Review : Bioshock Infinite
"จากนครสวรรค์ลอยฟ้า สู่นครนรกลอยฟ้า!!"

เนื้อเรื่องในเกมจะเริ่มในปี 1912 เราจะได้รับบทเป็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ที่มีอดีตที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่นาม Booker DeWitt เขาได้รับงานงานหนึ่ง ซึ่งถูกจ้างวาน ให้ไปตามหาหญิงสาวนาม Elizabeth ที่อยู่บนมหานครลอยฟ้า Columbia... ตัวของ Booker ไม่มีทางเลือกเขาได้รับงานและได้เดินทางไปยัง Columbia โดยมีสองบุคคลลึกลับพาเราไปส่งที่ประภาคารแห่งหนึ่งกลางทะเล และ Booker ได้เดินทางมาถึงนครลอยฟ้า Booker ถูกจับ เพราะตรวจพบสัญลักษณ์บางอย่างที่อยู่บนหลังมือเขา ตัว Booker ได้ทำการหนีหน่วยรักษาความปลอดภัยอย่างทุลักทุเล จนพบที่ที่ Elizabeth ถูกซ่อนไว้ Elizabeth ได้แสดงพลังที่สามารถเปิดประตูไปยังที่ต่างๆได้โดยที่ไม่รู้ว่า Booker นั้นเห็นทุกๆอย่างที่เธอทำ! หลังจากนั้น Booker ไม่รอช้าได้พา Elizabeth หนีออกจากเมืองลอยฟ้าแห่งนี้ในทันที! ภาพจากเมืองสวรรค์ที่สวยงามกลับกลายเป็นเมืองนรกในพริบตา! และหลังจากนี้ Booker จะต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการต่างๆที่จะต้องเจอบนนรกลอยฟ้าแห่งนี้ แม้ตัวเขาเองจะไม่เต็มใจก็ตาม!! (ต้องบอกก่อนนะครับว่า เนื้อเรื่องในภาคนี้จะเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ในภาค 1 และ 2 ทำให้เราไม่จำเป็นจะต้องไปเล่นภาคแรกกับสองมาก่อน แต่ถ้าเล่นมาก็จะดีกว่า เพราะมันจะมีฉากที่เราจะเห็น Rapture นครผีใต้น้ำ เราจะได้เห็นจุดเชื่อมโยงเล็กๆระหว่างภาคนี้และภาคแรก เนื้อเรื่องภาคนี้มีการหักมุมที่ค่อนข้างใจหายพอสมควร ถ้าภาคแรกหักมุมแล้ว ภาคนี้คือการโดนไม้หน้าสามหวดที่หน้าเข้าอย่างจัง!)

เกมเพลย์ในภาคนี้ค่อนข้างต่างจากสองภาคแรกก่อนอย่างสิ้นเชิง และมันได้ทิ้งความเป็น RPG แบบจ๋าๆไป แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความ RPG เหลืออยู่เลย เพราะในส่วนของพลังพิเศษต่างๆนั้น ยังมีให้ใช้เหมือนเดิน แค่ภาคนี้เน้นบู้แหลกขึ้นกว่าภาคก่อนๆที่ผ่านมา ภาคนี้จะไม่ได้มีแค่หลอดพลังชีวิตเพียงอย่างเดียว เพราะภาคนี้ได้มาพร้อมกับหลอดเกราะป้องกัน ซึ่งหลอดเกราะป้องกันจะช่วยซับดาเมจให้เรา 100% เปรียบเหมือนกับพลังชีวิตอีกหลอดเลยทีเดียว เมื่อเกราะหมดมันจะใช้เวลาแค่แป๊บเดียวในการชาร์จใหม่ ทำให้เราสามารถกลับไปลุยแอ็คชั่นที่อยู่ตรงหน้าได้ต่อทันที แต่ถ้าหากในระหว่างเรากำลังชาร์จเกราะอยู่นั้น หากโดนดาเมจเข้ามานิดเดียว เกราะก็จะหยุดชาร์จทันที! ทำให้เราต้องระวังการโจมตีของศัตรูในระหว่างที่กำลังชาร์จเกราะให้ดี และที่สำคัญไม่แพ้กับเกราะเลยคือพลังชีวิต พลังชีวิตในภาคนี้ยังคงเป็นแบบเก็บกล่องเก็บกระเป๋าพยาบาลอยู่ (ไม่มีเพิ่มเองแบบเกราะ) และไม่สามารถพกไปเติมได้ระหว่างการต่อสู้ ทำให้ภาคนี้ค่อนข้างที่จะต้องบริหารพลังเกราะกับเลือดดีๆ หากเกราะไปหมดเอาตอนมันมากันเยอะๆ เราจะตายได้ง่ายๆเลย (แต่ภาคนี้มีตัวช่วยที่ผมคิดว่าโอเคพอสมควรเลยจะเป็นอะไรเดี๋ยวไปว่ากัน)

อาวุธในเกมก็จะมีให้ได้เลือกใช้กันหลากหลาย ตั้งแต่ปืนพกสั้นจนไปถึงเครื่องยิงจรวด แต่ละปืนก็สามารถอัพเกรดได้หลายอย่าง เช่น ดาเมจ ความแม่นยำ ความเร็ว จนถึง รีคอย์ลปืน ภาคนี้เราจะพกอาวุธไปได้แค่สองอย่างเท่านั้น ไม่ได้พกไปเยอะแบบสองภาคก่อน อันนี้อาจจะไม่ค่อยถูกใจบางคนเท่าไหร่ แต่อาวุธก็จะมีดรอปให้ตามศพศัตรูอยู่แล้ว หากเราไม่สามารถหากระสุนได้ก็เก็บปืนจากศพได้เลย หรือ ซื้อเอาจากตู้ขายของที่มีอยู่ตามฉาก

Vigors ถ้าพูดง่ายๆสำหรับคนที่เคยเล่นภาคหนึ่งกับสองมาก่อน มันก็คือ Plasmids ที่เราใช้กันในภาคก่อนๆนั้นแหละ... โดยภาคนี้จะมีน้อยกว่าภาคก่อนไม่มาก แต่ภาคนี้พิเศษกว่าภาคก่อนๆคือ พลังการทำลายล้างที่รุนแรง! แม้จะไม่ได้อัพเกรดมาก็ตาม และภาคนี้ยังมีโหมดการใช้งานถึงสองแบบในพลังเดียวทำให้การโจมตีศัตรูนั้นทำได้หลากหลายมากขึ้น และภาคนี้ยังใช้ระบบมานาหรือที่เรียกกันในเกมนี้ว่า Salts การใช้พลังแต่ละครั้งจะกิน Salts ต่างกันออกไป บางกลังอาจจะต้องใช้ Salts เยอะ แต่บางพลังอาจจะใช้ Salts น้อย โดย Salts จะหาเก็บเอาได้ตามฉาก หรือจะซื้อเอาตามตู้ขายของที่มีอยู่ตามฉากก็ได้เช่นกัน การเปลี่ยนพลังในภาคนี้ถือว่าทำมาสะดวกกว่าสองภาคก่อนมากๆ ถือว่าคล่องตัวเลยทีเดียว

ต่อมาก็คือ Gear ถ้าเปรียบจากสองภาคก่อนคือ Gene Tonics ดีๆนี่เอง โดยภาคนี้จะแบ่งออกเป็นของสวมใส่ 4 ชิ้นได้แก่ หมวก เสื้อ กางเกง และรองเท้า Gear แต่ละชิ้นจะมีเอฟเฟ็กและการเสริมความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เราสามารถจัด Gear Set ได้ตามอิสระ ถือว่าเป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นมากๆ Gear สามารถหาเก็บได้ตามฉาก (ต้องหาดีๆ บางอันต้องหาวิธีเข้าไปเอา)

ไม่พูดไม่ได้จริงๆสำหรับแม่นาง Elizabeth ที่เราได้พาเธอติดท้ายมาด้วย ผมขอยกให้เธอข้อหนึ่งเลย เธอถือว่าเป็นหนึ่งในตัวละครหลักของภาคนี้เลยก็ว่าได้ เป้าหมายที่เรามาที่นี่เพราะเราต้องการตัวเธอ แต่เมื่อเหตุการณ์มันเลวร้ายขนาดนี้ เธอมีประโยชน์อะไรบ้าง? หลักๆเลย เธอจะเป็น NPC ที่จะคอยช่วยเตือนผู้เล่น และค่อยส่งกระเป๋ายา (อย่างที่ผมพูดไปตอนแรก) ส่งกระสุน ส่ง Salts ให้กับเราในยามฉุกเฉิน บางทีนางเดินไปเจอเหรียญตกนางก็โยนมาให้เรา และความสามารถหลักๆเลยคือนางสามารถเปิดประตูมิติเพื่อเรียกสิ่งก่อสร้างที่เคยมีตรงนั้นกลับมา หรือเรียกกล่องเก็บยา กล่องเก็บ Salts รวมถึงปืนชนิดต่างๆ มาให้เราได้เก็บได้ใช้กัน.. อีกความสามารถคือนางสะเดาะกุญแจห้องที่ล็อกหรือตู้เซฟได้ เพียงแค่เราต้องมี Lockpick ให้นาง นางก็จะสามารถเปิดให้ได้ทันทีเมื่อเราสั่ง Elizabeth นับว่าเป็นเพื่อนร่วมทางที่โอเคเลยมีประโยชน์มากๆในเวลาที่ต่อสู้ แต่บางทีก็รู้สึกเกะกะในบางเวลา แถมยังชอบหาเรื่องให้เราอีก เฮอะ...

ศัตรูในเกมนี้จะมีอยู่หลากหลายประเภทให้เราได้สู้ ตั้งแต่ลูกกระจ๊อกจนไปถึงพี่เบิ้มเกราะหนา ศัตรูบางตัวจะมีจุดอ่อนให้เห็นชัดเจน แต่เราจะประมาทศัตรูในเกมนี้ไม่ได้เลย เพราะถึงคราวที่เราจะต้องต่อสู้ มันจะมากันเยอะมากๆ แบบถ้าเป็นพวกตำรวจนึกว่ายกกันมาทั้งสน. แถมบางตัวมีการโจมตีที่ค่อนข้างรุนแรงเช่นพวกสไนเปอร์เป็นต้น

Sky-Lines / Sky-Hook (ระบบผาดโผนที่ยกการต่อสู้ให้เดือดกว่าเดิม) Sky-Lines ไม่ใช่รถ แต่มันคือราง!! รางที่เราจะได้ใช้ Sky-Hook ในการผาดโผนและเดินทางไปตามรางที่อยู่ในเมือง และ Sky-Hook ยังเป็นอาวุธ Melee หากเราอยู่บนพื้น การใช้ Sky-Hook จะเป็นการฟันหรือการเชือด/ทุบ การฟันด้วย Sky-Hook ยังมีท่าพิฆาตที่สะใจมากๆ แต่ถ้าหากว่าเราอยู่บนราง Sky-Hook จะเป็นอาวุธที่จะสามารถใช้ Take Down ทิ่มหัวศัตรูจากด้านบน คือตัวเราจะล็อกศัตรูและพุ่งเข้าไปหาในทันที ถือว่าเป็นอาวุธที่เจ๋งมากๆ

กราฟฟิกภายในเกมถือว่าสวยมาก การออกแบบงานศิลป์ที่สวยงาม ผสมผสานกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เป็นอะไรที่แปลกตามากๆ แสงในเกมก็ทำออกมาได้สวยมากๆ บรรยากาศในเกมทำออกมาได้ดีและร่วมสมัยมาก บางฉากนี่ขนาดเละตุ่มเปะแล้วแต่ก็ยังสวยอยู่..

(สรุป)
Bioshock Infinite เป็นเกมที่คุณควรได้ลองซักครั้ง ด้วยเนื้อเรื่องอันเข้มข้น และฉากหักมุมที่พีคมากๆ ผมแนะนำให้หามาเล่นเลย อาวุธและพลังพิเศษต่างๆที่เกมนี้นำเสนอในรูปแบบใหม่ เป็นความแปลกใหม่ของซีรี่ย์นี้ แหวกระบบ Rpg จ๋าๆมาสู่การลุยแหลกถล่มทุกอย่างตรงหน้า!!! ใครที่ยังไม่เคยเล่นผมแนะนำซื้อแบบรวมแพคไปเลยคุ้มกว่าแน่นอนครับ


Score ( ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ♡ ) Masterpieces!!!

Review : Bioshock Infinite "จากนครสวรรค์ลอยฟ้า สู่นครนรกลอยฟ้า!!" เนื้อเรื่องในเกมจะเริ่มในปี 1912 เราจะได้รับบทเป็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ที่มีอดีตที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่นาม Booker DeWitt เขาได้รับงานงานหนึ่ง ซึ่งถูกจ้างวาน ให้ไปตามหาหญิงสาวนาม Elizabeth ที่อยู่บนมหานครลอยฟ้า Columbia... ตัวของ Booker ไม่มีทางเลือกเขาได้รับงานและได้เดินทางไปยัง Columbia โดยมีสองบุคคลลึกลับพาเราไปส่งที่ประภาคารแห่งหนึ่งกลางทะเล และ Booker ได้เดินทางมาถึงนครลอยฟ้า Booker ถูกจับ เพราะตรวจพบสัญลักษณ์บางอย่างที่อยู่บนหลังมือเขา ตัว Booker ได้ทำการหนีหน่วยรักษาความปลอดภัยอย่างทุลักทุเล จนพบที่ที่ Elizabeth ถูกซ่อนไว้ Elizabeth ได้แสดงพลังที่สามารถเปิดประตูไปยังที่ต่างๆได้โดยที่ไม่รู้ว่า Booker นั้นเห็นทุกๆอย่างที่เธอทำ! หลังจากนั้น Booker ไม่รอช้าได้พา Elizabeth หนีออกจากเมืองลอยฟ้าแห่งนี้ในทันที! ภาพจากเมืองสวรรค์ที่สวยงามกลับกลายเป็นเมืองนรกในพริบตา! และหลังจากนี้ Booker จะต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการต่างๆที่จะต้องเจอบนนรกลอยฟ้าแห่งนี้ แม้ตัวเขาเองจะไม่เต็มใจก็ตาม!! (ต้องบอกก่อนนะครับว่า เนื้อเรื่องในภาคนี้จะเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ในภาค 1 และ 2 ทำให้เราไม่จำเป็นจะต้องไปเล่นภาคแรกกับสองมาก่อน แต่ถ้าเล่นมาก็จะดีกว่า เพราะมันจะมีฉากที่เราจะเห็น Rapture นครผีใต้น้ำ เราจะได้เห็นจุดเชื่อมโยงเล็กๆระหว่างภาคนี้และภาคแรก เนื้อเรื่องภาคนี้มีการหักมุมที่ค่อนข้างใจหายพอสมควร ถ้าภาคแรกหักมุมแล้ว ภาคนี้คือการโดนไม้หน้าสามหวดที่หน้าเข้าอย่างจัง!) เกมเพลย์ในภาคนี้ค่อนข้างต่างจากสองภาคแรกก่อนอย่างสิ้นเชิง และมันได้ทิ้งความเป็น RPG แบบจ๋าๆไป แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความ RPG เหลืออยู่เลย เพราะในส่วนของพลังพิเศษต่างๆนั้น ยังมีให้ใช้เหมือนเดิน แค่ภาคนี้เน้นบู้แหลกขึ้นกว่าภาคก่อนๆที่ผ่านมา ภาคนี้จะไม่ได้มีแค่หลอดพลังชีวิตเพียงอย่างเดียว เพราะภาคนี้ได้มาพร้อมกับหลอดเกราะป้องกัน ซึ่งหลอดเกราะป้องกันจะช่วยซับดาเมจให้เรา 100% เปรียบเหมือนกับพลังชีวิตอีกหลอดเลยทีเดียว เมื่อเกราะหมดมันจะใช้เวลาแค่แป๊บเดียวในการชาร์จใหม่ ทำให้เราสามารถกลับไปลุยแอ็คชั่นที่อยู่ตรงหน้าได้ต่อทันที แต่ถ้าหากในระหว่างเรากำลังชาร์จเกราะอยู่นั้น หากโดนดาเมจเข้ามานิดเดียว เกราะก็จะหยุดชาร์จทันที! ทำให้เราต้องระวังการโจมตีของศัตรูในระหว่างที่กำลังชาร์จเกราะให้ดี และที่สำคัญไม่แพ้กับเกราะเลยคือพลังชีวิต พลังชีวิตในภาคนี้ยังคงเป็นแบบเก็บกล่องเก็บกระเป๋าพยาบาลอยู่ (ไม่มีเพิ่มเองแบบเกราะ) และไม่สามารถพกไปเติมได้ระหว่างการต่อสู้ ทำให้ภาคนี้ค่อนข้างที่จะต้องบริหารพลังเกราะกับเลือดดีๆ หากเกราะไปหมดเอาตอนมันมากันเยอะๆ เราจะตายได้ง่ายๆเลย (แต่ภาคนี้มีตัวช่วยที่ผมคิดว่าโอเคพอสมควรเลยจะเป็นอะไรเดี๋ยวไปว่ากัน) อาวุธในเกมก็จะมีให้ได้เลือกใช้กันหลากหลาย ตั้งแต่ปืนพกสั้นจนไปถึงเครื่องยิงจรวด แต่ละปืนก็สามารถอัพเกรดได้หลายอย่าง เช่น ดาเมจ ความแม่นยำ ความเร็ว จนถึง รีคอย์ลปืน ภาคนี้เราจะพกอาวุธไปได้แค่สองอย่างเท่านั้น ไม่ได้พกไปเยอะแบบสองภาคก่อน อันนี้อาจจะไม่ค่อยถูกใจบางคนเท่าไหร่ แต่อาวุธก็จะมีดรอปให้ตามศพศัตรูอยู่แล้ว หากเราไม่สามารถหากระสุนได้ก็เก็บปืนจากศพได้เลย หรือ ซื้อเอาจากตู้ขายของที่มีอยู่ตามฉาก Vigors ถ้าพูดง่ายๆสำหรับคนที่เคยเล่นภาคหนึ่งกับสองมาก่อน มันก็คือ Plasmids ที่เราใช้กันในภาคก่อนๆนั้นแหละ... โดยภาคนี้จะมีน้อยกว่าภาคก่อนไม่มาก แต่ภาคนี้พิเศษกว่าภาคก่อนๆคือ พลังการทำลายล้างที่รุนแรง! แม้จะไม่ได้อัพเกรดมาก็ตาม และภาคนี้ยังมีโหมดการใช้งานถึงสองแบบในพลังเดียวทำให้การโจมตีศัตรูนั้นทำได้หลากหลายมากขึ้น และภาคนี้ยังใช้ระบบมานาหรือที่เรียกกันในเกมนี้ว่า Salts การใช้พลังแต่ละครั้งจะกิน Salts ต่างกันออกไป บางกลังอาจจะต้องใช้ Salts เยอะ แต่บางพลังอาจจะใช้ Salts น้อย โดย Salts จะหาเก็บเอาได้ตามฉาก หรือจะซื้อเอาตามตู้ขายของที่มีอยู่ตามฉากก็ได้เช่นกัน การเปลี่ยนพลังในภาคนี้ถือว่าทำมาสะดวกกว่าสองภาคก่อนมากๆ ถือว่าคล่องตัวเลยทีเดียว ต่อมาก็คือ Gear ถ้าเปรียบจากสองภาคก่อนคือ Gene Tonics ดีๆนี่เอง โดยภาคนี้จะแบ่งออกเป็นของสวมใส่ 4 ชิ้นได้แก่ หมวก เสื้อ กางเกง และรองเท้า Gear แต่ละชิ้นจะมีเอฟเฟ็กและการเสริมความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เราสามารถจัด Gear Set ได้ตามอิสระ ถือว่าเป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นมากๆ Gear สามารถหาเก็บได้ตามฉาก (ต้องหาดีๆ บางอันต้องหาวิธีเข้าไปเอา) ไม่พูดไม่ได้จริงๆสำหรับแม่นาง Elizabeth ที่เราได้พาเธอติดท้ายมาด้วย ผมขอยกให้เธอข้อหนึ่งเลย เธอถือว่าเป็นหนึ่งในตัวละครหลักของภาคนี้เลยก็ว่าได้ เป้าหมายที่เรามาที่นี่เพราะเราต้องการตัวเธอ แต่เมื่อเหตุการณ์มันเลวร้ายขนาดนี้ เธอมีประโยชน์อะไรบ้าง? หลักๆเลย เธอจะเป็น NPC ที่จะคอยช่วยเตือนผู้เล่น และค่อยส่งกระเป๋ายา (อย่างที่ผมพูดไปตอนแรก) ส่งกระสุน ส่ง Salts ให้กับเราในยามฉุกเฉิน บางทีนางเดินไปเจอเหรียญตกนางก็โยนมาให้เรา และความสามารถหลักๆเลยคือนางสามารถเปิดประตูมิติเพื่อเรียกสิ่งก่อสร้างที่เคยมีตรงนั้นกลับมา หรือเรียกกล่องเก็บยา กล่องเก็บ Salts รวมถึงปืนชนิดต่างๆ มาให้เราได้เก็บได้ใช้กัน.. อีกความสามารถคือนางสะเดาะกุญแจห้องที่ล็อกหรือตู้เซฟได้ เพียงแค่เราต้องมี Lockpick ให้นาง นางก็จะสามารถเปิดให้ได้ทันทีเมื่อเราสั่ง Elizabeth นับว่าเป็นเพื่อนร่วมทางที่โอเคเลยมีประโยชน์มากๆในเวลาที่ต่อสู้ แต่บางทีก็รู้สึกเกะกะในบางเวลา แถมยังชอบหาเรื่องให้เราอีก เฮอะ... ศัตรูในเกมนี้จะมีอยู่หลากหลายประเภทให้เราได้สู้ ตั้งแต่ลูกกระจ๊อกจนไปถึงพี่เบิ้มเกราะหนา ศัตรูบางตัวจะมีจุดอ่อนให้เห็นชัดเจน แต่เราจะประมาทศัตรูในเกมนี้ไม่ได้เลย เพราะถึงคราวที่เราจะต้องต่อสู้ มันจะมากันเยอะมากๆ แบบถ้าเป็นพวกตำรวจนึกว่ายกกันมาทั้งสน. แถมบางตัวมีการโจมตีที่ค่อนข้างรุนแรงเช่นพวกสไนเปอร์เป็นต้น Sky-Lines / Sky-Hook (ระบบผาดโผนที่ยกการต่อสู้ให้เดือดกว่าเดิม) Sky-Lines ไม่ใช่รถ แต่มันคือราง!! รางที่เราจะได้ใช้ Sky-Hook ในการผาดโผนและเดินทางไปตามรางที่อยู่ในเมือง และ Sky-Hook ยังเป็นอาวุธ Melee หากเราอยู่บนพื้น การใช้ Sky-Hook จะเป็นการฟันหรือการเชือด/ทุบ การฟันด้วย Sky-Hook ยังมีท่าพิฆาตที่สะใจมากๆ แต่ถ้าหากว่าเราอยู่บนราง Sky-Hook จะเป็นอาวุธที่จะสามารถใช้ Take Down ทิ่มหัวศัตรูจากด้านบน คือตัวเราจะล็อกศัตรูและพุ่งเข้าไปหาในทันที ถือว่าเป็นอาวุธที่เจ๋งมากๆ กราฟฟิกภายในเกมถือว่าสวยมาก การออกแบบงานศิลป์ที่สวยงาม ผสมผสานกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เป็นอะไรที่แปลกตามากๆ แสงในเกมก็ทำออกมาได้สวยมากๆ บรรยากาศในเกมทำออกมาได้ดีและร่วมสมัยมาก บางฉากนี่ขนาดเละตุ่มเปะแล้วแต่ก็ยังสวยอยู่.. (สรุป) Bioshock Infinite เป็นเกมที่คุณควรได้ลองซักครั้ง ด้วยเนื้อเรื่องอันเข้มข้น และฉากหักมุมที่พีคมากๆ ผมแนะนำให้หามาเล่นเลย อาวุธและพลังพิเศษต่างๆที่เกมนี้นำเสนอในรูปแบบใหม่ เป็นความแปลกใหม่ของซีรี่ย์นี้ แหวกระบบ Rpg จ๋าๆมาสู่การลุยแหลกถล่มทุกอย่างตรงหน้า!!! ใครที่ยังไม่เคยเล่นผมแนะนำซื้อแบบรวมแพคไปเลยคุ้มกว่าแน่นอนครับ Score ( ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ♡ ) Masterpieces!!!