมดเลย การเปลี่ยนตำแหน่งพวกเขาให้มาอยู่ในที่เดียวกันเพื่อฆ่าให้ครบนี่คือเกิดขึ้นตามเนื้อเรื่องภารกิจหลักล้วน ๆ
.
อย่างใน Dishonored นี่ บางเป้าหมายเรายังจะมีโอกาสใช่ไหมคะ ว่าจะเลือกบุกไปฆ่าเลย หรือ จะลองหาพวกไซด์เควสเพื่อปลดล็อกวิธีการกำจัดเป้าหมายแบบอื่นที่ บางทีอาจไม่จำเป็นต้องจบลงด้วยการฆ่าก็ได้ หรืออย่าง Hitman ต้องฆ่าเป้าหมายอย่างเดียวเหมือนกัน แต่เกมก็ยังใส่พวก Opportunities ให้เราได้เปลี่ยนตารางการเดินของเป้าหมายเพื่อลองวิธีฆ่าแบบใหม่ ๆ พอลองมาเทียบกับ Deathloop เหมือนเป็นเกมที่ Arkane ลดสเกลอะไรเยอะมาก อิสระเส้นทางในการเข้าหาเป้าหมายแบบหลากหลายก็ไม่ได้มีมากเมื่อเทียบกับเกมก่อน ๆ, ไซด์เควสหลัก ๆ ก็คือการหาปืนระดับเกรดหายากสุดมาใช้ ไม่ได้เป็นการเปิดเส้นทางใหม่ ๆ, และด้วยสเกลของแมพ และพื้นที่ในเขตที่เล็ก พอเล่นไปสักพักคุณก็จะเริ่มจำพื้นที่ส่วนใหญ่ของมันเกือบ 100% ได้ เราเลยรู้สึกว่าคุณค่าในการกลับมาเล่นซ้ำมันอาจไม่ได้เยอะขนาดนั้น
.
เกมมีระบบที่เรียกว่า Loop Stress ที่ทุกครั้งที่เราฆ่าเป้าหมายได้ 1 คน เกมก็จะยากขึ้นใน Loop นั้น ๆ พวกศัตรูจะมีความโหดขึ้น อาวุธดีขึ้น และดรอปของดีขึ้น แต่ปัญหาคือเราฆ่าเป้าหมายหลัก 8 คน ไปทั้งหมด 2 ลูปติดแล้ว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันยากอะไรเลย (และก็เนื่องจากเกมมีภารกิจหลักให้ทำต่อให้คุณไขปริศนาได้ว่าจะต้องทำยังไงถึงจะฆ่าได้พร้อมกัน 8 คน เกมก็จะไม่นับว่าคุณเล่นจบค่ะ จนกว่าจะทำภารกิจเนื้อเรื่องครบทั้งหมด) คือถ้าเทียบกับ Prey: Mooncrash ที่เป็น DLC Rogue-Lite แล้ว DLC ที่ว่านี่ทำระบบ Rogue-Lite ที่เกมนี้พยายามต่อยอดมา ได้ดีกว่ามากค่ะ ในเรื่องของความท้าทาย และการสุ่มศัตรูต่าง ๆ ให้เกมมันไม่ซ้ำซากจำเจ เพราะเกมนี้มันลูปตามชื่อเลย ศัตรูทุกตัวอยู่ฟิกตำแหน่ง เป้าหมายฟิกตำแหน่งหมดจริง ๆ
.
ส่วนพวกศัตรูก็แทบไม่มีอะไรหลากหลายเลยนอกจากถือปืนต่างกันแค่นั้นเอง แถม Julianna ก็ไม่ได้น่ากลัวมากค่ะ เวลาที่นางออกมาตามล่าเรา เพราะบอท Julianna นี่โดนเก็บง่ายมาก บางทีวิ่งมาเราระดมยิงคือตายก่อนได้ทำอะไร (อาจจะน่ากลัว และตื่นเต้นกว่านี้ถ้าเล่นกับคนจริง ๆ แต่ตอนนี้คือเรายังไม่เคยโดนคนอื่นบุกเลย จะไปบุกเขาก็สุ่มหาไม่เจอ 555+)
.
โดยรวมแล้วเกมมันเป็นเกมที่เล่นสนุก เราเอ็นจอยมาก ๆ ตลอดการเล่น และเชื่อว่าต่อให้เคยเล่นเกมก่อน ๆ ของค่าย Arkane มาก่อน หรือ ไม่เคยเล่นเลย มาเล่นเกมนี้แล้วก็จะสนุกไปกับมัน เพราะการยิงกัน การใช้พลัง การวิ่งหนีไปบลิงค์ไป นี่มันเท่ทุกโมเมนต์เลยจริง แต่เราก็อดเสียดายไม่ได้ เพราะถ้าเทียบกับมาตรฐานของเกมที่ค่ายนี้ทำมาก่อนหน้า เราเลยรู้สึกได้ชัดเจนเลยว่ามันด้อยกว่ามากจริง ๆ ส่วนนึงก็เพราะคาดหวังด้วยว่าจะต้องมีแมพ และความหลากหลายในการหลอกล่อเป้าหมายทั้ง 8 ให้มาอยู่พร้อมกันเพื่อฆ่ามากกว่านี้แต่เกมดันฟิกวิธีไว้ที่แบบเดียวซะงั้น
.
แถมเกมอย่าง Prey ผลงานก่อนหน้าล่าสุดของค่ายยังมีพวกสิ่งของในฉากจำนวนมากให้เราจับเขวี้ยงล่อ หรือ เขวี้ยงใส่คนได้ แต่เกมนี้มันดันมีแต่ขวด กับ แก้วเล็กเท่านั้นที่จับยกได้ และดันมีน้อยอีก หรือ แผนที่ใน Prey บางทางเรายกของออกเจอทางลัดเพิ่ม แต่เกมนี้แทบไม่มีอะไรแบบนั้นเลย ส่วนข้อดีก็คือมันย่อยเข้าถึงง่ายมาก ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน หรือ ต้องคิดอะไรมากถ้าเทียบกับเกมก่อน ๆ
.
[Graphic&Arts]
สัมผัสแรกของการเปิดเกมนี้มาคือ Void Engine Error อยู่ครึ่งชั่วโมงค่ะ 555+ เป็นปัญหาที่เกิดจากการปรับกราฟิกภาพ (คือเครื่องเราแรม ซีพูยูอะไรก็ผ่าน Recommend นี่ล่ะ) ว่าปรับ High แล้วเข้าเกม Crash หลุดรัว ๆ จนต้องไปปรับกราฟิกลง คือถามว่าภาพสวยไหม ก็สวย งานออกแบบฉาก สไตล์ต่าง ๆ ทำออกมาได้ดีตามสไตล์ Arkane เลยค่ะ ประทับใจชอบการออกแบบมาก ในส่วนของดีไซน์ปืนอะไรก็โคตรเท่ อย่างปืนพกคู่ที่ประกอบกันต่อท้ายกันเป็นปืนยาว หรือ ลูกซองที่สลับเปลี่ยนโหมดการยิงได้ มองแล้วเป็นอาหารสายตาเรื่องความสวยเท่มาก แต่ก็มีติดตรงคือเกมนี้ภาพสวยขึ้นกว่าจากเกมเดิม ๆ ของค่ายไม่มากเลยในสายตาเรา ทำไมกินสเปคโหดจังคะ ;-; ยังดีที่พอหลังจากปรับภาพลงและเล่นได้ตามปกติ ก็ไม่พบปัญหาอะไรอีกเลยค่ะ ตลอดระยะเวลาการเล่น ลื่นตลอด ไม่กระตุกเลย
.
[Sound]
ชมเลยว่าเพลงเพราะค่ะ! ส่วนหนึ่ง Hype อยากเล่นเพราะชอบเพลงที่เปิดมาในแต่ละ Trailer มาก พอมาเกมเต็มก็ไม่ผิดหวัง พวก Soundtrack ฉากต่าง ๆ เวลาเราบู้ ยิงกัน หรือ วิ่งหนีศัตรูนี่ ให้อารมณ์เหมือนพวกหนังเจมส์ บอนด์เก่า ๆ เลยค่ะ ดูมีคลาส ฟังสนุก เร้าอารมณ์ตลอดเลย ฟังแล้วมันรู้สึกว่าเราเท่มากเวลาทำอะไรสักอย่าง ดีงามเลิฟมาก ๆ ในส่วนของเสียงปืน เสียงพากย์ เสียง Effect ก็ไม่มีอะไรติเลยค่ะ ประทับใจ
.
[สรุป]
.
+เกมเพลย์ที่สนุก และเอ็นจอย ตามสไตล์ Arkane ให้ความรู้สึกเท่ และมันส์ในเวลาเดียวกัน
+เนื้อเรื่องที่น่าติดตาม, บทสนทนาของตัวละครหลักอย่าง Colt และ Julianna ที่ฟังแล้วสนุกกับการโต้เถียง หยอกล้อ กวนตีนกันตลอด
+เทคนิคการนำเสนอเนื้อเรื่องผ่านภารกิจหลักที่ให้ทำต่อเนื่องกันในหลายลูป มีความแปลกใหม่ดี
+การดีไซน์อาวุธ ฉากต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์
+เพลงที่โคตรดีของดีเลยค่ะ เพราะมาก เร้าอารมณ์มากด้วย
.
-ระบบ Loop Stress ที่ไม่รู้สึกท้าทาย หรือ เห็นผลชัดว่ามันยากขึ้นสักเท่าไหร่
-เมื่อเทียบความอิสระ และความหลากในการเล่นถือว่าด้อยกว่าเกมก่อนหน้าอย่าง Dishonored และ Prey เป็นอย่างมาก
-AI ที่โง่ และไม่ได้มีความหลากหลายอะไรเลย นอกจากถือปืนต่างกัน
-Lore ไฟล์เอกสาร เสียงในเกม มีแต่น้ำเนื้อน้อยมาก
Posted 14 September, 2021. Last edited 15 September, 2021.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
3 people found this review helpful
19.8 hrs on record
"เพชรในตมของแท้ เกมดีที่ดันมีคนรู้จักน้อย"
.
Prey - FPS-Action-Survival-Horror-Adventure
.
[Story]
เนื้อเรื่องของเกมจะว่าด้วยเรื่องราวของ มอร์แกน ยู นักวิทยาศาสตร์ประจำบริษัท TranStar Industries ที่ได้รับการเชื้อเชิญจากพี่ชายของเขา อเล็กซ์ ยู ให้เข้าร่วมกับทีมวิจัยของ TranStar บนสถานีอวกาศ Talos 1 แต่ว่าในขณะที่กำลังเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพทางกาย และทางจิตใจก่อนที่จะออกเดินทางอยู่นั้น อยู่ ๆ ก็ได้เกิดการโจมตีของสิ่งมีชีวิตลึกลับ (Typhon) บางอย่างขึ้น จนทำให้มอร์แกนสลบไป และเขาก็พบว่าตัวเขาเองความจริงนั้นได้มาอยู่ที่บนสถานีอวกาศ Talos 1 มานานกว่า 3 ปีแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ความทรงจำของเขาหายไปไหน? และสิ่งมีชีวิตต่างดาวประหลาดที่เขาได้เห็นมันคืออะไร? นั่นเป็นสิ่งที่คุณ และมอร์แกน จะต้องร่วมมือกันในการค้นหาความจริง และเอาชีวิตรอดในสถานีอวกาศ Talos 1 แห่งนี้ให้จงได้
.
ก่อนอื่นเลยถ้าคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบในภาพยนตร์ไซไฟปนสยองขวัญ และยังมีความเป็น Alternate History เนื้อเรื่องของเกมนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณติดหนึบหนับอยู่กับหน้าจอ นอกจากเนื้อเรื่องหลักกับปริศนาที่เกิดขึ้นใน Talos 1 และตัวเอกของเราแล้วที่เป็นจุดเด่น สิ่งของจำพวกเอกสาร อีเมลล์ ไฟล์เสียง และไซด์เควสต่าง ๆ ในเกมนี้ ยังจะเป็นสิ่งที่ทิ้งปมความน่าสนใจต่าง ๆ ไว้อีกมากให้ผู้เล่นได้ประติดประต่อเรื่องราวด้วยตนเอง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในสถานีอวกาศแห่งนี้ ซึ่งขอบอกเลยว่าไม่ควรพลาด เพราะเกมนี้มันก็ไม่ต่างกับการรับชมซีรี่ส์ไซไฟดี ๆ สักเรื่อง เราขอบอกเลยว่าบรรยากาศ เกมเพลย์ เนื้อเรื่อง และการออกแบบฉากต่าง ๆ ในเกมนี้ มันจะทำให้เรารู้สึก Immersive หรือ อินไปกับมันมาก แถมเทคโนโลยี ไอเท็มหลายอย่างในเซ็ตติ้งของมันนี่คือว้าวกับไอเดียมากจริง ๆ
.
[Gameplay]
ถ้าคุณเป็นคนที่เล่นเกมของค่าย Arkhane Studios มาก่อนอย่าง Dishonored คุณก็จะเข้าใจระบบการเล่นของเกมนี้ได้ไม่ยาก ตัวเกมจะมาพร้อมกับสกิลสายต่าง ๆ ให้ผู้เล่นได้เลือกอัพโดยจะแบ่งสกิลออกเป็นสายมนุษย์ และ สาย Typhon (เอเลี่ยน) 2 สายหลัก ๆ ผู้เล่นจะอัพสกิลยังไงก็ได้ตามที่ต้องการ จะเน้นเล่นยิงบู้ อัพสายยิง ๆ ทำดาเมจพร้อมกับการใช้พลังเอเลี่ยนกวาดสู้ศัตรู หรือ จะเน้นเล่น Stealth หลบหลีกสู้เท่าที่จำเป็น เพื่อประหยัดของในการเอาชีวิตรอด บอกเลยว่าไม่ว่าจะเล่นสายไหนก็ไม่ผิด เพราะตัวเกมทำบาลานซ์ออกมาได้ดีกับประสบการณ์ที่ผู้เล่นจะได้รับ เชื่อว่าไม่ว่าจะเล่นแบบไหนคุณจะได้รับประสบการณ์ทั้งบู้แหลก และย่องหลบแน่ ๆ (ตัวเราเล่นสายคนเพียว ๆ เอาชีวิตรอดด้วยกระสุน หลบหลีก และสู้เท่าที่จำเป็นต้องสู้ถ้าเลี่ยงไม่ได้)
.
ทางส่วนในด้านของการดีไซน์ฉากของเกมก็ทำออกมาได้เป็นอย่างดี และใช้ได้อย่างคุ้มค่าในทุกส่วนของสถานีอวกาศ Talos 1 คุณจะได้เดินวนกลับไปมาในหลาย ๆ พื้นที่ และพบว่ามันมีศัตรู หรืออะไรอันตรายเพิ่มมากขึ้นทุกครั้ง เพราะเหล่า Typhon หรือ เอเลี่ยนพวกนี้มันจะบุกขึ้นสถานีอวกาศมาเรื่อย ๆ จุดที่เคยปลอดภัยพอกลับมาใหม่อาจไม่ปลอดภัยแบบที่จำได้ และหลายครั้งที่การเดินทางไปยังจุด ๆ หนึ่งสามารถที่จะทำได้อย่างหลากหลายวิธี และมันจะบังคับให้เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในการเดินทาง ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องการที่จะไปจุด C แต่ตอนนี้คุณอยู่ที่จุด A และ ต้องผ่านจุด B ก่อนถึงจะไป C ได้ แล้วจะทำไงล่ะ? ถ้าจุด B มีศัตรูอยู่? จะยิงปืนฝ่าไปเลย แต่แลกกับการเสียกระสุน (ที่ไม่เคยมีพอ)? จะลองสำรวจแมพหน่อยดีไหมว่ามันมีท่อให้มุดลอดรึเปล่า หรือ มันจะปีนท่อไปตามกำแพงได้ไหม? และถ้าหาแล้วมันไม่มีทางอื่นเลยทำไง? ก็สร้างทางเองเลย! ด้วยปืนกาว Glue Cannon นี่ล่ะ นี่เป็นปืนที่จะเป็นเพื่อนร่วมทางคุณ ทั้งในการต่อสู้ยิงกาวแข็งศัตรู ยิงกาวดับไฟ ยิงกาวใส่กำแพงสร้างทางเดินเพื่อปืนขึ้นที่สูง (เจอศัตรูเยอะขวางทางที่เราอยากไป เรานี่ยิงกาวติดกำแพงแล้วปีนอ้อมเลยค่ะ) หรือ ยิงล่อเหล่า Typhon ให้ไปที่อื่น!?
.
ในเกม Prey นี้จะทำให้คุณได้ใช้ความคิด และความสร้างสรรค์จริง ๆ เลยว่าจะเอาชีวิตรอดไปได้ยังไง โดยเฉพาะถ้าเล่นในระดับยาก และเปิดโหมด Survival อีก การเล่นปกติคุณจะต้องจัดช่องเก็บของ (แบบ RE) เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับเก็บของเพียงพอ และยังต้องออกตามหาวัตถุดิบมาคราฟท์เป็นไอเทมต่าง ๆ (กระสุน,ยา,ตัวอัพเกรดสกิล ETC.) แต่ถ้าคุณเปิดโหมด Survival ตัวเกมก็จะทำการเพิ่มระบบต่าง ๆ เข้ามาอย่าง อาวุธที่จะเสื่อมสภาพไปเรื่อย ๆ ให้คุณต้องซ่อม, ชุดอวกาศที่สามารถเสียหาย ทำให้คุณมีออกซิเจนน้อย เวลาที่ออกไปนอกสถานีอวกาศ (ใช่แล้วเกมนี้คุณออกนอกสถานีอวกาศได้!) หรือ ระบบสถานะผิดปกติ กระดูกหัก แผลไหม้ ที่จะส่งผลเสียต่อตัวละครถ้าไม่หาทางรักษา
.
ศัตรูของเราประจำเกมนี้คือเหล่าเอเลี่ยนที่ถูกเรียกว่า Typhon ที่มีหลากหลายประเภทแต่หลัก ๆ ก็จะมีอย่าง Mimic (ปลอมตัวเป็นสิ่งของในฉากแบบ Prop Hunt), Phantom (มีรูปร่างขนาดเท่าคนแต่โจมตีหนัก พุ่งมาหาได้ ทำดาเมจเจ็บ), Poltergeist (ล่องหนรู้ตัวอีกทีมันจะยกของในฉากเขวี้ยงใส่คุณ และคุณจะมองไม่เห็นตัวมัน), Nightmare (Typhon ขนาดเบิ้ม ๆ ที่เราตัวสูงแทบไม่ถึงเข่ามัน) เป็นต้น มันยังมีมากกว่านี้อีกหน่อยแบบสายพันธ์ุย่อยย้อมแมว หรือ พวกตัวสะกดจิตคน และตัวควบคุมเครื่องจักรไรงี้ ให้เราได้ต่อสู้ด้วย และเผชิญหน้าด้วย บอกเลยว่าศัตรูแต่ละตัวก็จะมีรูปแบบในการรับมือที่แตกต่างกันไป บางตัวแพ้ปืนกาว บางตัวแพ้ EMP ให้เราได้ปรับตัวกันไป (ประสบการณ์เราหลอน Poltergeist สุด เพราะที่เจอมาคือเรามองไม่เห็นมัน รู้ตัวอีกทีมันจะมาพร้อมกับเสียงซาวด์ และโจมตีใส่เรา) ในช่วงแรกที่เกมเพิ่งเริ่มบอกเลยว่าคุณจะกลัวพวกมันมากด้วยสกิลที่น้อย และอาวุธที่มีนิดเดียว แต่พอท้าย ๆ เกมถ้ามีกระสุนเยอะ อัพสกิลมาเยอะบอกเลย มันอ่ะจะกลัวเรา
.
[Graphic]
งานภาพบอกเลยว่าในสายตาเราถึงจะเป็นเกม 2017 แต่ภาพยังสวยไม่ได้ตกยุคหรืออะไรเลย แถมพวกอาร์ตยังมีสไตล์เป็นของตัวเองมาก การออกแบบภายในฉาก ดีไซน์เครื่องแบบตัวเอก ต่าง ๆ นี่ประทับใจ คืองานศิลป์เราปลื้มมาก งานออกแบบภายในนี่คือดีเลยล่ะ
.
[Sound]
เพลงประกอบ เสียงพวก Typhon Effect เสียงปืน ต่าง ๆ ทำออกมาได้ประทับใจตามมาตรฐาน แถมอี Soundtrack นี่ตัวดี มันให้ความรู้สึกไม่ปลอดภัยตลอด จนบางทีก็แบบ Soundtrack จบสักทีเถอะ เรากดดันจะตายแล้ว เอาตัวรอดก็เหนื่อย อยากหายใจให้โล่งปอดสักที
.
[Good]
+เนื้อเรื่องที่น่าสนใจ มีปม มีความลับให้เราอยากค้นหาคำตอบ และประติดประต่อเรื่องราวไปเรื่อย ๆ
+การออกแบบฉากที่มีสไตล์ เอกลักษณ์ และบรรยากาศที่ทำให้เรารู้สึกดำดิ่งไปกับเกม และอยากสำรวจค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในฉาก และแต่ละฉากนี้ใช้คุ้มมาก ได้เดินไปกลับมาบ่อย ๆ
+เกมเพลย์การเล่นที่สนุก ให้ความรู้สึกต้องดิ้นรนเอาตัวรอด (ในแบบที่กำลังพอดี) วิธีการเล่นหลากหลายตามสไตล์เรา
+เสียง Sound ประกอบที่ส่งเสริมบรรยากาศได้ดีในการเล่น ให้ความรู้สึกกดดันเวลาโดนไล่ล่า หรือ เพียงเสียงหายใจในอวกาศตอนออกนอกสถานีที่ให้ความรู้สึกเคว้งคว้าง
.
[ฺBad]
-บัค NPC ที่ไปเจอแล้วบัคจนทำให้ต้องโหลดเซฟกลับไปก่อนเริ่มภารกิจ เพราะ NPC ไม่ยอมพูดเควสต่อ จนเควสไม่ขึ้น
-ในช่วงท้ายไม่รู้เพราะสไตล์เราเล่นมันดู Rush รึเปล่ากับการวิ่ง หรือ ระดับความยากมันแค่ Normal แต่ในเควสสุดท้ายเราเดินทางปลอดภัยมากจากจุดนึงเพื่อไปจุดนึง แล้วก็จบเกม ซึ่งมันแบบนึกว่าจะมีอะไรโหด ๆ ดักกว่านี้แหะ ๆ
-เนื่องจากเกมนี้การเดินทางไปแต่ละส่วน หรือ ชั้นของ Talos 1 มันไม่ใช่ Map Open-World ไร้รอยต่อ แต่เป็นแค่พื้นที่ใหญ่ ๆ พื้นที่นึง ทำให้เวลาออกเดินทางไปแต่ละส่วนของ Talos 1 มันต้องโหลดฉากไปมาบ่อย ๆ
-ศัตรูเสียดายที่ย้อมแมวไปนิดอย่างพวก Phantoms นี่จะมีแบบ Phantom ปกติ, เวอร์ชั่นไฟฟ้า, เวอร์ชั่นติดไฟงี้
.
ถ้าคิดว่าเกมราคาแรงไปกับ 900 กว่า ๆ ลองหาพวกเว็บคีย์นอกได้นะคะ แค่ 150 ต้น ๆ เอง บอกเลยว่าเราเคลียร์เกมนี้จบ แล้วนึกเสียดายว่าดองเกมนี้ไว้ในคลังได้ไงนานกว่า 4 ปี เกมอาจไม่ได้ Perfect สมบูรณ์แบบ แต่ประสบการณ์ที่ได้ระหว่างทางคือดีค่ะ ตอนนี้เราก็รอ DEATHLOOP อย่างใจจดใจจ่อค่ะ :-3
Posted 9 September, 2021. Last edited 9 September, 2021.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
1 person found this review helpful
11.0 hrs on record
Not Enjoy at all.
Posted 12 September, 2020.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
13 people found this review helpful
5.2 hrs on record (1.6 hrs at review time)
Early Access Review
ถ้าคุณชอบผลงานของจุนจิ อิโต้ อย่าง คลังสยองขวัญลงหลุม ก็ไม่ควรพลาด
Posted 22 February, 2020.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
4 people found this review helpful
3.4 hrs on record (2.0 hrs at review time)
Early Access Review
เรียนทำโทรทัศน์ค่ะ เเละ เกมโคตรสนุกเเละตลกมาก คือเราจะได้รับบทเป็นคนคุม Switcher ของสถานีโทรทัศน์เเห่งหนึ่ง หน้าที่เราก็คือ สับกล้อง ปรับสัญญาณ ตัดเข้าโฆษณา เซนเซอร์คำหยาบ เเล้วเนื้อเรื่องคือมีการทิ้งปมที่น่าสนใจมากกับรัฐบาลในเกม ที่เหมือนจะมีลับลมคมในบางอย่างอยู่ เเถมมุกตลกมันคือดี คือเราจะเจอเหตุการณ์เเปลกๆหรือคนเเปลกมาโผล่ในรายการงี้ มาป่วนบ้างในจอ เเล้วคือจี้มากชอบ
Posted 2 February, 2020.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
2 people found this review helpful
16.9 hrs on record
"หัวใจที่ตายเเล้วของผมนั้น จะเต้นให้กับผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น"
--
Vampyr จะกล่าวถึงเรื่องราวในกรุงลอนดอน ปี 1918 เราจะได้รับบทเป็น ด็อกเตอร์ โจนาธาน รี้ด คุณหมอที่กำลังจะเดินทางกลับบ้านเเต่ในระหว่างการเดินทางเขากลับถูกชายลึกลับบุกเข้าทำร้าย เเละเปลี่ยนให้เขากลายเป็นเเวมไพร์ ในฐานะของหมอเขาจะต้องรักษาผู้คนเเละหาทางที่จะยับยั้งโรคระบาดลึกลับที่เเพร่ระบาดอยู่ในกรุงลอนดอน เเต่ในฐานะของเเวมไพร์ล่ะ เขาจะต้านทานความหิวกระหายในเลือดของเขาได้อย่างไร
--
เป็นเกมที่เปิดเรื่องออกมาได้น่าสนใจเเละน่าติดตาม จนกระทั่งหลังจากผ่านไปครึ่งเรื่องนั้นก็เริ่มรู้สึกดรอปลงมาหน่อย จนถึงช่วงท้ายของเรื่องที่คลายปมเรื่องราวสาเหตุต่างๆเเล้วเรากลับรู้สึกว่ามันทำออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควรเเละพอมารู้ปมทั้งหมดเเล้วกับรู้สึกว่ามันเเย่ชอบกลกับในส่วนของบทเนื้อเรื่อง ความสัมพันธ์ของตัวเอกกับตัวละครหลักบางตัวนั้นค่อนข้างจะดูรวบรัดเเละไม่ค่อยอินพอควร (พระเอกหล่อมาก เสียงก็หล่อ กรี๊ดๆ)
--
เกมเพลย์ : จุดเด่นที่เกมนี้ต้องการนำเสนอนั้นก็คือระบบ Citizen โดยในเมืองจะเเบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 เขตหลักๆ โดยเเต่ละเขตนั้นจะมี NPC ที่มีเรื่องราวความเกี่ยวพันเเตกต่างกันไป ซึ่งทำให้เราต้องรับบทเป็นคุณหมอขี้เสือก จะเล่นให้สนุกคุณต้องเป็นคนที่ชอบเนื้อเรื่อง เเละต้องเป็นคนชอบออกสำรวจเเผนที่เเละหาของ เพราะบางทีคุณอาจจะเจอรายละเอียดข้อมูลบางอย่างที่ใช้ในการที่จะเข้าถึงข้อมูลของNPCตัวนั้นได้มากขึ้น ซึ่งถ้าเรารู้ข้อมูลNPCเยอะ เราก็จะได้รับ EXP เสริมมากขึ้นด้วยในกรณีที่คุณอยากจะดูดเลือด NPC เพื่อเอาค่าประสบการณ์ เกมนี้เราสามารถเล่นโดยไม่ดูดเลือด NPC เลยก็ได้ เเต่คุณนั้นจะเเข็งเเกร่งในเกมได้ช้ามาก คุณจะอ่อนเเอ EXP ที่ได้จากการทำเควสเยอะยังไงก็เยอะเเละเร็วไม่เท่ากับการจะไซร้คอใครสักคน เพราะงั้นถ้าคุณอยากที่จะเเข็งเเกร่งไวๆล่ะก็ การดูดเลือดฆ่า NPC สักตัวก็เป็นอะไรที่เลี่ยงไม่ได้ เเต่ก็ต้องเเลกกับการที่การหายไปของ NPC สักตัวอาจจะส่งผลกระทบต่อ NPC ตัวอื่นๆหรือพื้นที่นั้นๆก็ได้
--
ระบบ Combat ในเกมนี้เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างจะน่าเบื่อไปหน่อย คุณอาจจะสนุกกับมันในช่วงเเรกถ้าคุณชอบมัน เเต่เล่นไปนานๆก็จะพบกับความเบื่อได้ เนื่องจากเกมนี้ในการโจมตีหรือการหลบ เราต้องมีการบริหาร Stamina ด้วย เเละศัตรูเเต่ละตัวก็ไม่ได้ตายง่ายๆ เเละเราก็มักจะเจอกับพวกมันบ่อยๆ เเบบเดินๆเจอ เดินๆเจอ จนบางทีก็อาจจะถอนหายใจว่าอีกเเล้วหรอ อาวุธในเกมนี้ไม่มีคอมโบอะไรให้กด ใช้ปุ่มเดียวฟัน ท่าฟันอะไรก็ต่างกันเเค่ตามอาวุธที่เลือก
--
เพลงประกอบของเกมทำออกมาได้โคตรดี เสียงเชลโลเกมนี้มันฟังเเล้วกร้าวใจมาก รู้สึกได้ถึงความลึกลับ ไม่ชอบมาพากล เเละเสียงสีมันชัดมากจนเเบบ เราอยากกรี๊ด ตัวเอกเป็นคุณหมอเเวมไพร์สุดหล่อ ออกเดินทางยามค่ำคืน พร้อมเสียงสีเชลโล ยอมค่าาาาาา เเถมพอถึงช่วงเเบบเสียงกดดันนี่ก็เเบบทำเอาซะดูตรึงเครียดกับเสียงประกอบ
--
การเเสดงสีหน้าของตัวละครในเกมให้นึกถึงที่มันอาจจะดูนิ่งๆเเข็งๆหน่อย ในส่วนของกราฟิกเกมก็จัดได้ว่าสวยใช้ได้ คือถูกจริตเราอยู่
--
ข้อเสียอีกอย่างของเกมคือไม่มีให้เรากด Save เองมัน Auto Save ให้เท่านั้น คุ้นๆว่าเหมือนทีมงานอยากจะให้การกระทำของเราเเบบมันดูเรียลๆทำอะไรพลาดก็พลาดไปเเก้ไม่ได้ประมาณนั้น เเต่เเบบไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้
--
ความยาวของเกมเท่าที่เล่นมาอยู่ที่ราวๆ 12-20 ชั่วโมง ต่อให้เคลียร์เควสเสริมหมดด้วย //ของเรานี่ 15 ชั่วโมงเคลียร์เควสเกือบหมด
--
คะเเนน 7-7.5/10 เป็นเกมที่เราคิดว่าถ้าจะซื้อรอลดราคาเหลือสักราวๆ 500 จะดีกว่าถ้าไม่ได้รีบอยากเล่นอะไรขนาดนั้น
Posted 6 June, 2018. Last edited 21 June, 2018.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
4 people found this review helpful
77.9 hrs on record (16.6 hrs at review time)
คลาสสิค RPG ที่ยอดเยี่ยมเเละเต็มไปด้วยความสนุกเเละขบขัน
--
เนื้อเรื่องของ Divinity: Original Sin 2 นั้นจะเกิดขึ้นในยุคที่ผู้มี Source นั้นคือสิ่งที่ผิดกฎหมายเเละจะต้องถูกกำจัดทิ้ง เราคือ 1 ในนักโทษที่จะถูกส่งตัวไปยังสถานที่คุมขังอย่าง Fort Joy เเต่นั่นก็เเค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น // ในการสร้างตัวละครของเกมนี้นั้นจะมีตัวละครอยู่ 5 ตัวที่มีเนื้อเรื่องพื้นหลังเป็นของตัวเองทั้ง ''อดีตครูเซเดอร์ที่ผันตัวมาเป็นทหารรับจ้าง เอลฟ์กินเนื้อคนที่จะล้างเเค้นอดีตนายทาส นักดนตรีผู้ถูกปีศาจสิงสู่ องค์ชายกิ้งก่ากับภารกิจทวงบัลลังค์ หรือ อันเดทผู้ออกค้นหาความลับที่ไม่มีใครล่วงรู้'' เเต่ในกรณีที่ไม่สนใจก็สามารถที่จะสร้างตัวละครเป็นของตัวเองได้ (เเค่ไม่มีพื้นเพเรื่องก่อนหน้า) โดยเหล่า NPC ในเกมนี้นั้นก็จะมีการตอบสนองต่อตัวละครเเละเผ่าพันธ์ที่เเตกต่างกันไปตามที่ได้สร้าง
--
ในการนำเสนอเนื้อเรื่องหลักจากที่ได้เล่นมา 15 ชั่วโมงก็พบว่าค่อนข้างจะธรรมดา (ยังเล่นไม่จบ) เเต่ในส่วนของเควสเสริมในเกมนั้นจะได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีงามเเละเต็มไปด้วยสีสันมาก เเค่เดินทางใน 2 พื้นที่เเรกในเกมก็ได้เจอเรื่องเเปลกที่น่าสนใจเเละขบขันเต็มไปหมด อย่างเช่น ไก่ที่บอกว่าตัวเองเป็นจอมเวทย์ โทรล์สะพานกับการเเข่งขันทางธุรกิจ หรือ นกที่อยากจะกินเจ้านายตัวเอง เเละยังมีภารกิจเสริมอื่นๆอีกมากที่ดึงทำให้เราอยากจะสำรวจพื้นที่ของเกมนี้เพื่อค้นหาเรื่องราวต่างๆที่ซ่อนอยู่
--
เนื่องจากเกมนี้นั้นเป็นเกมเเนว cRPG ที่เน้นความคลาสสิคตัวเกมจึงเป็นอะไรที่ต้องเน้นอ่านเเละใช้ความคิดในการเชื่อมโยงสิ่งที่ต้องทำต่างๆในเเต่ละภารกิจ //(อ่านภารกิจเเล้วต้องคิดเองว่าต้องทำอะไรต่อซึ่งถ้าไม่เเข็งอังกฤษหรือขี้เกียจเปิดดิกก็ถือว่าอาจจะไม่เหมาะที่จะเล่นสักเท่าไหร่) เเถมตัวเกมก็มีตัวเลือกในการทำภารกิจที่เยอะมากในการเคลียร์เเต่ละภารกิจนั้นไม่ได้มีทางเลือกเเค่ทางเดียว เเต่มีทางเลือกที่หลากหลายในการที่จะจบได้ เลยเป็นอะไรที่เพลิดเพลินมากสำหรับคนที่ชื่นชอบเกม RPG
---
ในส่วนของระบบต่อสู้นั้นจะเป็นการต่อสู้เเบบ Turn-Based การต่อสู้ในเกมนี้ค่อนข้างที่จะให้เรานั้นต้องใช้หัวคิดในการใช้เเต่ละ Action ให้เกิดประโยชน์ รวมถึงเกมนี้นั้นจะมีการคอมโบของการใช้เวทย์ต่างๆด้วย เช่น เราอาจจะใช้เวทย์สร้างฝนเพื่อให้พื้นเปียกก่อนที่จะใช้เวทย์ไฟฟ้าช็อตใส่ หรือใช้เวทย์ไฟโยนใส่ถังน้ำมันเพื่อให้ระยะความเสียหายเป็นวงกว้าง รวมถึงตัวเกมยังมีระบบการผสมเวทย์เพื่อก่อให้เกิดเวทย์ใหม่ได้อีกด้วย เราถือว่าระบบของเกมนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างเข้าใจได้ง่าย เเต่ก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้ชินเเละศึกษาหน่อยเพื่อที่จะได้เล่นให้คล่อง ส่วนตัวที่เคยได้พยายามลองเล่นเกม cRPG มาหลายครั้งเเต่ทุกครั้งก็ล้มเลิกความตั้งใจไปตลอดเพราะรู้สึกเข้าใจยากเเต่ Divinity นั้นเป็นเกมที่ทำให้เราติดมันได้อย่างง่ายดายด้วยระบบที่ไม่ได้ซับซ้อนมากเเต่ก็มีความลุ่มลึกที่ต้องศึกษา
---
เเละตัวเกมก็ยังมีตัวระบบออนไลน์ที่ให้เราสามารถเล่นร่วมกับเพื่อนอีก 3 คนได้ (รวมตัวเองด้วยก็ 4) หรือถ้ามีจอยก็สามารถเเบ่งครึ่งจอกันเล่นได้ นอกจากนี้ตัวเกมยังมี Game Master Mode (ไม่เคยเล่น) ซึ่งจากที่เราเข้าใจโหมดนี้น่าจะเหมือนกับพวกบอร์ดเกมอย่าง D&D ที่ในหมู่นักเล่นบอร์ดเกมน่าจะรู้จักกันดี
---
ในส่วนของภาพในเกมนั้นจัดได้ว่าสวยงามอาจจะไม่ได้ว้าวอลังอะไรเเต่ก็จัดได้ว่างามมากสำหรับเกมเเนวนี้ ปัญหาทางด้านของ Performance นั้นเท่าที่เราเล่นมาก็ไม่เจอเลย จัดได้ว่าตัวเกมมีการปรับเเต่งเป็นอย่างดี
--
เพลงประกอบอันนี้เราบอกไม่ได้มากอาจจะเพราะว่าเราชอบเปิดเพลงอื่นฟังไปเล่นไป เเต่ในตอนสร้างตัวละครเราสามารถเลือกเครื่องดนตรีเพื่อที่จะให้เล่นเป็นเพลงประจำตัวของเราได้
--
สรุปเเล้ว Divinity: Orignal Sin 2 เป็นเกมที่ผู้ชื่นชอบเกมเเนว cRPG หรือผู้ที่อยากจะลองเล่น cRPG ควรจะได้ลองสัมผัสดูค่ะ
Posted 27 February, 2018. Last edited 27 February, 2018.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
4 people found this review helpful
1 person found this review funny
16.3 hrs on record
"ติดหนี้ปีศาจ จึงโดนปีศาจไล่ไปทวงหนี้"
__
เนื้อเรื่องสุดคลาสสิคเเละเรียบง่ายเหมือนการ์ตูนสมัยก่อน ที่มาพร้อมกับเกมเพลย์ที่เข้าใจง่าย วิ่ง กระโดด หลบ ยิงจนทำนึกถึงสมัยเกมกับการ์ตูนย้อนยุคคลาสสิค หากกำลังมองหาเกมที่ให้ความรู้สึึกคลาสสิคเเละทันสมัยไปด้วย Cuphead ก็คงอยู่ในอันดับต้นๆอย่างเเน่นอน ทั้งงานภาพเเละเสียงประกอบที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยม การออกเเบบบอสเเต่ละตัวมีเสน่ห์เเละเอกลักษณ์ของตัวเองตามเเบบฉบับการ์ตูนย้อนยุค พร้อมเพลงประกอบเเนวเเจ๊สที่ทำให้สามารถฟังได้อย่างไม่มีเบื่อ บอสเเต่ละตัวมีความยากที่จัดได้ว่าหินมากๆเเต่ก็ยังคงความสนุกไว้เพราะถ้าชอบสิ่งที่เกมนำเสนอมามันก็ยิ่งจะทำให้เรามีความรู้สึกอยากที่จะเอาชนะให้ได้เมื่อรวมกับเพลงประกอบที่ดีงาม ยิ่งทำให้บางทีอาจจะเผลอเล่นมาหลายชั่วโมงเเล้วติดต่อกัน

10/10

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือ หากเล่นกับเพื่อน ไม่เราก็เพื่อนคงมีบีบคอกันตายก่อน.
Posted 4 October, 2017. Last edited 22 November, 2017.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
< 1  2  3 >
Showing 1-10 of 28 entries