The Witcher 3: Wild Hunt

The Witcher 3: Wild Hunt

Not enough ratings
วิชเชอร์สำนักต่างๆ (Witcher Schools)
By Power Bear
ไกด์นี้จะพูดถึงวิชเชอร์สำนักต่างๆ ทั้งในแง่ความสามารถที่โดดเด่น ประวัติ ความเป็นมา และเรื่องราวที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นพื้นฐานให้กับผู้เล่นได้ดื่มด่ำกับเรื่องราวเบื้องลึก หรือ lore ในโลกวิชเชอร์ เพื่อที่จะได้เอ็นจอยกับเรื่องราวในเกมได้ดียิ่งขึ้น
   
Award
Favorite
Favorited
Unfavorite
วิชเชอร์สำนักต่างๆ (Witcher Schools)
เมื่อครั้งอดีต เหล่ากษัตริย์และผู้วิเศษจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันก่อตั้ง Order of Witchers เพื่อทำการทดลองมนุษย์กลายพันธุ์ สร้างอัศวินนักรบที่มีทักษะด้านเวทมนต์ไว้ใช้สู้รบกับศัตรูที่เก่งกาจ, เหล่าปิศาจ สัตว์ร้าย ต่าง ๆ ที่คุกคามแดนเหนือ แต่ความพยายามดังกล่าวล้มเหลวไม่เป็นท่า เนื่องจากผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เป็นไปตามความคาดหวังของเหล่าผู้วิเศษ ซึ่งมองว่าการมันคือผลผลิตของความล้มเหลว

ในเวลาต่อมา เหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่รอดชีวิตมาได้จึงแยกตัวออกไปสร้างสำนักวิชเชอร์ต่าง ๆ เพื่อฝึกฝน ติดเขี้ยวเล็บให้กับมนุษย์กลายพันธุ์ที่จะถูกฝึกให้กลายเป็นวิชเชอร์ในอนาคต, ในขณะที่แต่ละสำนักนั้นมีความแตกต่างกันในด้านแนวคิดและเทคนิคการฝึกฝน แต่จุดมุ่งหมายร่วมกันของทุกสำนักคือการสร้างเหล่าวิชเชอร์ให้กลายเป็นนักล่ามืออาชีพ ให้มุ่งเน้นความชำนาญในการต่อกรกับสัตว์ร้ายต่าง ๆ ซึ่งต่อมากลายเป็นสายอาชีพที่เรียกว่า มือปราบอสูร (Witchers/Monster slayer)

ที่ตั้งของวิชเชอร์แต่ละสำนักนั้นมักจะตั้งอยู่ในที่สันโดษ ห่างไกลผู้คน สถานที่เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นจากหยาดเหงื่อ และเลือดเนื้อของเด็กนับไม่ถ้วนที่ต้องอดทนอดกลั้นฝึกฝนผ่านพิธีกรรมอันโหดร้ายภายใต้สถานที่แห่งนี้ ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วในช่วงก่อนเข้า ศตวรรษที่ 13 สำนักต่าง ๆ จะถูกมนุษย์บุกทำลายจนเกือบหมดจากความเกลียดชัง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงดิ้นรนปฏิบัติการต่อไปได้ตามยถากรรมจนถึงศตวรรษที่ 14

ตามตำนานวิชเชอร์นั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 6+1 สำนัก ได้แก่
  • สำนักหมาป่า (School of the Wolf)
  • สำนักแมว (School of the Cat)
  • สำนักกริฟฟิน (School of the Griffin)
  • สำนักหมี (School of the Bear)
  • สำนักอสรพิษ (School of the Viper)
  • สำนักมันติคอร์ (School of the Manticore)
  • สำนักเครน (School of the Crane)

ข้อมูลต่างๆอ้างอิงจากเว็บไซต์ Witcher Fandom[witcher.fandom.com], Wikipedia[www.wikipedia.org] และข้อมูลจากนิยายและเกม
สำนักหมาป่า (School of the Wolf)

ตราสัญลักษณ์วิชเชอร์สำนักหมาป่า


  • สถานที่ตั้ง : Kaer Morhen ในเขต Kaedwen

  • รูปแบบการฝึก : ฝึกให้มีความสมดุล เชี่ยวชาญทั้งด้านเพลงดาบและฝึกฝนทักษะการใช้สัญลักษณ์เวทย์ (Sign) อย่างเข้มงวด ศึกษาเรียนรู้จุดอ่อนจุดแข็งของอสูรและสัตว์ร้ายทุกรูปแบบ มีองค์ความรู้ในการปรุงยา ชนิดของสมุนไพร รวมถึงถึงแร่ธาตุต่าง ๆ ทำให้พวกเขาสามารถพลิกแพลงรูปแบบการต่อสู้ให้เข้ากับศัตรูที่กำลังเผชิญหน้าได้อย่างดี

  • ความเป็นมา : ในอดีต วิชเชอร์สำนักหมาป่านั้น เป็นสำนักวิชเชอร์ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของคนทั่วไป ด้วยความมุ่งมั่นในตั้งใจในสายอาชีพด้วยการให้ความสำคัญกับการปราบอสูร พยายามไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนอกเหนือจากสายอาชีพ สำนักหมาป่าจึงถือเป็นวิชเชอร์ที่ผู้คนมากมายให้ความเชื่อถือเป็นมือปราบอสูรชั้นยอดที่สามารถไว้วางใจได้ ตำนานเคยกล่าวว่า ครั้งนึงบ้านเกิดของวิชเชอร์สำนักหมาป่าแห่งนี้เคยเป็นที่พักพิงให้กับอดีตขุนนาง Esteril Thyssen กับ Agnes คู่รักของเขา (ซึ่งต่อมากลายเป็นผู้ปกครองอาณาจักร Kovir and Poviss) ระหว่างซ่อนตัวจาก Videmont กษัตริย์แห่ง Aedirn พ่อของนาง

  • เหตุสังหารหมู่ : ช่วงปลายศตวรรษที่ 12 เกิดเหตุสังหารหมู่ครั้งใหญ่เกิดขึ้น วิชเชอร์ที่อาศัยอยู่ในป้อมปราการถูกสังหารจนสิ้น เหลือแค่สมาชิกที่อยู่ในระหว่างเดินทางซึ่งไม่อาจรู้ชะตากรรม จากข้อมูลกล่าวว่าสาเหตุของการสังหารหมู่ครั้งนี้เกิดขึ้นจากความเกลียดชังของชาวบ้านที่มีต่อพวกกลายพันธุ์ ผู้ก่อเหตุซึ่งประกอบด้วยฝูงชนกลุ่มใหญ่ นำโดยพ่อมดและบาทหลวงจำนวนหนึ่ง ถูกลงทัณฑ์จากการลงมือครั้งนี้ ถึงกระนั้น ป้อมปราการแห่งนี้ก็ไม่สามารถฟื้นฟูกลับไปสู่จุดที่เคยรุ่งเรืองได้อีกเลย

    มีอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งที่วิชเชอร์สำนักหมาป่ากับสำนักแมว ได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์ Kaedwen, ศิษย์สองสำนักมีการแลกเปลี่ยนความรู้ความชำนาญด้านต่าง ๆ แต่ก็ด้วยความไม่วางใจซึ่งกันและกัน จึงมักจะจบด้วยการทะเลาะวิวาทเป็นส่วนใหญ่

    ต่อมา ด้วยอิทธิพลของพ่อมด Astrogarus และ Druid จำนวนหนึ่ง ทำให้กษัตริย์ Radowit II แห่ง Kaedwen เชื่อว่าการฟื้นฟูสำนักวิชเชอร์อาจเป็นภัยต่อราชอาณาจักรในอนาคต ด้วยเล่ห์เหลี่ยมของ Astrogarus จึงสามารถชักชวนให้ Treyse ปรมจารย์สำนักแมวเข้าร่วมแผนการกำจัดสำนักหมาป่าครั้งนี้ การลอบสังหารเกิดขึ้นในระหว่างงานประลองของวิชเชอร์ซึ่งจะถูกจัดขึ้นเป็นครั้งคราว โดย Treyse สั่งให้ลูกศิษย์ภายใต้การควบคุมของเขาซุ่มโจมตีวิชเชอร์สำนักหมาป่าระหว่างการประลอง ทำให้วิชเชอร์สำนักหมาป่าถูกสังหารเกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม วิชเชอร์สำนักแมวก็ถูกกษัตริย์สั่งประหารในเวลาต่อมา

  • สถานการณ์ปัจจุบัน : เด็กคนสุดท้ายที่ถูกฝึกภายใต้ปราการ Kaer Morhen เกิดขึ้นในปี 1230 หลังจากนั้นองค์ความรู้ในกระบวนการกลายพันธุ์และความช่วยเหลือจากเหล่าพ่อมดแม่มดได้หายสาบสูญ

    จนกระทั่งในปี 1260 สมาชิกเก่าแก่ยุคก่อนเหตุการณ์สังหารหมู่คนเดียวที่เหลืออยู่ภายใต้สำนักหมาป่า ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ ปู่ Vesemir, ซึ่งปู่กับพวกลูกหมาไม่กี่ตัวที่เหลือมักจะใช้เวลาช่วงหน้าหนาวร่วมกันภายใต้ปราการ Kaer Morhen ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพวกเขา ในบางครั้งพวกเขายังเปิดรับสมาชิกจากสำนักอื่น ๆ ด้วย เช่น Coën จากสำนักกริฟฟิน แต่สำนักแมว กับสำนักอสรพิษถูกแบน
สำนักแมว (School of the Cat)
ก่อนที่จะพูดถึง วิชเชอร์สำนักแมว ผู้เขียนอยากให้ทุกท่านพยายามลบภาพจำความน่ารักมุ้งมิ้งของแมวหรือน้องเหมียวที่เรามักจะเจอกันในยุคปัจจุบันเสียก่อน เนื่องจากว่า "แมว" ที่เรากำลังจะพูดถึงนั้น ถือเป็นแมวป่าสายพันธุ์ที่มีความโหดเหี้ยม ไร้ปราณี มีลูกศิษย์ลูกหาทั้งผู้ชาย ผู้หญิง รวมถึงเหล่า non-human และเป็นหนึ่งในสำนักที่มีการฝึกให้กลายเป็นมือสังหารไม่ใช่เฉพาะอสูรหรือมอนสเตอร์เท่านั้นแต่รวมถึงมนุษย์ด้วยกันอีกด้วย



ตราสัญลักษณ์วิชเชอร์สำนักแมว


  • สถานที่ตั้ง : เร่ร่อน ไม่ปักหลัก

  • รูปแบบการฝึก : ศิษย์สำนักแมวถูกฝึกให้มีความสมดุลผ่านการเดินบนเชื่อกสูงผ่านผ้าปิดตา เชี่ยวชาญด้านเพลงดาบที่เน้นรูปแบบการเคลื่อนไหวที่คล่องเคล่ว ว่องไว สวมเกราะเบาเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ร่างกายขณะร่ายรำเพลงดาบ โจมตีด้วยความแม่นยำ เน้นการจู่โจมศัตรูในจุดสำคัญ สร้างความเสียหายผ่านบาดแผลในจุดล่อแหลมต่าง ๆ ไม่ว่าจะผ่านคมดาบในระยะใกล้หรือจากหน้าไม้ในระยะไกล

  • ความเป็นมา : ย้อนกลับไปสมัย Order of the Witchers ยังมีการปฏิบัติการอยู่ ได้เกิดเหตุนองเลือดระหว่างวิชเชอร์ด้วยกัน หลังจากนั้นกลุ่มวิชเชอร์ที่มีอุดมการณ์กลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันด้วยแนวคิดที่ว่า จะสรรค์สร้างองค์กรจัดตั้งที่ดีกว่าเดิม จึงได้วางแผนกันหลบหนีจากปราสาท Morgraig ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Order of the Witchers และได้ขโมยกระบวนวิธีการและสารประกอบการกลายพันธุ์ไปด้วย ต่อมาจึงได้แตกสลายไปจัดตั้งเป็นวิชเชอร์สำนักต่าง ๆ

    ต่อมาวิชเชอร์ภายใต้สัญลักษณ์ "แมว" ถูกพบเห็นที่ตั้งสำนักอยู่ที่ปราสาท Stygga แถบเทือกเขา Ebbing ซึ่งนอกจากได้เริ่มมีการปฏิบัติการกลายพันธุ์มนุษย์แล้วยังเริ่มมีการเสาะหาแนวร่วมกับเหล่าผู้ปกครองในพื้นที่ซึ่งถือเป็นการฝักใฝ่การเมืองและขัดกับกฎพื้นฐานของวิชเชอร์ เริ่มมีการส่งศิษย์จากสำนักให้ปฏิบัติงานเป็นสายสืบ หรือมือสังหาร โดยเฉพาะในแถบบ้านหนองเพลี๊ยะ! เอ้ย ไม่ใช่! นั่นมัน Pereplut ........ ('-_-) อย่างไรก็ตามสำนักแมวได้รับการยอมรับนับถือจากชุมชนแถบนั้นนอกจากในฐานะมือปราบอสูรแล้วยังถูกนับถือในฐานะมือปราบโจรอีกด้วย

  • ความแตกแยกและการล่มสลายของปราสาท Stygga : ถึงแม้ว่าความพยายามในการขจัดอารมณ์ ความรู้สึกของมนุษย์กลายพันธุ์ดูจะเป็นไปในแนวทางที่ดีในช่วงแรก ว่ากันว่ามนุษย์กลายพันธุ์คนแรกที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้สำนักแมวนั้นแทบจะไร้ความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งกลายเป็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่งมาก ๆ แต่ดูเหมือนมันจะยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับเหล่าผู้วิเศษที่อยากได้กรรมวิธีที่สามารถ rip-off หรือสลัดทิ้งความรู้สึกจากการสร้างมนุษย์กลายพันธุ์ไปให้หมดสิ้น จึงได้ให้การสนับสนุนการทดลองครั้งนี้กับหัวหน้าสำนักแมว โดยผลผลิตที่ไม่ผ่านมาตรฐาน(ยังหลงเหลือความรู้สึกอยู่)ก็จะถูกเก็บไว้เป็นหนูทดลองในรูปแบบต่าง ๆ ต่อไป

    แต่ดูเหมือนการทดลองอันโหดร้ายทารุน ไร้ซึ่งมนุษยธรรมครั้งนี้จะปฏิบัติการอยู่ได้ไม่นาน เมื่อวันหนึ่ง Gezras หนึ่งในหนูทดลองได้หลบหนีเอาชีวิตรอดออกมาได้โดยที่ไม่มีใครคาดคิดและช่วยปลดปล่อยศิษย์คนอื่น ๆ ที่ถูกทดลองให้เป็นอิสระ จากนั้นจึงพากันหนีไปหลบซ่อนกับกลุ่มเอลฟ์ (Aen Seidhe) ซึ่งให้ที่พักพิงและช่วยเหลือกลุ่มผู้รอดชีวิต

    เพื่อทดแทนบุญคุณครั้งนี้ Gezras กับพวกจึงให้การสนับสนุนเป็นกำลังรบให้แก่กองโจรของเอลฟ์ แต่ดูเหมือนว่าการเข้าร่วมกับเอลฟ์จะทำภาพลักษณ์ของวิชเชอร์สำนักแมวเลวร้ายยิ่งขึ้นอีก และเริ่มสร้างความกังวลให้กับราชวงศ์และเหล่าผู้มีอำนาจ จนกระทั่งถึงจุดที่เหล่าราชวงศ์ได้ตัดสินใจจัดการกับปัญหาของสำนักแมวอย่างจริงจัง โดยได้วางแผนโจมตีปราสาท Stygga โดยที่ไม่ได้ตระหนักว่าแท้จริงแล้วสำนักแมวนั้นยังคงมีปัญหาภายในที่ยังแก้ไม่สร่าง โดยคืนก่อนที่จะมีการบุกโจมตี กลุ่มมือสังหารของ Gezras ได้ลอบเข้าไปในปราสาท และสังหารเหล่าพ่อมดแม่มดที่หลับอยู่ในปราสาทแบบเงียบ ๆ ทำให้พอถึงเวลาที่ปราสาทถูกบุกโจมตี จึงเหลือแค่สมาชิกสำนักเก่าแก่อยู่ไม่กี่คนให้รับมือกับกองกำลังของเหล่าราชวงศ์

    การบุกโจมตีเกิดขึ้นต่อเนื่องถึง 3 วัน ก่อนที่ท้ายที่สุด แมวทุกตัวในปราสาทก็ถูกกำจัดจนหมดสิ้น

  • ขบวนวิชเชอร์ผู้เร่ร่อน : หลังจากเป็นอิสระจากความแค้นและอดีตอันเจ็บปวด, วิชเชอร์ผู้รอดชีวิต หนุนด้วยเหล่าวิชเชอร์ที่ถูกเนรเทศ และกลายพันธุ์แบบผิดแผกจากสำนักอื่น ๆ นำโดย Gezras ร่วมออกเดินทางทอดทิ้งบ้านเกิด Styggan และก่อตั้งขบวนที่เรียกกันว่า Dyn Marv เดินทางเร่ร่อนไม่มีที่ปักหลักเพื่อรับงานจากผู้ว่าจ้างที่พร้อมจ่ายให้แก่ความสามารถของพวกเขา เป็นที่รับรู้กันถึงความโหดร้ายและดุดัน การทดลองผลิตมนุษย์กลายพันธุ์ผ่านกรรมวิธีวิปลาศต่าง ๆ จึงเป็นที่กล่าวขวัญและสร้างความเสื่อมเสียให้เหล่าวิชเชอร์ตลอดมา

    ในช่วงปี 1060 สมาชิกวิชเชอร์สำนักแมวได้มีส่วนช่วยเหลือกองกำลังของ Aelirenn (หรือที่รู้จักกันในนาม Elirena เจ้าของฉายา White Rose of Shaerrawedd) ในการต่อตู้จากการรุกล้ำเขตแดนของมนุษย์ ซึ่งถือเป็นศึกครั้งใหญ่ครั้งสำคัญที่นำไปสู่ความเชื่อที่ว่าจะทำให้เอลฟ์สูญสิ้นเผ่าพันธุ์

  • การร่วมมือกับสำนักหมาป่า :
สำนักกริฟฟิน (School of the Griffin)

ตราสัญลักษณ์วิชเชอร์สำนักกริฟฟิน


  • สถานที่ตั้ง : Kaer Seren

  • รูปแบบการฝึก : รูปแบบการฝึกของสำนักกริฟฟินมีความคล้ายคลึงกับการฝึกอัศวิน โดยจะเน้นทุ่มเทให้กับความมีวินัยซึ่งเป็นแก่นหลักของการฝึกฝน และใช้ความเชี่ยวชาญในการใช้ Sign เพื่อสร้างความได้เปรี่ยบในระหว่างการต่อสู้ สวมเกราะไม่หนักมากเพื่อรักษาสมดุลและเพิ่มความสามารถในการร่ายเวทมนต์แต่ยังคงปัดป้องรอยขีดข่วนจากสัตว์ร้ายต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่

  • ความเป็นมา : เช่นเดียวกับสำนักอื่น ๆ วิชเชอร์ Erland of Larvik ร่วมกับเพื่อนสนิทอีก 13 คนด้วยกัน ผู้ไม่ยอมให้เจตจำนงของวิชเชอร์นั้นสูญสิ้นไป ได้ออกมุ่งหน้าสู่ปราการ Kear Seren ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่พำนักของพ่อมด Alzur กับเพื่อนร่วมงานของเขาใช้ในการทดลองการกลายพันธุ์ของมนุษย์ในช่วงแรก ๆ หลังจากจัดการกับภูติผี และพลังงานเวทมนต์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในปราการ Erland กับพวกจึงเริ่มก่อตั้งสำนักวิชเชอร์ ณ ที่แห่งนี้

    สำนักกริฟฟินนั้นให้คุณค่ากับเจตจำนงดั้งเดิมของวิชเชอร์เป็นอย่างมาก โดยเน้นการฝึกในรูปแบบของอัศวิน ซึ่ง Erland เองได้รับอิทธิพลจากอาจารย์สอนดาบของเขา Taliesin Bleddyn Yorath aep Lywelyn หรือที่พวกเขาชอบเรียกกันว่า กริฟฟอน ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นแรงบัลดาลใจในการตั้งชื่อให้กับสำนักนั่นเอง

    ร่วมกับปรมจารย์ฝ่ายเวทมนต์ในสำนัก พวกเขาปรับรูปแบบการฝึกโดยเน้นให้ความสำคัญกับทักษะการใช้เวทมนต์และความยืดหยุ่นเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังฝึกให้ศิษย์ในสำนักมีคุณสมบัติของผู้ดี มีมารยาท ให้สมกับความเป็นอัศวินนักรบ ทุกคนถูกฝึกให้มีความเคารพและคอยให้ความช่วยเหลือสนับสนุนซึ่งกันและกัน วิชเชอร์จากสำนักกริฟฟินต่างก็ได้รับความเคารพนับถือจากผู้คนจากความเก่งกาจและยึดมั่นในศักดิ์ศรี ครั้งนึง ปรมจารย์ของสำนักเคยถูกเชิญให้เป็นที่ปรึกษาให้กับกษัตริย์เลยทีเดียว

    เช่นเดียวกับสำนักหมีและสำนักหมาป่า กริฟฟินเข้มงวดในความเป็นกลางทางการเมืองอย่างมาก เพราะพวกเขาเชื่อว่าถ้าหากต้องแหกกฎเพียงครั้งเดียวแล้วจะไม่มีทางย้อนกลับไปเหมือนเดิมได้อีกเลย แต่พวกเขาก็ดูจะไม่ได้ติดใจอะไรกับการฆ่ามังกรเหมือนกับวิชเชอร์สำนักอื่น ๆ

    สำนักกริฟฟินเคยเป็นเจ้าของตำราเวทมนต์หายากชื่อ Liber Tenebrarum เป็นระยะเวลาหลายปีที่สำนักกริฟฟินเป็นที่เคารพนับถือจากวิชเชอร์สำนักต่าง ๆ จากฝีไม้ลายมือการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา และความสามารถการใช้เวทย์ขั้นสูงซึ่งสามารถจัดการคู่ต่อสู้ได้ครั้งละหลายเป้าหมาย แต่โชคไม่เข้าข้างเมื่อพวกเขาเริ่มถูกกลุ่มพ่อมดแม่มดเกลียดชังเนื่องจากการไม่ยอมเผยแพร่ ส่งต่อองค์ความรู้ให้พวกตน กลุ่มผู้วิเศษจึงเริ่มรวบรวมสมัครพรรคพวก สร้างความเกลียดชังให้เหล่าวิชเชอร์ จนสุดท้ายจึงคิดแผนสร้างหิมะถล่มสร้างความเสียหายให้ปราการ Kaer Seren เป็นอย่างมากและฆ่าวิชเชอร์สำนักกริฟฟินจากเหตุครั้งนี้ไปหลายราย ซึ่งนี่เองอาจจะเป็นเหตุให้ Coën ต้องลี้ภัยไปพักพิงที่ Kaer Morhen อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง, ถึงแม้สำนักจะถูกทำลาย แต่กริฟฟินก็เป็นสำนักวิชเชอร์ที่โด่งดังเป็นที่เลื่องลือกันอย่างมากในเขตแดนเหนือ

    สำนักกริฟฟิน บางครั้งถูกเรียกขานในชื่อ สำนักอินทรีย์ หรือสำนักกริฟฟอน ซึ่งมีที่ตั้งสำนักอยู่บริเวณเชิงเขาแถบชายหาดของอาณาจักร Kovir and Poviss ซึ่งจากข้อมูลเชื่อว่าหนึ่งในสมาชิกของสำนักถูกสังหารโดยนักล่าฆ่าหัว Leo Bonhart
สำนักหมี (School of the Bear)

ตราสัญลักษณ์วิชเชอร์สำนักหมี


  • สถานที่ตั้ง : Haern Caduch

  • รูปแบบการฝึก : ถูกเลี้ยงดูให้มีความทรหดต่อสภาพอากาศอันเลวร้ายท่ามกลางความหนาวเหน็บบนเทือกเขา Amell ความแข็งแกร่งดุจหินผาของวิชเชอร์สำนักหมี ไม่ได้มาจากการฝึกฝนตามหลักสูตรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังได้มาจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ปราณีจากสถานที่ตั้งสำนักของพวกเขาอีกด้วย มีรายงานว่ามีเด็ก ๆ หนาวตาย หรือพิการจากความหนาว ในทุก ๆ ปี จากการฝึก แสดงให้เห็นถึงความทรหดแข็งแกร่งเหนือกว่าวิชเชอร์สำนักอื่น ๆ พวกเขาเลือกใช้เกราะหนักและให้ความสำคัญกับความแข็งแกร่งเหนือความคล่องตัว มุ่งเน้นเพลงดาบที่หวังผลรวดเร็ว รุนแรง ทำให้มั่นใจว่าทุกการฟาดฟันสามารถที่จะปลิดชีพคู่ต่อสู้ พวกเขายังใช้หน้าไม้ทำให้ศัตรูพิการจากระยะไกลเพื่อเข้าปิดฉากในระยะประชิดอีกด้วย

  • ความเป็นมา : สำนักหมีเป็นวิชเชอร์กลุ่มแรก ๆ ที่เริ่มก่อตั้งสำนัก หลังจากการล่มสลายของ Order of Witchers ซึ่งมีสาเหตุมาจากการห้ำหั่นระหว่างวิชเชอร์ด้วยกัน แต่เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นหากวิชเชอร์ Arnaghad ไม่เอาดาบคู่กายฟันสหายวิชเชอร์ด้วยกันเพียงเพราะ Rhys ได้รับสัญญาว่าจ้างตัดหน้าเขา เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ Rhys ถูก Arnaghad ฟันเข้าอย่างจังโดยไม่ทันตั้งตัว เป็นบาดแผลลึกจากบ่าถึงต้นขา แต่ก็รอดชีวิตมาได้หวุดหวิดเพราะหลังจากนั้น Chort ที่เขาไปรับจ้างมาล่าเข้ามาเบี่ยงเบนความสนใจของ Arnaghad ได้ทัน, ทำให้ Rhys ต้องหนีตายกลับมาที่ Morgraig เพื่อรายงานถึงความเสียสติของสหายร่วมเผ่าพันธุ์ผู้นี้, Arnaghad รู้ดีว่าตัวเองต้องถูก Order of Witchers ตัดสินจากการกระทำครั้งนี้ จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกแล้วเดินทางไปยัง Morgraig จนเป็นเหตุให้มีการนองเลือดเกิดขึ้น การห้ำหั่นครั้งนี้เป็นเหตุให้มีวิชเชอร์ล้มตายเป็นจำนวนมาก, แต่สุดท้าย Order of Witchers ก็เป็นฝ่ายชนะ ทำให้ Arnaghad กับพวกรวมถึง Ivar Evil-Eye จำต้องยอมถอยและกระเสือกกระสนหนีเอาชีวิตรอดไปยังแถบเทือกเขา Amell และตัดสินใจตั้งสำนักในแถบนั้นซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่เดิมของคนแคระและ Gnomes

    หลังจากตั้งสำนักได้ช่วงหนึ่ง Ivar มีความคิดที่จะกำจัด Arnaghad หัวหน้าสำนักไปให้พ้นทาง เนื่องจากเขาไม่ให้ความช่วยเหลือ Ivar ในการตามล่า Wild Hunt ที่ Ivar เห็นในนิมิตร เพราะ Arnaghad นั้นมองว่าวิชเชอร์ควรรับแต่เฉพาะงานล่าอสูรเท่านั้น ไม่ควรตามล่าภูติผีที่หาจับตัวได้ยากและมีพลังอำนาจเกิดคาดหมาย, Ivar กับพวกเกือบสามารถที่จะฆ่า Arnaghad ได้สำเร็จ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถยึดสำนักหมีให้เป็นของตัวเองได้ กลุ่มกบฎจึงได้แยกตัวออกไปตั้งเป็นสำนักอสรพิษซึ่งนำโดย Ivar, กับอีกกลุ่มซึ่งมีการแตกคอกันไปตั้งเป็นสำนัก Manticore นำโดย Iwan

    ในยุคเรื่องอำนาจ วิชเชอร์สำนักหมีมักจะออกเดินทางไปที่หมู่เกาะ Skellige ด้วยเหตุผลทั้งในเรื่องของงานว่าจ้างที่ชุกชุมและด้วยแนวคิดที่คล้ายคลึงกันของพวกเขากับชาวเกาะ อย่างไรก็ตาม จากเหตุการนองเลือดในอดีต ทำให้วิชเชอร์สำนักต่าง ๆ มักจะมองพวกเขาในฐานะเป็นพวกฆ่าพี่ฆ่าน้อง ไม่น่าคบหาสมาคมด้วย

  • การสลายตัวของสำนัก : การล่มสลายของสำนักหมีเกิดขึ้นหลังจาก งานว่าจ้างกำจัดกลุ่มแวมไพร์ไม่สำเร็จ ด้วยความเกลียดชังและโกรธแค้น ชาวบ้านในแถบนั้นจึงผนึกกำลังกันบุกโจมตี Haern Caduch เนื่องจากคิดว่าพวกเขายอมอาศัยอยู่กับพวกปิศาจยังดีกว่าอาศัยอยู่กับวิชเชอร์ ถึงอย่างไรก็ตามเนื่องจากการปลูกฝังที่ไม่ผูกยึดกับสำนักและการปลูกฝังให้พึ่งพาตัวเองมากกว่าอยู่ร่วมกับพี่น้องวิชเชอร์ด้วยกัน สมาชิกสำนักหมีจึงทอดทิ้ง Haern Caduch อย่างไม่ใยดี และได้แต่หวังว่าสักวันนึงคงได้มีโอกาสกลับมาเปิดสำนัก เมื่อวิชเชอร์เป็นที่ต้องการอีกครั้ง
สำนักอสรพิษ (School of the Viper)

ตราสัญลักษณ์วิชเชอร์สำนักอสรพิษ


  • สถานที่ตั้ง : Gorthur Gvaed

  • รูปแบบการฝึก : ชำนาญเพลงดาบที่ดุดัน กวัดแกว่งไปมาคาดเดาได้ยากเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคู่ต่อสู้ มีความชำนาญการใช้มีดคู่เพื่อเข้าจู่โจมศัตรูแบบไม่ทันตั้งตัว ใช้ความความเชื่ยวชาญด้านการเล่นแร่แปรธาตุในการติดน้ำมันชนิดต่าง ๆ ให้อาวุธ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปลิดชีพศัตรูในทุก ๆ บาดแผล, ศิษย์ทุกคนจะได้รับมอบหมายให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงประจำกาย เพื่อสานสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างพวกเขากับสัตว์เลี้ยง เพื่อที่อีกไม่กี่ปีต่อมาพวกเขาจะต้องฆ่าพวกมันอย่างเลือดเย็น ก่อนที่จะสำเร็จการฝึกจากสำนัก

  • ความเป็นมา : สำนักอสรพิษถูกจัดตั้งขึ้นจากสมาชิกของวิชเชอร์สำนักหมีที่ถูกแยกตัวออกมานำโดย Ivar ซึ่งเป็นผู้นำในการก่อกบฎต่ออดีตหัวหน้าสำนักของเขาเอง หลังจากนั้นจึงพลัดถิ่นมาตั้งสำนักอยู่ที่ Gorthur Gvaed บริเวณหุบเขาลึกแถบ Tir Tochair ใต้สุดของแดนเหนือ

    เชื่อกันว่าวัตถุประสงค์การก่อตั้งของสำนักอสรพิษนั้นไม่ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อรับจ้างวานเฉพาะงานล่าอสูรเท่านั้น แต่ยังรับจ้างเป็นมือสังหารทั้งมนุษย์และ non-human อีกด้วย แต่เหตุผลแท้จริงแล้วนั้นเกิดจากผู้นำสำนัก Ivar มีความต้องการที่จะกำจัดปีศาจ Wild Hunt แต่เนื่องจากเขาไม่สามารถทำมันได้ด้วยตัวคนเดียว จึงได้ก่อตั้งสำนักขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

    เนื่องจากเป็นสำนักที่มีความลึกลับ ปกปิด และซ่อนเร้นมากที่สุดในเหล่าวิชเชอร์ สำนักอสรพิษเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีองค์ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับปีศาจ Wild Hunt มากที่สุด, ศิษย์ในสำนักบางคนถึงกับเชื่อว่าการศึกษากลุ่มนักล่าปีศาจกลุ่มนี้เป็นหนึ่งในเจตจำนงหลักของสำนักเลยก็ว่าได้ จึงเป็นเหตุให้ศิษย์จากสำนักอสรพิษทุกคนมักจะกระหายความรู้เกี่ยวกับ Wild Hunt อยู่เป็นนิจ

    หลังจากการชิงอำนาจในจักรวรรดิ Nilfgaard ไม่เป็นผล ทหารนิล์ฟการ์ดจึงได้ทำการบุกทำลายรังของสำนักอสรพิษ ทำให้ศิษย์ในสำนักสลายตัวออกไปยังที่ต่าง ๆ ภายในจักรวรรดิ และยังถูกแบนในพื้นที่หัวเมืองต่าง ๆ

  • ผันตัวเป็นมือสังหารกษัตริย์ : จากเหตุการปะทะกับ Wild Hunt บริเวณ Hanged Man's Tree ศิษย์จากสำนักอสรพิษกลุ่มหนึ่งกับแม่มดผู้ซึ่งสูญเสียความทรงจำ ถูกสายลับของกองกำลัง Nilfgaard จับกุมตัวไว้ ซึ่งต่อมาพวกเขาได้รับข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้จากจักรพรรรดิของนิลฟ์การ์ด ซึ่งสัญญาว่าจะฟื้นฟูสำนักแลกกับการสังหารกษัตริย์แดนเหนือ

    ถึงแม้กลุ่มวิชเชอร์จะสามารถวางแผนสังหารกษัตริย์ Foltest และ Demavand ได้สำเร็จ แต่สุดท้ายก็ถูกจักรพรรดิตั้งค่าหัวเพื่อปิดปากอยู่ดี
สำนักมันติคอร์ (School of the Manticore)

ตราสัญลักษณ์วิชเชอร์สำนักมันติคอร์


  • สถานที่ตั้ง : Behelt Nar, Bialsuf Alsarea

  • รูปแบบการฝึก : เชี่ยวชาญการใช้ดาบและโล่ รูปแบบการต่อสู้คล้ายคลึงกับนักรบ Zerrikania ที่ใช้การร่ายรำอย่างคล่องแคล่วว่องไว เพื่อเชือดเฉือดศัตรูอย่างไม่ลังเล มุ่งเน้นทักษะด้านการป้องกันจากการจู่โจมชนิดต่าง ๆ ศึกษาทักษะการปรุงสูตรยาต่าง ๆ เพื่อเพิ่มขีดจำกัดระหว่างการต่อสู้

  • ความเป็นมา : หลังเหตุก่อกบฎช่วงชิงอำนาจของศิษย์ในสำนัก ซึ่งนำโดย Ivar ซึ่งสุดท้ายล้มเหลวจนทำให้กลุ่มกบฎต้องเร่ร่อน Ivar จึงนำพรรคพวกมุ่งหน้าสู่หุบเขา Tir Tochair เพื่อจัดตั้งสำนักวิชเชอร์แห่งใหม่ขึ้น แต่ดูเหมือนว่า Iwan จะมีความเห็นไม่ตรงกับผู้นำของเขา ในระหว่างเดินทางไปยังหุบเขาดังกล่าว Iwan กับผู้สนับสนุนจึงได้แยกตัวออกมามุ่งหน้าสู่ช่อง Elskerdeg ซึ่งเขามองว่าน่าจะหาผู้จ้างวานได้ง่ายกว่า ช่องทางนี้ติดกับขอบเขตทะเลทรายโคราช เอ้ย! Korath ซึ่งมักจะมีขบวนของชาว Zerrikania ผ่านไปมาบ่อย ๆ ซึ่งภายในระยะเวลาไม่นานนัก Iwan กับสหายวิชเชอร์ของเขาก็เปลี่ยนจากนักล่าอสูรสู่ผู้อารักขามากความสามารถช่วยคุ้มกันขบวนของชาว Zerrikania ให้ไป - กลับระหว่างทะเลทรายได้อย่างปลอดภัย

  • ยุคทอง : อยู่มาวันหนึ่ง Iwan กับพวกเดินทางไปเจอกับขบวนเดินทางของราชวงศ์ Zerrikania ซึ่งกำลังถูกอสูรมันติคอร์จู่โจม, หลังจาก Iwan สังหารอสูรได้สำเร็จจึงทราบว่าขบวนดังกล่าวกำลังเดินทางไป Aretuza ซึ่งในขบวนมีแม่มด Nasira Faizan ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของราชินีแห่ง Zerrikania เดินทางร่วมมาด้วย เมื่อได้เห็นฝีไม้ลายมือของวิชเชอร์ Nasira จึงยื่นข้อเสนอให้ Iwan ทันทีพร้อมทั้งเสนอว่าหากกลุ่มวิชเชอร์สามารถนำขบวนกลับสู่ดินแดน Zerrikania ได้สำเร็จ จะพาไปเข้าเฝ้า ราชินีแห่ง Zerrikania อีกด้วย, Iwan กับพวกตอบรับอย่างไม่ลังเล หลังจากได้เข้าเฝ้าราชินีและรับทราบถึงความสามารถของวิชเชอร์ ราชินีจึงยื่นข้อเสนอให้เป็นทหารอารักขาขบวนทูตและพ่อค้าต่าง ๆ ของราชวงศ์ และถ้าเหตุการณ์เป็นไปด้วยดี นางจะสร้างปราสาทสองริมฝั่งทะเลทรายเพื่อสร้างสำนักวิชเชอร์ให้กับ Iwan, ซึ่งแน่นอนว่าวิชเชอร์ตอบรับ, หลังจากนั้น ปราสาท Behelt Nar ทางทิศตะวันตก และปราสาท Bialsuf Alsarea ทางทิศตะวันออกของทะเลทรายได้ถูกสร้างขึ้น

    เป็นเวลาหลายปีที่ Nasira ได้ร่วมงานกับ Iwan พวกเขาได้ร่วมกันสร้างสูตรกลายพันธุ์ขึ้นมาใหม่ และถึงขนาดทดลองบรรจุสารกลายพันธุ์ให้กับนักรบสาวของ Zerrikania แต่การทดลองก็ยังอยู่ในขั้นที่ไม่สามารถสรุปผลได้ อย่างไรก็ตามก็ยังมีนักรบหลายต่อหลายคนที่ถูกผลิตภายใต้สำนักมันติคอร์แห่งนี้ ซึ่งถูกฝึกฝนเน้นความสามารถในด้านการป้องกันและการใช้สูตรยาชนิดต่าง ๆ, และเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับนักรบพวกเขายังสร้างโล่พืเศษประจำตัวให้แก่นักรบในสำนักซึ่งมีส่วนผสมจากหินอุกาบาตกับแร่เงินอีกด้วย ระหว่างนั้น Iwan ได้เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น Imad Asem และกลายเป็นองครักษ์พิเศษให้กับราชินีแห่ง Zerrikania

  • หายนะ : ในช่วงปี 1146 ราชินีได้จัดขบวนเสด็จเพื่อจัดพิธีอภิเสกสมรสให้แก่ราชโอรสของนางกับเจ้าหญิง Metinna เจ้าขุนมูลนาย ตระกูลสำคัญในราชวงศ์ต่างก็ร่วมทางในขบวนครั้งนี้, วิชเชอร์เกือบทั้งสำนักรวมถึง Imad ในวัยชราก็ตัดสินใจที่จะร่วมขบวนครั้งสำคัญครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ในระหว่างทางก็ได้เกิดเหตุหายนะซึ่งเป็นที่เรียกขานกันว่า "วันแห่งไฟบันลัยกัลป์" (Day of Fire) ก็ได้เกิดขึ้น เมื่อขบวนเสด็จต้องมาปะทะกับ อสูรธาตุไฟ (Fire Elemental) ในระหว่างทาง ถึงแม้ว่าวิชเชอร์เกือบทุกคนจะอยู่ที่นั่นแต่พวกเขาก็ไม่ได้เตรียมการมาพบเจอกับมหันตภัยในระดับนี้ เมื่อการต่อสู้จบลงวิชเชอร์เกือบทั้งหมด, ราชวงศ์กว่าครึ่ง รวมถึงหนึ่งในสามของคนในราชสำนักถูกฆ่า

    จากเหตุการณ์ดังกล่าวราชวงศ์ Zerrikania จึงสาปส่งวิชเชอร์สำนักมันติคอร์ที่เหลือ และเลือกใช้เส้นทางอื่นที่ปลอดภัยแทน, เมื่อไม่ได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์ Zerrikania, สำนักมันติคอร์จึงถึงกาลเสื่อมโทรม