Baldur's Gate 3

Baldur's Gate 3

Not enough ratings
PXP 001 บิลด์ตี้มือใหม่ + ไกด์ไฟท์สำคัญทั้งหมด
By paulxiep
ตัวอย่างการจัดตี้ฟูลทีม พร้อมวิธีสู้แต่ละไฟท์
ธีมหรือโจทย์ของตี้นี้คือเป็น 'ตี้มือใหม่' เวลต้นๆเล่นง่าย ยิงอย่างเดียว แต่ยิ่งเวลอัพไปจะมีของเล่นเยอะขึ้นเรื่อยๆครับ
โดยสมาชิกทั้ง 4 ตัวจัดมาให้หนุนเสริมกัน พิชิตได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องพึ่งยา ลูกธนู ใบเวทย์ พลังหนอน ฯลฯ อื่นใดอีก
   
Award
Favorite
Favorited
Unfavorite
ไกด์อื่นๆ
  • (ไกด์นี้แหละ) ตี้มือใหม่ (Beginner) (เล่นตัวอย่างเป็น Astarion)
  • ตี้ดงหนาม (Spike Growth) (เล่นตัวอย่างเป็น Karlach)
  • (มาเร็วๆนี้) ตี้เผา-แช่แข็ง-ทุบ (Fire-Ice-Smash) (เล่นตัวอย่างเป็น Wyll)
  • (มาเร็วๆนี้) ตี้เคลื่อนย้ายจักรวาล (Everywhere all at once) (เล่นตัวอย่างเป็น Lae'zel)
  • (มาเร็วๆนี้) ตี้ไร้ผู้ต้าน (Irresistible) (เล่นตัวอย่างเป็น Shadowheart)
  • (มาเร็วๆนี้) ตี้โรงเรียนเวทย์มนตร์ (Wizarding School) (เล่นตัวอย่างเป็น Gale)
สารบัญ
คำอธิบายคร่าวๆว่าแต่ละตอน (ตามชื่อบนแถบด้านขวา) มีอะไรบ้าง

  • บทนำ
  • เงื่อนไขการดำเนินเรื่อง - มี 3-4 ข้อ ที่เควสที่ทำต้องทำตามนี้ ไม่งั้นจะไม่ได้ของที่ต้องการ
  • ภาพรวมสมาชิกทั้ง 4 - อธิบายบทบาท คอนเซปท์คร่าวๆ
  • สมาชิกเบอร์ 1-4 - อธิบายวิธีอัพและเล่นอย่างละเอียด
  • สมาชิกเบอร์ 1-4 อัพเลเวลตามภาพ
  • Act 1-3 - ภาพรวมของ Act ของที่ใส่ การสู้โดยรวม
  • Level 3-12 - อธิบายสิ่งใหม่ที่เปลี่ยนไปในแต่ละเลเวล ของที่ใช้ สภาพทีม ไฟท์ต่างๆที่อาจสู้ที่เลเวลนี้ พร้อมคลิปตัวอย่าง
บทนำ
ไกด์นี้จะยกตัวอย่างการจัดตี้ฟูลทีม โดยให้มีความสามารถที่หนุนเสริมกัน ทำงานเป็นทีม
  • ไม่ต้องมีรังแคป้า Ethel ก็ได้
  • ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาโด๊ป ลูกธนู ใบเวทย์ อุปกรณ์เสริม หรือพลังหนอนใดๆ ไกด์นี้จะเล่นให้ดูโดยไม่ต้องใช้
  • ไกด์นี้วางแผนจัดตี้รวมไปถึงอาวุธด้วย จะปล่อยพลังให้เต็มที่ ต้องเก็บให้ครบ

มือใหม่ที่หลงเข้ามา เดินมั่วได้ครับ แต่อ่านบทถัดไปเกี่ยวกับเงื่อนไขการดำเนินเรื่องก่อน มี 3-4 ข้อที่ต้องทำตามครับ

ไกด์นี้เขียนแปลมาจากภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นของผมเองเหมือนกันครับ อันนี้
เงื่อนไขการดำเนินเรื่อง
ลิสท์นี้จำเป็นครับ
  • โน้มน้าวให้ Rolan อยู่ช่วยต่อ ตอนไปถึงป่ามรกตครั้งแรก (น้อง Mattis ต้องรอดครับ)
  • เลือกไม้เท้า Spellsparkler[bg3.wiki] ตอนช่วยคนที่โรงแรม Waukeen's Rest ครับ
  • อย่าทำให้ Druid กับ Tiefling ตีกัน ทำเออออตาม Kagha ไปก่อน (ทำเควสเปิดโปงได้)
  • อย่าเข้าฝั่งก็อบลิน และอย่าเดินเลยจนเควสตัดครับ ต้องจัดการก็อบลิน ช่วยฝ่ายป่าครับ
  • อย่าพลาดให้ Isobel ร่วง ตอนพวกมีปีกมาบุก เว้นแต่ซื้อของในค่ายจนครบแล้ว

ลิสท์นี้ทำได้ก็ดี
  • ปล่อย Nightsong เพื่อให้ Dammon รอดถึง Act 3 ครับ
ภาพรวมทีม
สมาชิก
  • นักธนูเวทย์เห็ดรา (Spore Swords Wizard) - เป็นหัวหน้าตี้แบบ full-service คือคุยได้ สะเดาะกลอน ปลดกับดักได้ทุกอย่างครับ ไม่ต้องสลับตัวเดินนำเลยตลอดทั้งเกม ส่วนในไฟท์ก็จะเน้นยิงธนู กับเวทย์ CC (ควบคุมฝูงชน คือเน้นเวทย์ยืนงง ยืนแข็งทื่อ ฯลฯ) ครับ แต่มีเวทย์ Wizard ให้เลือกใช้ตามสถานการณ์ได้ด้วย
  • นักรบพลังนักฆ่า (Bhaalist Battlemaster) - ที่จริงจะกลายเป็นนักฆ่าตอน Act 3 ครับ ตอน Act 1-2 จะเป็นนักรบธรรมดา เน้นใช้ท่าต่างๆให้ทีมได้เปรียบ
  • เสือทะยาน (Dashing Tiger) - ตัวนี้จะเป็นตัวทำดาเมจใน Act 1 และ 3 ส่วน Act 2 จะเป็นแทงค์สายคอนโทรลครับ
  • เจ้าแห่งพายุเพลิง (Inferno Tempest) - ตัวนี้ต้นเกม Act 1 เป็น Cleric พอ Act 3 จะค่อยๆกลายเป็นตัวยิงไฟ และเวทย์ CC ครับ ส่วน Act 2 จะอยู่กลางๆ กำลังแปลงร่าง
ข้อดี
  • ทำ damage แบบ burst ได้ดีตั้งแต่เลเวลแรกๆ
  • เวลต้นๆเล่นง่าย แล้วค่อยๆไต่ระดับความยาก
  • ได้เวทย์ Wizard ครบ
  • มีแทงค์ตัวชนคอยรับดาเมจ ทำให้ทีมอึด
  • ใช้ Haste Spore ได้ฟรีวันละครั้ง
ข้อด้อย
  • เวลสูงๆ จะสกิลที่ใช้ได้จะเยอะขึ้นๆ จะเล่นให้เต็มประสิทธิภาพ อาจจะยาก
  • ได้ Counterspell ช้า
เบอร์ 1 นักธนูเวทย์เห็ดรา
ตัวนี้ต้องเป็น Elf เท่านั้นนะครับ เป็น Drow หรือ Half-Elf ก็ไม่ได้นะ
ถ้าไม่อยากเล่น Elf ไปสลับเอาตัวที่ 4 เจ้าพายุเพลิง มาเป็นหัวหน้าตี้สายคุยได้ แต่สะเดาะกุญแจต้องเป็นตัวนี้
ถ้าอยากเล่น Origin มี Astarion ครับที่เป็น Elf

บทบาท
  • หัวหน้าตี้แบบครบวงจร
  • ทำดาเมจ
  • เวทย์ควบคุมฝูงชน โดยเฉพาะเวทย์ Hold ทั้ง 2 ตัว
  • Wizard ท้ายๆ Act 2 จะเริ่มได้เวทย์ Wizard มาเสริมกำลังครับ ทำให้มีเวทย์ใช้ได้หลากหลายแทบจะทุกชนิด
  • นักเพาะเห็ด (Sporekeeper) ทำให้ใส่เกราะ Sporekeeper แล้วร่าย Haste Spore ได้วันละครั้งครับ

คลาสและการอัพเวล
  • Swords Bard 6
  • Spore Druid 4
  • Divination Wizard 2
ให้ B แทน Bard, D แทน Druid, W แทน Wizard อัพเลเวลตามลำดับนี้ครับ
  • BBBBBBDWDWDD
สรุปสั้นๆคืออัพ Bard รวดเดียว 6 เวล แล้วค่อยต่ออย่างอื่นตามที่เรียงให้ครับ

ตัวเลขความสามารถ
  • ค่าความสามารถด้านต่างๆ - มี 3 ตัวเลข นอกวงเล็บคือค่าสุดท้าย ในวงเล็บซ้ายสุดคือค่าดิบหลังได้สร้อยเพิ่ม Con ในวงเล็บกลางคือค่าดิบหลังได้ถุงมือ Dex ในวงเล็บขวาคือค่าดิบตอนเริ่มเกม
    • Str - 8 (8, 8, 8)
    • Dex - 18 (8, 8, 16)
    • Con - 23 (8, 16, 16)
    • Int - 18 (17, 16, 10) +2 from Mirror of Loss
    • Wis - 16 (15, 12, 10)
    • Cha - 16 (16, 14, 14)
  • HP - 133
  • AC - 21
  • Raw Spellcasting DC - 16 (ยังไม่รวม Rhapsody กับกระจก +2 Int)
  • Initiative - +4
  • Fighting Style - Two-weapon Fighting
  • Feats
    • ASI +2 Dex ก่อนได้ถุงมือ ให้เลือกตัวนี้ครับ
    • Sharpshooter หลังได้ถุงมือ ให้รีคลาสแล้วเปลี่ยนเป็นตัวนี้ครับ

ตัวเลือกตอน level up
  • Skill Proficiencies
    • Expertise in Persuasion (Expertise ของ Bard ต้องเลือกตอนเลเวล 3 ซึ่งมือใหม่อาจจะกดข้ามครับ ลองหาดูจริงๆมันเลือกได้ ห้ามลืมนะ ถ้าลืมกดรีคลาสใหม่ครับ)
    • Expertise in Sleight of Hand
    • Proficiency in Deception
    • Proficiency in Acrobatics
  • เวทย์ Bard - ควรเลือกอย่างมาก:
    • Calm Emotion
    • Vicious Mockery - อันนี้จะใช้ Act 3 แต่เลือกไว้ได้เลยครับ
    • Heat Metal
    • Plant Growth
    • Silence
    • Glyph of Warding - DC Act แรกๆ เราไม่สูง แต่เวทย์ดีมีประโยชน์จริงๆครับ
    • Detect Thoughts - ใช้ใน Act 2 ไว้ร่ายนอก combat จะร่ายฟรี ใช้คู่กับแหวน Strange Conduit เพิ่มดาเมจได้ครับ
    ควรเลือกเช่นกัน (บางตัวเอาออกทีหลังได้ แต่แรกๆเลือกไว้ก่อน):
    • Thunderwave - ตัวนี้เอาจากคลาสอื่นได้ แต่แรกๆเลือกไว้ก่อนครับ
    • Healing Word - อันนี้แล้วแต่ชอบ
    • Longstrider - เอาออกได้หลังจากได้คลาส Druid ครับ
    • Faerie Fire - แล้วแต่ชอบ
    • Lesser Restoration - แล้วแต่ชอบครับ ไว้แก้เวทย์ Hold Person
    • Hold Person - จริงๆ DC ต้นเกมเราไม่สูง ไม่ต้องเลือกก็ได้ ส่วนท้ายเกมไปเลือกใน Wizard ได้ครับ
  • เวทย์ Druid - ไม่ต้องเลือก ได้ทุกอย่าง แต่ควรเตรียม
    • Longstrider
    • Create Water
    • Lesser Restoration กับ Faerie Fire ถ้ายังไม่มี
  • เวทย์ Wizard - เรียนเพิ่มจากใบเวทย์ได้ ยกเว้นเวทย์ Shield
    • Shield
    • Hold Person
    • Hold Monster
    • หาใบเวทย์อะไรได้ เรียนได้ตามที่ชอบเลยครับ แต่ระวังอย่าเรียนเวทย์เวล 1 เร็วไป เดี๋ยวตอนเลเวลอัพเลือกเวทย์ไม่ได้ จะไปต่อไม่ได้

อุปกรณ์
  • Main hand - Rhapsody[bg3.wiki] - อาวุธที่ดีที่สุดของสาย Sharpshooter หรือสายเวทย์แล้วครับ และเราเป็นทั้ง 2 อย่างเลย ต้องไปฆ่าศัตรู 3 ตัวเพื่อชาร์จพลังก่อนครับ แต่ชาร์จแล้วโกงจริงๆ
  • Off hand - Dolor Amarus[bg3.wiki] - เพิ่มดาเมจเวลาคริครับ เพราะแท็คติกหลักของตี้คือเน้น Hold แล้วคริ
  • Ranged - Dead Shot [bg3.wiki]- เพื่อให้ยิงโดนแม่นๆครับ จะได้เก็บ Arcane Acuity แบบหวังผลได้
  • Body - Armour of Agility[bg3.wiki] (หรือใช้ Armour of Sporekeeper[bg3.wiki] กับศัตรูที่ CC ไม่ได้ เช่นพวก undead ใช้ร่าย Haste Spore เพิ่ม Action แทน)
  • Cloak - อะไรก็ได้ครับ ที่ไม่ใช่ Vivacious Cloak
  • Gloves - Gloves of Dexterity[bg3.wiki] - ตัวนี้เป็นทุกอย่างให้เธอ ต้องใช้ stat สูงหลายอย่างครับ
  • Boots - Helldusk Boots[bg3.wiki] or Evasive Shoes[bg3.wiki] อันหลังนี่ควรใส่เวลาใส่เกราะสปอร์ครับ เพราะ AC จะต่ำ
  • Head - Helmet of Arcane Acuity[bg3.wiki] - ของจำเป็นของสายกึ่งเวทย์กึ่งสู้ครับ
  • Amulet - Amulet of Greater Health[bg3.wiki] - ใส่เพื่อให้ทิ้ง Con ไปลงเพิ่ม DC เวทย์แทนครับ และทำให้ Concentration Saving Throw ได้ดีขึ้นด้วย
  • Ring 1 - Band of the Mystic Scoundrel[bg3.wiki] - แหวนนี้ทำให้สายธนูเวทย์โกงสุดในเกมแล้วครับ
  • Ring 2 - Ring of Arcane Synergy[bg3.wiki] - เวลาไม่ร่ายเวทย์ ให้ด่า (Vicious Mockery[bg3.wiki]) ศัตรูหลังจากยิงแล้ว ถ้าด่าติด จะได้ +ดาเมจ ให้ยิงแรงขึ้นไปอีกครับ
เบอร์ 1 อัพเวลตามภาพ
  • เลเวล 1
  • เลเวล 2
  • เลเวล 3
  • เลเวล 4
  • เลเวล 5
  • เลเวล 6
  • เลเวล 7
  • เลเวล 8
  • เลเวล 9
  • เลเวล 10
  • เลเวล 11
  • เลเวล 12
เบอร์ 2 นักรบพลังนักฆ่า
  • ใช้ท่า Maneuver เพื่อสร้างความได้เปรียบทางแท็กติก
  • ใส่แหวน Mental Inhibition (มีประโยชน์ Act 3 เป็นหลัก)
  • ทำดาเมจ
  • ใส่เกราะ Bhaalist เพิ่มดาเมจทั้งทีมเท่าตัว
คลาสและการอัพเวล
  • Battlemaster Fighter 12
อัพยาวไปเลย 12 เลเวลครับ ไม่ต้องคิดมาก
  • ตัวเลขความสามารถ
    • Str - 8 (8)
    • Dex - 18 (17) +2 จากกระจก
    • Con - 16 (1616)
    • Int - 8 (8)
    • Wis - 16 (15)
    • Cha - 8 (8)
  • HP - 112
  • AC - 20
  • Initiative - +8
  • Fighting Style - Archery
  • Feats
    • ASI +1 Dex +1 Wis
    • Sharpshooter
    • Sentinel (จะเริ่มมีประโยชน์หลังได้เกราะ Bhaalist Act 3 ครับ)
    • Crossbow Expert ทำให้ใช้หน้าไม้ยิงระยะใกล้จ่อๆได้ โดยไม่ติด disadvantage
ตัวเลือกตอน level up
  • Skill Proficiencies
    • Acrobatics จำเป็นตัวเดียวครับ ที่เหลือฟรี
  • Maneuver ที่จำเป็น
    • Trip Attack
    • Disarming Attack
    • Pushing Attack
    • Goading Attack
    • Menacing Attack
    Maneuver อื่นๆที่มีประโยชน์
    • Manoeuvering Attack
    • Riposte
    • Commander's Strike

อุปกรณ์
  • Main hand - Duelist Prerogative[bg3.wiki] - เพราะเราเป็น Sentinel ที่เน้นล็อคศัตรูอยู่กับที่ มี Reaction 2 อันมีประโยชน์ครับ แต่ยังไงก็ต้องเลือกใช้ดีๆ เปิดเป็นแบบถามก่อนใช้นะครับ
  • Off hand - Empty
  • Ranged - หน้าไม้ที่ดีที่สุด (Steel Watcher Crossbow น่าจะดีสุดสำหรับท้ายเกม)
  • Body - Bhaalist Armour[bg3.wiki] - ใส่นี่แล้วกลายเป็นตัวหลักช่วยเบิ้ลดาเมจของทีมครับ
  • Cloak - Cloak of Protection[bg3.wiki]
  • Gloves - Gauntlets of the Warmaster[bg3.wiki] (default) เวลาเน้น Maneuver กับ Mental Fatigue, หรือใช้ Legacy of the Masters[bg3.wiki] เวลาเน้นตีให้โดนครับ
  • Boots - Disintegrating Nightwalkers[bg3.wiki] - หลักๆคือเอา Misty Step เพื่อประชิดศัตรูได้เร็ว
  • Head - Mask of Soul Perception[bg3.wiki] - เพิ่มทั้งโอกาสตีโดนและ initiative
  • Amulet - Fey Semblance Amulet[bg3.wiki] - มีประโยชน์ทั้งกับ Banite กับสกิล slow ของสมองตอนไฟท์ท้ายเกมครับ
  • Ring 1 - Ring of Mental Inhibition[bg3.wiki] - เพื่อทำ Mental Fatigue ทำให้ร่ายเวทย์ CC ติดง่ายขึ้นครับ
  • Ring 2 - Ring of Protection[bg3.wiki]
เบอร์ 2 อัพเวลตามภาพ
  • เลเวล 1
  • เลเวล 2
  • เลเวล 3
  • เลเวล 4
  • เลเวล 5
  • เลเวล 6
  • เลเวล 7
  • เลเวล 8
  • เลเวล 9
  • เลเวล 10
  • เลเวล 11
  • เลเวล 12
เบอร์ 3 เสือทะยาน
  • ทำดาเมจ
  • รับดาเมจ (แทงค์)
  • วิ่ง (Dash) - ตั้งแต่เวล 8 เป็นต้นไป สามารถกดวิ่งเป็น bonus action แล้วได้ temp HP เพิ่มครับ มีประโยชน์มากในการแทงค์ และเข้ากดดันแนวหลังศัตรู
  • เลือด (Bleed) - ท่าโจมตีทำศัตรูเลือดไหลได้ มีประโยชน์ Act 1, ท้าย Act 2 (บุก moonrise), กับ Act 3 อีกทีครับ
  • ส่องแสง (Radiating Orb) - ใส่ของตามที่บอก ได้ผลตามนี้ครับ
  • มึนงง (Dazed) - ใส่ของตามที่บอกครับ

คลาสและการอัพเวล
  • Tiger Heart (Wildheart) Barbarian 9
  • Thief Rogue 3
ให้ B แทน Barbarian และ R แทน Rogue อัพตามนี้เลยครับ
  • BBBBBRRBRBBB

ตัวเลขความสามารถ
  • ค่าความสามารถด้านต่างๆ
    • Str - 20 (17) +2 จากกระจก
    • Dex - 14 (14)
    • Con - 16 (16)
    • Int - 8 (8)
    • Wis - 10 (10)
    • Cha - 8 (8)
  • HP - 119
  • AC - 18
  • Initiative - +10
  • Feats
    • Tavern Brawler (Str +1)
    • Alert หรือ Savage Attacker หรือ ASI ก็ได้ครับ
    • (ไม่ใช่ feat) กินยา +2 Str ของ Araj Oblodra ครับ

ตัวเลือกตอน level up
  • Athletics proficiency ในหมวดสกิลครับ
  • Tiger Heart
  • Stallion Aspect

อุปกรณ์
  • Main hand - Crimson Mischief[bg3.wiki] (ร่ายเพิ่มดาเมจ Thunder ด้วย Drakethroat Glaive[bg3.wiki]) - เป็นอาวุธที่เหมาะกับใช้กับ Reckless Attack ของคลาส Barbarian และกับตี้ที่ใช้เวทย์ Hold เป็นหลักครับ
  • Off hand - Bloodthirst[bg3.wiki] - ทั้งได้ +1 AC, +โอกาสคริ, และทำให้ตีสวนศัตรูที่ตีเราแล้ววืดได้ด้วยครับ
  • Ranged - Vicious Shortbow[bg3.wiki] - ใส่เพิ่มดาเมจคริครับ ไม่เน้นยิง
  • Body - Luminous Armour[bg3.wiki] - ไว้ทำ Radiating Orb[bg3.wiki] - ทำให้ศัตรูตีวืดมากขึ้น ทำให้เราตีสวนได้บ่อยขึ้นด้วยครับ
  • Cloak - Displacement Cloak[bg3.wiki] - เพื่อให้ศัตรูตีวืดมากขึ้น และใช้แก้ผลเสียของ Reckless Attack ด้วยครับ
  • Gloves - Helldusk Gloves[bg3.wiki] หรือ Craterflesh Gloves[bg3.wiki] สำหรับ Patch 6.
  • Boots - Linebreaker Boots[bg3.wiki] - กดวิ่งแล้วได้ทั้งเลือด และได้ทั้งตีแรงขึ้นด้วยครับ
  • Head - Helm of Balduran[bg3.wiki] ไว้เติมดาเมจพิษจากสร้อย หรือ Sarevok's Helmet[bg3.wiki] ไว้เพิ่มโอกาสคริ
  • Amulet - Broodmother's Revenge[bg3.wiki] หรือ Amulet of the Harpers[bg3.wiki] ใช้ป้องกันเวทย์โจมตีจิตใจครับ
  • Ring 1 - Callous Glow Ring[bg3.wiki] - ใช้คอมโบกับเกราะ และกับสถานะเลือดไหลด้วยครับ
  • Ring 2 - Ring of Spiteful Thunder[bg3.wiki] - ใช้ช่วยตีติด Daze ซึ่งลด AC ของศัตรู และทำให้ร่ายเวทย์ CC ติดง่ายขึ้นด้วยครับ
เบอร์ 3 อัพเวลตามภาพ
  • เลเวล 1
  • เลเวล 2
  • เลเวล 3
  • เลเวล 4
  • เลเวล 5
  • เลเวล 6
  • เลเวล 7
  • เลเวล 8
  • เลเวล 9
  • เลเวล 10
  • เลเวล 11
  • เลเวล 12
เบอร์ 4 เจ้าพายุเพลิง
บทบาท
  • เป็นพระ (Cleric) ร่ายเวทย์ Aid และเวทย์สนับสนุนอื่นๆ
  • yeet - หลังจากได้ Cleric เลเวล 6 จะเริ่มผลักศัตรูได้เมื่อทำดาเมจสายฟ้าหรือเสียงครับ
  • Nuker - ช่วยทำดาเมจได้ ในไฟท์ใหญ่ๆครับ ไฟท์เล็กก็ทำได้ แต่เปลืองเม็ดเวทย์
  • CC
  • Radiating Orb
  • Reverberation
  • เล่นตัวนี้เป็นหัวหน้าตี้ก็ได้ครับ

คลาสและการอัพเวล
  • Tempest Cleric 6
  • Brass Draconic Bloodline Sorcerer 6
ให้ C แทน Cleric, S แทน Sorcerer อัพเลเวลตามลำดับนี้ครับ
  • CCCCCCSSSSSS
สรุปสั้นๆคืออัพ Cleric รวดเดียว ตามด้วย Sorc รวดเดียวครับ

ตัวเลขความสามารถ
  • ค่าความสามารถด้านต่างๆ
    • Str - 8 (8)
    • Dex - 8 (8)
    • Con - 16 (16)
    • Int - 8 (8)
    • Wis - 18 (17)
    • Cha - 16 (15)
  • HP - 99
  • AC - 21
  • Base Spellcasting DC - 20
  • Initiative - +2
  • Feats
    • ASI +1 Wis +1 Cha
    • Dual Wielder

ตัวเลือกตอน level up
  • Skill Proficiencies
    • Persuasion กรณีเล่นเป็นหัวหน้าตี้เท่านั้น ถ้าไม่งั้นเลือกได้อิสระครับ
  • เวทย์ Cleric - ควรเลือกอย่างมาก
    • Calm Emotions
    • Aid
    • Glyph of Warding - เวทย์นี้สรรเสริญสรรพคุณยังไงก็ไม่พอครับ โดยเฉพาะ Glyph สั่งหลับ
    • Spirit Guardian
    • Create Water - ใช้คู่กับเวทย์ไฟฟ้า
    • Sanctuary
    • Bless
    • Healing Word
    Cantrip
    • Guidance
    • Resistance
    • Sacred Flame ใช้ต้น Act 1 กับใน Act 2 ครับ
  • เวทย์ Sorcerer
    ยังไงก็ต้องเลือก
    • Counterspell - no-brainer choice.
    • Scorching Ray - your bread-and-butter single target damage spell, and your means to raise your DC
    • Misty Step - don't underestimate utility of mobility
    • Magic Missile - for yeeting, pushing, and against one particular Act 3 boss.
    ควรเลือก (แต่ได้ไม่ครบนะครับ ลองเลือกที่ชอบเอา)
    • Haste - จริงๆใช้ Haste Spore เซฟกว่าครับ บน honour mode เลือกนี่อาจจะไม่คุ้มมาก
    • Shield - ใช้ตอนแรกๆดีครับ แต่ท้ายๆเวทย์โจมตีอาจมีประโยชน์กว่า
    • Fireball
    • Lightning Bolt
    • Witch Bolt
    • Hypnotic Pattern
  • Metamagic แนะนำอย่างยิ่ง
    • Twinned Spell
    • Quickened Spell
    เลือกได้อย่างเดียวจาก 2 อย่างนี้
    • Careful Spell - Hypnotic Pattern
    • Extend Spell - Command

อุปกรณ์
เบอร์ 4 อัพเวลตามภาพ
  • เลเวล 1
  • เลเวล 2
  • เลเวล 3
  • เลเวล 4
  • เลเวล 5
  • เลเวล 6
  • เลเวล 7
  • เลเวล 8
  • เลเวล 9
  • เลเวล 10
  • เลเวล 11
  • เลเวล 12
Act 1
  • โดยรวมไฟท์ Act 1 นี้ เราอ่อนแอกว่าศัตรูครับ
  • หาวิธีทำให้ได้ surprise round, ใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อม สำคัญมากสำหรับระดับยากๆ (tactician-honour) ขึ้นไปครับ
  • แต่หลังจากออกจาก Wilderness หรือ Underdark ไป Grymforge หรือ Crèche จะเริ่มผ่อนเรื่อง surprise round ได้ครับ เราจะเริ่มเก่ง สู้ตรงๆได้แล้ว
  • Act 2 แต่ละไฟท์จะเริ่มมีกิมมิค แต่ Act 1 นี่กำลังล้วนๆครับ คิดเรื่องเพิ่มกำลังตัวเอง และหาวิธีชดเชยจำนวนกับกำลังของศัตรู กรณีที่เสียเปรียบ จังหวะเข้าทำสำคัญสุดใน Act 1 นี้ครับ
ไอเทมที่ใช้ใน Act 1
เลเวล 3
โดยรวมๆเวลนี้ สายระมัดระวังที่เล่น honour เขาไม่สู้กันครับ เดินสำรวจ เอา xp แปลงร่างเป็น gith แล้วเดินไปสะพานที่มี gith (ห้ามเอาเลเซลไปด้วย) แล้วทอยหลอกให้ผ่านทีเดียว ก็ได้ xp มาเติมเยอะเลยครับ
เลเวล 4
  • สมาชิกตี้ได้ feat ทุกคน ช่วยยกระดับพลัง โอกาสตีโดน
  • นักธนูเวทย์ ยังยิงเปล่าๆไม่ใช้ท่าเป็นส่วนใหญ่อยู่ เพราะท่าจะเติม mana ตอน short rest เท่านั้น
  • จังหวะนี้พึ่ง นักรบ กับ เสือ เป็นหลักครับ มีสกิลสู้เก่ง ที่เติมตอน short rest แล้ว
  • เวทย์ Silence[bg3.wiki] ใช้กับ harpies และป้า Ethel ได้ครับ
  • ควรไปเอา Gold Wyrmling Staff[bg3.wiki] เพื่อให้เจ้าแห่งพายุเพลิง สามารถใช้เวทย์ Fire Bolt ในตอนนี้ได้ครับ (ต่อให้ตัวนี้เป็น Shadowheart ก็ต้องเอาครับ มันคนละตัวกับที่มีติดตัวมา ต้องใช้ตัวจากไม้เท้านี่ ใช้ Wis ร่าย ถึงจะร่ายโดนครับ)

ไฟท์แนะนำที่เลเวล 4 4
  • Owlbear (ผ่าน dialog check แทนสู้ก็ได้)
  • Anders (Paladins ที่ล่า Karlach อยู่)
  • Lump (Ogre 3 ช่า)
  • Mud Mephits
  • Kagha กับ Shadow Druids (ไม่ต้องสู้ Kagha ก็ได้ ถ้าอยากได้สร้อยไปดักตีทีหลังหลังจบเควส goblin)
  • Harpies (ต้องใช้ Silence หรือ Calm Emotion)
  • Goblin Camp ด้านนอกตึก - จัดการพวกที่หลับอยู่ข้างบนก่อน แล้วแอบซุ่มยิงพวกข้างล่างให้ได้มากที่สุดก่อนจะเข้า combat ใครเล่นนอก honour mode จะลองวางยาพิษก็ได้ (โหมด honour วางยาพิษเสี่ยงเกินไป ไม่แนะนำครับ)
  • Pristess Gut - คุยให้ไปหาที่ห้อง กดซ่อน แล้ว Silence ครอบ
  • Minotaurs
  • Ethel's Red Caps
เวล 4 ไหว แต่จังหวะเข้าทำต้องเป๊ะ ไม่งั้นรอเวล 5 ง่ายขึ้นเยอะครับ
  • Spider Matriarch
  • Minthara
  • Dror Ragzlin
  • Flind (Gnolls at the cave)
  • Gekh Coal (Duergars at the beach)
ตัวอย่างไฟท์เลเวล 4
ตัวอย่างจะไม่ใช้อุปกรณ์เสริมกับพลังหนอน เพื่อแสดงให้ดูว่าแต่บิลด์ก็เหลือเฟือครับ ถ้าเล่นเองอยากใช้ก็ใช้ได้ครับ ตัวอย่างเป็น honour mode ครับ
  • 0:00 - Owlbear
  • 2:38 - Anders (Paladins of Tyr)
  • 6:54 - Lump (3 Ogres)
  • 10:56 - Mud Mephits and Wood Woads at the swamp
  • 17:20 - Kagha and Shadow Druids
  • 25:21 - Harpies (save Mirkon)
  • 29:55 - Phase Spider Matriarch
  • 36:55 - Priestess Gut
  • 37:48 - Minotaurs in the Underdark
เลเวล 5
  • เลเวล 5
    • นักธนูเวทย์ ใช้ท่าได้บ่อยขึ้นแล้วครับ เพราะเติมตอน short rest
    • นักรบ กับ เสือ ตีได้ 2 ครั้ง
    • Cantrips เพิ่มดาเมจ x2 เจ้าพายุเพลิง ใช้เวทย์ยิงไฟได้แรงขึ้นครับ
    • Boots of Stormy Clamour[bg3.wiki] ไปเอาซะครับ แล้วยกให้เสือ Tiger เพื่อให้ตีติด Reverberation[bg3.wiki] ตอนใช้ Tiger's Bloodlust[bg3.wiki] ตอน rage ครับ.
  • Crèche[bg3.wiki]
    • นักธนูเวทย์ ไปเอา Gloves of Dexterity[bg3.wiki] แล้วรีคลาสเปลี่ยน stat และเลือก Sharpshooter ครับ โอกาาสยิงโดนจะต่ำมาก แต่สามารถใช้เวทย์ Hold Person[bg3.wiki] กับ Glyph of Warding Sleep[bg3.wiki] ช่วยให้ตีติด critical ได้
    • เก็บ Gloves of Belligerent Skies[bg3.wiki] กับ Holy Lance Helm[bg3.wiki] เพื่อใช้ Radiating Orb[bg3.wiki] กับ Reverberation[bg3.wiki] reverberation
    • Holy Lance Helm จะใช้ยัน Act 3 เลยครับ.
    • เสือ จะเก่งมากครับที่นี่ ถ้าได้ Morninglord's Radiance[bg3.wiki] มาใช้กับ Luminous Armour[bg3.wiki] จะตีติด Radiating Orb, Reverberation กับ Bleeding[bg3.wiki] พร้อมกันเลย
    • Reverberation กับ Maneuvers[bg3.wiki] สามารถกิน Legendary Resistance ของ Ch'r'ai W'wargaz[bg3.wiki]'s บน honour mode ได้เรียบเลยครับ ทำให้สามารถร่าย Hold Person[bg3.wiki] หรือ Glyph of Warding Sleep[bg3.wiki] ติดได้
  • Adamantine Forge[bg3.wiki]
    • จัดการ Grym[bg3.wiki] โดยทิ้ง Tiger ไว้ขว้างอาวุธขว้างที่สะสมไว้ครับ
    • ยก Grymskull Helm[bg3.wiki] ให้ นักรบ
    • ตี โล่[bg3.wiki], ยกให้ เสือ
    • ตี Splint Mail[bg3.wiki] (เกราะหนัก), ยกให้ เจ้าพายุเพลิง

ไฟท์แนะนำที่เลเวล 5
  • โซนป่าและ Underdark ทั้งหมด
    • โซนป่าและ Underdark ไม่น่ามีไฟท์ไหนยากแล้วครับ ยกเว้น goblin camp ถ้าตั้งใจสู้ทั้งค่ายพร้อมกัน
    • Dror Ragzlin เพิ่งได้ legendary action ในแพทช์ 6 แต่ไม่มีอะไรครับ รุม Dror ให้ตายก่อน อย่าเพิ่งตีตัวอื่น ซึ่งเป็นแท็คติกที่ถูกต้องแต่แรกแล้ว
  • Crèche กับ Grymforge ก็ทำได้หมดเลยครับ
    • วิธีปราบ Inquisitor W'wargaz บน honour mode คือเก็บ Legendary Resistance ให้เกลี้ยง ด้วย Reverberation จากท่าตี เสือ และท่า Maneuver ของ นักรบ เพื่อให้ เจ้าพายุ ร่าย Glyph of Warding Sleep ติดได้ครับ แล้วให้ นักธนูเวทย์ ยิง Sharpshooter Flourish คริจุกๆ โดยก่อนสู้ให้ยกธนู Bow of Awareness ให้ เสือ ครับ เพื่อจัด initiative ให้ เจ้าพายุ ได้เทิร์นหลังเพื่อนแบบชัวร์ๆ
    • Kith'rak Therezzyn สามารถเปิดด้วย surprise จากด้านหลังได้ครับ หลังจากสู้ W'wargaz ให้วาร์ปไปตลบหลังเอาครับ
    • honour mode Nere ให้ใช้ Hold Person ครับ ห้ามตีตอน Nere ใช้ Legendary Action ได้เด็ดขาด ส่วนโหมดอื่นฟรีสไตล์ครับ
  • ควรไป Crèche ก่อน Grymforge ไปเอา Gloves of Dexterity กับ Holy Lance Helm ก่อนเฉยๆก็ยังดี
ตัวอย่างไฟท์เลเวล 5.
ตัวอย่างจะไม่ใช้อุปกรณ์เสริมกับพลังหนอน เพื่อแสดงให้ดูว่าแต่บิลด์ก็เหลือเฟือครับ ถ้าเล่นเองอยากใช้ก็ใช้ได้ครับ ตัวอย่างเป็น honour mode ครับ
  • โซนป่า Underdark
    • 0:00 - Gekh Coal (ทำพลาด เลยปล่อยให้เรียก undead มาเพิ่ม แต่ก็ดีพี่เสือได้ปล่อยพลัง)
    • 9:38 - Minthara
    • 11:24 - Dror Ragzlin
    • 17:00 - Flind (Gnolls at the cave)
    • 23:31 - Auntie Ethel
    • 26:12 - Spectator
    • 27:33 - Bulette

  • Mountain Pass, Crèche, and Grymforge
    • 0:00 - Crèche Inquisitor Ch'r'ai W'wargaz
    • 9:10 - Crèche Captain Kith'rak Therezzyn
    • 13:00 - Crèche Infirmary
    • 16:49 - Nere and Grymforge Duergars
    • 26:10 - Grym
    • 31:30 - Death Shepherds at the Mountain Pass
Act 2
  • โดยรวมไฟท์ Act 2 จะต่างกับ Act 1
    • ตี้เราจะเริ่มมีกำลังมากกว่าฝ่ายศัตรู
    • แต่แต่ละไฟท์จะมีกิมมิคต่างๆมาให้แก้แทนครับ เช่น
      • บอสบางตัวอาวุธตีไม่เข้า ต้องใช้ดาเมจธาตุตีไป 3 รอบเทิร์น ถึงจะใช้อาวุธตีได้
      • บอสบางตัว ไม่ระวัง ทำเรากลายเป็นทอง ตายเลยครับ
      • บอสบางตัว โยนระเบิดแรงมาก ฆ่าเรายกตี้ได้ในเทิร์นเดียว
      • บางไฟท์เราต้องปกป้องคนอื่น ไม่ใช่ตัวเอง
  • ตอนนี้จะไม่เน้นให้ได้ surprise round แล้วครับ แต่เป็นการเน้นแก้กิมมิคเหล่านี้แทน
ไอเทม Act 2
เลเวล 6
  • นักธนูเวทย์ ได้ extra attack ยิงได้โหดขึ้น
  • นักรบ ได้ Sharpshooter ยิงโหดขึ้นเหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาโอกาสโดนสูง
  • เสือ ควรค่อยๆเปลี่ยนอาวุธจากดาบยักษ์ ไปเป็น Blood of Lathander[bg3.wiki] สำหรับ Act 2 ซึ่งจะทำดาเมจลดลง แต่ทำให้ตีศัตรู Act 2 เกือบทั้งหมดได้แบบติด advantage ครับ, นักธนูเวทย์ กับ นักรบ ที่ใช้ Sharpshooter จะเพิ่มโอกาสยิงโดนมหาศาลเลยครับ
  • เสือ ที่ตีเลือดออก จะไม่มีประโยชน์ใน Act 2 แต่ให้ไปเก็บ Callous Glow ring[bg3.wiki] มาให้ เสือ แทนครับ จะกลายเป็นสายคอนโทรลแทนสายดาเมจครับ
  • เจ้าแห่งพายุ ได้สกิล Thunderbolt Strike[bg3.wiki] ช่วยผลักศัตรูที่โดนดาเมจสายฟ้าหรือเสียง ซึ่งสกิลนี้ใช้ปราบ Yurgir ด้วยตี้เลเวล 6 ได้ครับ
  • เจ้าแห่งพายุ ได้ Channel Divinity 2 อัน ใช้ turn undead ได้บ่อยขึ้นครับ

ไฟท์แนะนำที่เลเวล 6
  • เก็บ Act 1 เท่าที่อยากเก็บให้หมด
  • ตอนนี้สามารถเก็บได้ทั่ว Act 2 ก่อนลงสระน้ำที่ Shadowfell เลยครับ
    • Marcus ให้ยิงผีก่อนนะครับ พวกนั้นตีติด paralyze ถ้า Marcus ตัวเดียวไม่อันตรายครับ
    • Kar'niss ลองร่าย Silence คุมพื้นที่ได้ครับ แมงมุมจะพยายามอยู่นอกโดมเพื่อร่าย Sanctuary ใช้ Sharpshooter 2 ตัวยิงไม่นานครับ ถ้าเลือดเหลือน้อยแต่ติด Sanctuary อยู่ ใช้ Tiger's Bloodlust[bg3.wiki] ตีโดนได้
    • Gerringothe Thorm, อย่าลืมโยนเงินทิ้งให้หมดก่อน (ผมลืม), และใน honour mode ห้ามอยู่ใกล้ตอนตีกะโหลกตายครับ ตอนกะโหลกตาย ฝ่ายเราที่อยู่ใกล้ป้าเกินไป จะโดนสาปเป็นทองครับ
    • Thisobald Thorm นี่คือบอสที่ตีด้วยอาวุธไม่เข้า ต้องใช้ดาเมจธาตุครับ แนะนำดาเมจกรด (Acid) จากแหวน Caustic Band[bg3.wiki] เพื่อให้ท่าโจมตีของบอสไม่แรงมาก ทำตามนี้รอ 3 เทิร์น จะตีอาวุธเข้าแบบ x2 ได้จังหวะแล้วรุมตีรัวๆให้ตายเทิร์นเดียวครับ
    • Malus Thorm ระวังท่ากรีดร้องให้งงของพยาบาลครับ ตัว Malus เองไม่มีอะไร ถ้าวัดระดับพลัง ตี้นี้เอาอยู่
    • Halsin Portal ใช้ Sleet Storm[bg3.wiki] ทางฝั่งป่า จะป้องกันทางนั้นอยู่หมัดครับ (เอาชัวร์ให้นักธนูเวทย์ใส่ fog cloud ไปกันลูกธนูซ้ำอีกชั้นก็ได้) แล้วรุมตีพวกเงาฝั่งตรงข้ามก็พอ ตอนกากับหนวดมา ให้ใช้ Sunbeam[bg3.wiki] จาก Blood of Lathander[bg3.wiki] หรือ Magic Missile ช่วยได้ครับ
    • Oliver honour mode ตอนเราตีเพื่อน Oliver ตาย เป็นตัวแรกของรอบ Oliver จะสร้างโดม Silence แบบมีดาเมจขึ้นมาครับ ต้องระวังการยืนตำแหน่ง และลำดับการตี ใช้เวทย์ Plant Growth วางไว้ให้เพื่อน Oliver เดินไม่ถึงเรา เราจะได้ไม่เสียพื้นที่ให้โดม Silence มากเกินไปครับ
    • Yurgir ไหวครับ เวล 6 ใช้ท่า Thunderbolt Strike[bg3.wiki] ของ เจ้าพายุ ใช้ร่าย Magic Missile จาก Psychic Spark[bg3.wiki] โดยถือไม้เท้า Spellsparkler[bg3.wiki] ผลัก Yurgir ตกจะทำให้ Yurgir เสียเทิร์นแรกไปครับ จากนั้นธนู Sharpshooter รุมให้ตายเทิร์นแรกได้เลย ส่วน Merregon ให้ยกให้ เสือ ที่ใส่ Holy Lance Helm, Luminous Armour, Boots of Stormy Clamour, และ Callous Glow Ring. เสือคนเดียวจัดการได้ทั้งกองทัพครับ
    • Balthazar ควรจัดการซะในห้องแล็บ ถ้าปล่อยให้ยืดเยื้อไปเทิร์น 2 Balthazar จะร่าย Cloudkill[bg3.wiki] ฉะนั้นเก็บซะก่อน ถ้าเก็บไม่สำเร็จ พยายามยืนห่างๆกันไว้

ตัวอย่างไฟท์เลเวล 6.
ตัวอย่างจะไม่ใช้อุปกรณ์เสริมกับพลังหนอน เพื่อแสดงให้ดูว่าแต่บิลด์ก็เหลือเฟือครับ ถ้าเล่นเองอยากใช้ก็ใช้ได้ครับ ตัวอย่างเป็น honour mode ครับ
ผมแบ่งไฟท์เป็น 2 วันในเกม ซึ่งวิธีเรียงและแบ่งวัน ผมเลือกตามใจครับ ไม่ได้มีลำดับพิเศษอะไร
  • Day 1
    • 0:00 - Marcus
    • 6:39 - Kar'niss
    • 15:57 - Yurgir + Merregons
    • 28:54 - Malus Thorm

  • Day 2
    • 0:00 - Halsin Portal
    • 11:16 - Oliver
    • 19:29 - Balthazar
    • 23:35 - Thisobald Thorm
    • 31:34 - Gerringothe Thorm
เลเวล 7
  • นักรบ ได้ท่า Maneuvers เพิ่ม
  • เจ้าพายุ ได้เลเวล Sorcerer และเริ่มใช้ Magic Missile กับ Fire Bolt (จากคลาส) ได้ครับ

ไฟท์แนะนำสำหรับเลเวล 7
  • Act 1 หรือ 2 ได้หมดเลยครับ
  • บุก Moonrise
    • มีหลายท่าครับ จะชีสโดยการแอบเก็บหมดฐานก่อนเลยก็ได้ แต่วิธีที่เราใช้คือ
    • Sleet Storm เพื่อชะลอการปะทะครับ เพราะพวก Moonrise เก่งกว่า Harper
    • พอเดินไม่ถึงกัน นักธนู 2 ตัวฝั่งเราก็ยิงแหลก โดยมี เสือ ใส่ Hoarfrost boots วิ่งลุยน้ำแข็ง ดึงความสนใจ แทงค์ได้หมดเลย
    • ระวัง Z'rell อย่าให้ได้ทำอะไร เก็บก่อนเลยครับ
  • ไฟท์ดาดฟ้ากับ Ketheric Thorm
    • เกราะ Ketheric มีดาเมจ -2 ฉะนั้นพวก Callous Glow Ring, Caustic Band จะไม่มีประโยชน์ครับ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้
    • ถ้าโดนติดกลัว ให้ร่าย Calm Emotion (อย่าลืมเตรียมไว้)

ตัวอย่างไฟท์เลเวล 7.
ตัวอย่างจะไม่ใช้อุปกรณ์เสริมกับพลังหนอน เพื่อแสดงให้ดูว่าแต่บิลด์ก็เหลือเฟือครับ ถ้าเล่นเองอยากใช้ก็ใช้ได้ครับ ตัวอย่างเป็น honour mode ครับ
  • 0:00 - บุก Moonrise Tower (ไม่แอบเก็บใครก่อนทั้งนั้นครับ มีเท่าไหร่มากันให้หมด)
  • 18:26 - ไฟท์ดาดฟ้ากับ Ketheric Thorm
เลเวล 8
  • นักธนูเวทย์ ได้เลเวล wizard ครับ แทบทำให้สามารถหยิบเวทย์อะไรมาใช้เฉพาะกิจก็ได้
  • นักรบ จะได้ feat ที่ 3 ซึ่งเลือก Sentinel รอ Act 3 หรือเลือก ASI ไปก่อน ตามใจครับ
  • เสือ อัพเกรดเป็น เสือทะยาน กด dash (วิ่ง) เป็น bonus action ได้ พร้อมๆกับที่ได้เลือด temp HP ฟรีด้วยครับ

ไฟท์แนะนำสำหรับเลเวล 8
  • Act 1 หรือ 2 ได้หมดไม่เกี่ยงแล้วครับ
  • Ketheric-Myrkul
    • ตี้นี้จะทำดาเมจ Myrkul ได้ช้าหน่อย เพราะเน้นอาวุธยิง
    • แต่ยังไงก็ตาม ใช้ Fog Cloud[bg3.wiki] ตอน Myrkul มา ชนะ 100% ครับ Myrkul ตาบอด สู้ตี้เราไม่ได้หรอก ต่างกันคือเราจะตีลงเร็วแค่ไหนเท่านั้นครับ
    • นอกจาก เสือ แล้ว นักธนูเวทย์ สามารถใช้ Expeditious Retreat[bg3.wiki] เพื่อใช้ bonus action Dash ได้ครับ จะได้ปล่อย Aylin ตั้งแต่เทิร์นแรก
    • นักธนูเวทย์ ใช้ Conjure Minor Elemental[bg3.wiki] ได้ครับ ให้เลือก Mud Mephits มาช่วยตี Necromites กับ Involucres (พวกตัวกระดูก)
    • Animate Dead[bg3.wiki] ก็ใช้ได้ เรียกตัวยิงธนูมาช่วยยิง Myrkul เพื่อดึง Legendary Actionไป
    • Tiger ใช้ bonus action Dash เติม temp HP เวลาแทงค์ได้ครับ.
    • Channel Divinity ของเจ้าพายุเพลิง ใช้ดันดาเมจสายฟ้าให้ขึ้นสูงสุดได้ครับ โดยร่าย Create Water[bg3.wiki] เตรียมก่อน ท่านี้เป็นท่าดาเมจสูงสุดที่เราใช้ได้ครับ
ตัวอย่างไฟท์เลเวล 8.
ตัวอย่างจะไม่ใช้อุปกรณ์เสริมกับพลังหนอน เพื่อแสดงให้ดูว่าแต่บิลด์ก็เหลือเฟือครับ ถ้าเล่นเองอยากใช้ก็ใช้ได้ครับ ตัวอย่างเป็น honour mode ครับ
  • 0:00 - Necrotic Laboratory in Illithid Colony
  • 12:12 - Ketheric + Myrkul fight preparation
  • 13:54 - Ketheric Thorm
  • 24:51 - Myrkul
    • เราให้ เจ้าพายุเพลิง เติม Arcane Acuity โดยยิง Fire Bolt คู่ ใส่เป้าที่ยิงโดนง่ายๆ มาตั้งแต่ต้นไฟท์ครับ โอกาสยิง Witch Bolt โดนเลยสูง ใครใช้พลังหนอน กดบังคับคริไปเลยครับ ดาเมจ x4 (x2 จากน้ำ กับ x2 จากคริ)
Act 3
Act 3 นี่ท้ายสุดละครับ เราจะค่อยๆเปลี่ยนของเป็นของชุดท้ายสุด ส่วนตัวผมจะเล็งเก็บของสำคัญก่อนเลยครับ เพราะอยากให้เป็นร่างสุดท้ายเร็วๆ มีของหลายอย่างที่เอามาได้โดยไม่ต้องสู้ ถ้ารวยหรือขโมยเก่งพอ
  • ไฟท์ Act 3 นี่มีครบทุกรสชาติครับ แต่มีจุดหนึ่งที่เหมือนกัน ซึ่งต่างกับ 2 Act แรก คือ
    • ศัตรู Act นี้จะเหมือนถือดาบใหญ่มาไล่ฟาดอย่างบ้าคลั่งอย่างเดียวเลยครับ คืออันตราย และพลังโจมตีสูงมาก
    • ซึ่งตรงข้ามกับตัวอย่างบอส Act 2 อย่าง Myrkul เลย ตัว Myrkul ทำอะไรเราแทบไม่ได้ แต่เราก็ต้องตีเขานานเหมือนกันกว่าจะเอาลง
    • Act 3 นี่ศัตรูจะรุกเข้าใส่เราทุกไฟท์ครับ
      • ก็เลยเกิดสไตล์การเล่นที่เรียกว่า nova หรือ burst ดาเมจเทิร์นแรกอย่างเดียว เพื่อตีบอสให้ตายก่อนบอสได้ตีกลับ ซึ่ง demo ของเราจะไม่ใช้อุปกรณ์เสริม จะทำแบบนี้ได้จำกัดกว่าครับ ณ จุดนี้อุปกรณ์เสริมทั้งหลาย ใช้แล้วโหดมาก โหดไปไหนไม่รู้จนไม่ต้องเล่นแล้ว ฉะนั้น demo เราจะไม่ใช้ครับ ไม่งั้นไม่เหลือความท้าทายแล้ว
      • ตี้นี้มี burst ในระดับหนึ่งนะครับ ซึ่งตี้ที่ไม่มีเลยก็เล่นได้ แต่ยากกว่ามาก
  • Act 3 นี่บางไฟท์กำลังเราจะกลับมาสู้ศัตรูไม่ได้ละครับ ถ้าเราปล่อยให้ศัตรูอยู่รอดจนได้ปล่อยพลังนะ ที่ชัดเจนสุดคือไฟท์มังกรลับ Ansur ปล่อยให้ปล่อยพลังได้นี่เราจะเจ็บมาก ปล่อยหลายๆที ตี้เทวดาที่ไหนก็ไม่รอดทั้งนั้น
  • บางไฟท์คือแทบจะกิมมิค 100% เลย คือไม่แก้กิมมิคนี่แพ้ชัวร์ 100% เช่น ไฟท์ Orin ถ้ายังมี 'เกราะ' อยู่นี่ ทำอะไรนางไม่ได้ทั้งนั้นครับ โดนนางตีเอาๆฝ่ายเดียว จะกำจัดเกราะต้องใช้เครื่องมือจำเพาะบางอย่างเท่านั้น

ไอเทม Act 3 ดูที่บิลด์หลักของแต่ละตัวได้เลยครับ
เลเวล 9
  • Level 9
    • นักธนูเวทย์เห็ดรา ได้ซับคลาส Spore ทำให้ทั้งยิงแรงขึ้นและใช้เกราะ Sporekeeper ได้ครับ
    • เสือทะยาน ได้ซับคลาส Thief ทำให้กด Dash ได้ 2 ครั้ง หรือจิ้มมือซ้ายได้เยอะขึ้นครับ
    • เจ้าพายุเพลิง ได้ Quickened Spell กับ Scorching Ray, ทำให้เพิ่ม DC ตัวเองได้ด้วย Fire Acuity และร่าย Create Water ให้ตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งเพื่อนครับ
  • Rivington
    • ไปเอา Band of the Mystic Scoundrel[bg3.wiki] จากสวนสัตว์ ซึ่งทำให้ นักธนูเวทย์เห็ดรา จะร่าย CC กับยิงได้ในเทิร์นเดียวกันแล้วครับ
    • ไปเอา Cloak of Displacement[bg3.wiki], Gauntlets of the Warmaster[bg3.wiki], กับ Hellrider Longbow[bg3.wiki].
    • ถ้ายอมทำอะไรผิดลำดับหน่อย ไปหยิบ Helm of Balduran[bg3.wiki] จากห้องมังกรลับได้เลยครับ อย่าเพิ่งเผลอไปกดโดนศพมังกรเข้านะครับ
  • Lower City
    • Armour of Agility[bg3.wiki] / Armour of Sporekeeper[bg3.wiki] คือเกราะท้ายเกมของนักธนูเวทย์เห็ดรา ใช้เพิ่ม DC หรือร่าย Haste Spore[bg3.wiki]
    • Markoheshkir[bg3.wiki] ให้ เจ้าพายุเพลิง ร่ายเวทย์ nuke ธาตุอะไรก็ได้ครับ แต่ก่อนเลเวล 10 เน้นใช้ไฟฟ้าไปก่อน เพราะยังถือไม้เท้าได้แค่อันเดียว
    • ซื้อ Armour of Persistence[bg3.wiki] เป็นตัวเลือกให้ เจ้าอายุเพลิงครับ หรือรอ Helldusk Armour[bg3.wiki] จากราฟาก็ได้
    • ไปหยิบ Amulet of the Devout[bg3.wiki], Mask of Soul Perception[bg3.wiki], Legacy of the Masters[bg3.wiki], Hood of the Weave[bg3.wiki], กับ Cloak of the Weave[bg3.wiki].
  • Murder Tribunal
    • ควรมาที่นี่เป็นที่แรกๆก่อนไฟท์บอสใดๆครับ เพื่อซื้อ Bhaalist Armour[bg3.wiki] ให้ นักรบพลังนักฆ่า ออนไลน์มา 90%
    • มีด Dolor ซื้อให้ เสือทะยาน ใช้ไปพลางๆ รอปราบ Orin ครับ
    • ธนู Vicious Shortbow ด้วยครับ
  • Ethel Act 3
    • เอากระบี่ Duelist's Prerogative[bg3.wiki] ให้ นักรบพลังนักฆ่า จากเควส Save Lora ครับ
    • และได้ Fey Semblance Amulet[bg3.wiki] จาก Mayrina ด้วยครับ

ไฟท์แนะนำสำหรับเลเวล 9
  • ถ้ายังอยู่ Act 2 รีบๆ จบ Act ได้ครับ
  • เควสย่อยต้นๆ Act 3
  • Dolor
  • Sarevok Anchev ระดับง่ายๆจะร่าย Hold Person ติดได้ง่ายๆครับ ระดับยากขึ้นต้องผ่าน Legendary Resistance ให้ระวัง Amelyssan ที่ร่าย Sanctuary[bg3.wiki] ให้เก็บตัวนี้ก่อนได้ครับ ส่วน Illasera จะใช้ Counterspell[bg3.wiki] คอยขัดขาเรา แต่ห้ามเก็บตัวนี้ก่อนครับ ไม่งั้น Sarevok จะ Hold ไม่ติด ให้ใช้วิธีล่อ opportunity attack ให้ใช้ reaction มาตีเราแทนครับ และระดับยากๆให้ นักรบพลังนักฆ่า ทำ Mental Fatigue ใส่ Sarevok เพื่อให้เวทย์ Hold ติดง่ายขึ้นครับ
  • Auntie Ethel ง่ายครับถ้าเข้าใจไฟท์ คือเวทย์ป้าจะแรงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งมีเห็ดน้อยลง ฉะนั้นตอนแรกๆให้เถลไถลได้ ให้ยิงเห็ดไกลๆก่อน พอเหลือเห็ดเดียวให้ยิงให้หมดภายในเทิร์นเดียว และอย่าให้ป้าได้มีโอกาสทำอะไรหลังจากเห็ดหมดครับ ป้าต้องตายเทิร์นนั้นครับ ไม่งั้นเวทย์ป้าจะโหดมากครับ
  • Lorroakan ง่ายมากถ้าใส่ Gauntlets of the Warmaster[bg3.wiki] แล้ว Trip Attack เพราะสกิลโกงหลักของ Lorroakan คือ Elemental Retort[bg3.wiki] ถ้าล้มแล้วจะใช้ไม่ได้ครับ

ตัวอย่างไฟท์เลเวล 9.
ตัวอย่างจะไม่ใช้อุปกรณ์เสริมกับพลังหนอน เพื่อแสดงให้ดูว่าแต่บิลด์ก็เหลือเฟือครับ ถ้าเล่นเองอยากใช้ก็ใช้ได้ครับ ตัวอย่างเป็น honour mode ครับ
  • 0:00 - Sarevok Anchev
  • 4:14 - Auntie Ethel Act 3
  • 12:40 - Lorroakan
เลเวล 10
  • Level 10
    • นักธนูเวทย์เห็ดรา ได้ซับคลาส Divination ไว้เปลี่ยนเต๋าศัตรูได้ครับ เต๋าที่เราอยากได้ที่สุดคือเลขต่ำๆ เพราะเราใช้เวทย์ Hold เอาไว้ใช้ให้ศัตรู fail save ครับ
    • เสือทะยาน ได้ +3 initiative
    • เจ้าพายุเพลิง ถือไม้เท้าได้ 2 อันครับ ใช้ Marko เป็นธาตุอื่นนอกจากไฟฟ้าได้แล้ว หรือถ้าใช้ไฟฟ้าก็ถือโล่ลุง Kethetic เหมือนเดิมได้ครับ
  • Orin
    • เสือทะยาน จะได้อาวุธหลักครบครับ
  • Cazador
    • นักธนูเวทย์เห็ดรา จะได้มีดมาเพิ่ม DC กับโอกาสยิงโดน

ไฟท์แนะนำที่เลเวล 10
  • ทุกอย่างที่แนะนำที่เลเวล 9.
  • Orin the Red - ถ้ามาตอนเวล 10 นักรบพลังนักฆ่า จะเทิร์นคนแรกในทีมเราเสมอครับ ฉะนั้นให้ใส่สร้อย Psychic Spark[bg3.wiki] กับหน้าไม้ Ne'er Misser[bg3.wiki] เพื่อใช้ Magic Missile ให้ตายเทิร์นเดียวได้ครับ แต่ยังไงลองเปิดดู initiative ของทีมก่อนครับ บางไฟท์ลำดับการเทิร์นสำคัญมาก ถ้าเล่น honour mode ต้องวางแผนเป๊ะๆครับ ถ้าลำดับเทิร์นมีผล ก็ต้องจัดลำดับให้ได้ตามต้องการ โดยการย้ายไอเทม +initiative ไปมา หรือกิน Elixir of Vigilance ได้
  • Cazador ระวังพวก Ghoul กับ Chatterteeth ครับ นอกนั้นไม่น่ามีอะไรยากแล้ว
  • House of Grief จะสู้ตรงๆหรือถอยล่อก็ได้ทั้ง 2 วิธีครับ

ตัวอย่างไฟท์เลเวล 10. (จะเปิด public ตอนวันจันทร์ 8 กค.)
ตัวอย่างจะไม่ใช้อุปกรณ์เสริมกับพลังหนอน เพื่อแสดงให้ดูว่าแต่บิลด์ก็เหลือเฟือครับ ถ้าเล่นเองอยากใช้ก็ใช้ได้ครับ ตัวอย่างเป็น honour mode ครับ
  • 0:00 - Orin the Red + Bhaal Cultists
  • 8:22 - Cazador Szarr
  • 17:34 - House of Grief
  • 39:23 - Elfsong Tavern Githyankis - อันนี้ผมลองเข้าไปมั่วๆแบบไม่มีแผนใดๆ เพื่อลองวัดระดับพลังตี้กับพวก Gith ให้ดูครับ
เลเวล 11
  • นักรบพลังนักฆ่า ได้ Improved Extra Attack ทำให้ตีได้ 3 ครั้งต่อเทิร์นเป็นฐานครับ
  • เสือทะยาน ได้ feat สุดท้าย
  • เจ้าพายุเพลิง ได้เวทย์เวล 3 ของคลาส Sorcerer

ไฟท์แนะนำที่เลเวล 11.
  • ได้หมดทั้งเกมครับ อย่าเพิ่งขึ้นเรือไปเจอสมองก็พอ
    • Steel Watch Foundry - Wis saving throw สำคัญครับ ให้ใส่ทั้ง Fey Semblance Amulet[bg3.wiki] กับ Amulet of the Harpers[bg3.wiki] ถ้าจำเป็นให้ร่าย Calm Emotion[bg3.wiki] แก้ Dominate Person ได้
    • Steel Watcher Titan - ใช้ Hold Monster[bg3.wiki] แล้วง่ายครับ
    • Gortash ไม่น่ามีอะไร พลังดิบเราสู้ได้ แต่ถ้าได้ Hold Person หรือ Paralyze ด้วย Surgeon's Subjugation Amulet[bg3.wiki] จะยิ่งง่ายขึ้นไปอีก
    • Raphael - ถ้าดู initative ของทีม จะเรียงมาไม่เหมาะให้ตัวตีหนักได้ตีตอนราฟาติดเวทย์ Hold-Monster ครับ ฉะนั้นให้นักธนูเวทย์เห็ดราถอดถุงมือ Gloves of Dexterity[bg3.wiki] ออก เพื่อให้ได้เทิร์นเป็นคนสุดท้าย แล้วจะร่าย Hold Monster ให้นักรบพลังนักฆ่ากับเสือทะยานเก็บราฟาภายในเทิร์นเดียวได้ครับ
    • Ansur เป็นตัวที่ CC แทบไม่ได้ ฉะนั้นให้นักธนูเวทย์เห็ดราใส่เกราะ Sporekeeper แล้วร่าย Haste Spore และถ้าจำเป็นจริงๆ ให้ใช้ Glyph of Warding Sleep[bg3.wiki] บังคับมังกรให้หลับได้ครับ มังกรตัวนี้อันตรายมากถ้าปล่อยให้ชาร์จพลัง แต่ถ้าไม่ปล่อยก็ไม่มีอะไรน่ากลัวครับ

ตัวอย่างไฟท์เลเวล 11. (จะเปิด public ตอนวันเสาร์ 13 กค.)
ตัวอย่างจะไม่ใช้อุปกรณ์เสริมกับพลังหนอน เพื่อแสดงให้ดูว่าแต่บิลด์ก็เหลือเฟือครับ ถ้าเล่นเองอยากใช้ก็ใช้ได้ครับ ตัวอย่างเป็น honour mode ครับ
  • 0:00 - Ansur
  • 3:18 - Steel Watch Foundry Lab
  • 15:43 - Steel Watcher Titan
  • 23:50 - Gortash
  • 29:49 - Raphael
เลเวล 12
  • นักธนูเวทย์เห็ดรา ได้ feat สุดท้ายมาเพิ่ม DC.
  • นักรบสายนักฆ่า ได้ feat สุดท้าย ทำให้ยิงหน้าไม้ระยะเผาขนได้อิสระแล้วครับ
  • Dashing Tiger ได้ดาเมจเพิ่มเวลาคริ
  • Inferno Tempest ยิงเวทย์ไฟได้แรงขึ้น หลักๆจะมีประโยชน์กับ Scorching Ray ครับ

ไฟท์แนะนำที่เลเวล 12
  • ทุกสิ่งอย่างครับ รวมไปถึง
    • ทางไป Netherbrain
      • Upper City Courtyard - เดินไปเรื่อยๆ ชนตรงๆ ได้เลยครับ พลังเราเหลือเฟือ ผมเล่น demo แบบมั่วๆให้เลยว่ามั่วยังไงก็สู้ได้สบายๆ
      • High Hall - เสือทะยาน วิ่งเร็วสุด ฉะนั้นส่งเสือขึ้นไปครับ ผ่านเข้าไปได้ตัวเดียว ที่เหลือจะตามเข้าไปได้เองครับ
    • Netherbrain ไม่มีคำแนะนำใดๆให้นอกจากให้ใส่ให้เต็มสูบครับ ผมเคยเล่นไฟท์นี้แค่ 2 ครั้ง ไม่เชี่ยวชาญใดๆทั้งสิ้น ณ จุดนี้คนเล่นตามไกด์นี้อาจจะบังคับตี้นี้เก่งกว่าผมแล้วก็ได้
ตัวอย่างไฟท์เลเวล 12. (จะเปิด public ตอนวันอังคาร 16 กค.)
ตัวอย่างจะไม่ใช้อุปกรณ์เสริมกับพลังหนอน เพื่อแสดงให้ดูว่าแต่บิลด์ก็เหลือเฟือครับ ถ้าเล่นเองอยากใช้ก็ใช้ได้ครับ ตัวอย่างเป็น honour mode ครับ
ตัวอย่างจะไม่เรียกคนมาช่วยเลยด้วยครับ ใช้พลังของตี้เราอย่างเดียวพอ
  • 0:00 - Upper City Courtyard
  • 23:12 - High Hall
  • 31:27 - Netherbrain