เหตุเกิดในห้วงเดือน พฤษภาคม ปี 1270 ในคืนเทศกาลเฉลิมฉลอง Belleteyn (อ้างอิงจากเทศกาลศาสตร์เซลติกโบราณ), Geralt of Rivia ผู้ซึ่งใครๆต่างเชื่อกันว่าได้เสียชีวิตไปแล้วได้ปรากฎตัวขึ้น ณ ปราการ Kaer Morhen ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเหล่าวิชเชอร์สำนักหมาป่า, Geralt สูญเสียความทรงจำและถูกไล่ล่าจาก Wild Hunt แต่ก็รอดชีวิตมาได้จากความช่วยเหลือของสหายร่วมสำนักและแม่มดสาว Triss Merigold.

ในระหว่างที่ Geralt กำลังฟื้นตัวอยู่นั้น Kear Morhen ถูกบุกรุกจากกลุ่มอาชญากรที่ใช้ชื่อว่า Salamandra ซึ่งนำโดย Azar Javed และ Professor ซึ่งกลุ่มอาชญากรได้ขโมยองค์ความรู้ในกระบวนการกลายพันธุ์ของวิชเชอร์ไปได้

Leo ซึ่งเป็นวิชเชอร์หนุ่ม ศิษย์คนล่าสุดจากสำนักหมาป่าได้จบชีวิตลงในระหว่างการบุกรุกครั้งนี้ หลังจัดพิธีศพให้สหายร่วมสำนักอย่างสมเกียรติ Geralt จึงออกเดินทางหวังล่าตัวผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ครั้งนี้

เหตุเกิดในห้วงเดือน มิถุนายน ปี 1270 เมื่อ Geralt แกะรอย Salamandra มาถึงแถบชานเมือง Vizima ซึ่งเป็นเมืองหลวงของชาวเทเมเรีย(Temeria), และต้องพบเจอกับเรื่องราวสมคบคิดและเหตุการณ์น่าตื่นเต้นมากมาย และยังได้จัดการกับสัตว์ร้ายที่คุกคามชาวบ้านแถวนั้นอยู่เป็นเวลานาน

Triss และแพทย์ฝึกหัด Shani ได้ให้การช่วยเหลือ Geralt ในการตามล่า Salamandra ในระหว่างที่เขาพำนักอยู่ที่ Vizima และในระหว่างนั้นเองเขาก็ได้พบกับ Yaevinn หัวหน้ากองโจรในชื่อ Scoia'tael ซึ่งเป็นกองกำลังของเหล่า non-human, Siegfried of Denesle สมาชิกของ Order of the Flaming Rose รวมไปถึง Thaler ผู้บัญชาการด้านข่าวกรองของ Temeria ในขณะนั้น อีกทั้งยังได้ร่วมงานกับนักสืบ Raymond Maarloeve เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรที่เขาตามล่า

ในห้วงเดือน กรกฏาคม ปี 1270 เมื่อ Azar Javed รับรู้ข่าวว่า Geralt ได้ร่วมงานกับ Raymond Maarloeve จึงใช้ความรู้ด้านการเล่นแร่แปรธาตุและใช้เวทย์แปลงกายสวมรอยเป็น Raymond แต่หลังจากถูก Geralt เปิดโปงได้ Azar Javed จึงบีบให้ Geralt ไปพบเขาในบริเวณบึงแถวชานเมือง Vizima ซึ่ง Azar ได้วางกับดักซุ่มโจมตีวิชเชอร์ในภายหลัง

Geralt ถูกพิษ manticore เล่นงานจากการเผชิญหน้ากับ Azar แต่ก็ได้ Triss มาช่วยชีวิตไว้อีกครั้ง ซึ่งในขณะเดียวกันแม่มดสาวในฐานะตัวแทนจาก Lodge of Sorceresses ก็กำลังสานสัมพันธ์กับ "สมาคมพ่อค้า" ในเมืองหลวง เมื่อร่วมมือกันพวกเขาสามารถที่จะทำลายฐานของ Salamandra ในใจกลาง Vizima ได้ ซึ่ง Professor หนึ่งในสมาชิกของ Salamandra ก็ถูกจัดการไปด้วยในระหว่างนั้น

Adda the White (เจ้าหญิง Adda) ซึ่งเป็นหนึ่งในบุตรสาวของ Foltest ราชาแห่ง Temeria ให้ความร่วมมือกับ Salamandra อย่างลับๆ เมื่อพบว่ากำลังจะถูกเปิดโปง เจ้าหญิงจึงวางแผนจำกัด Geralt ด้วยตัวเอง แต่ก็ถูกขัดขวางจาก Triss ซึ่งเข้ามาช่วย Geralt ไว้ได้ทันท่วงที ก่อนที่จะเทเลพอร์ตทั้งสองหลบหนีไปที่ Murky Waters ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลจาก Vizima แต่ก็ไม่วายรายล้อมไปด้วยภยันตราย

ในห้วงเดือน สิงหาคม ปี 1270 ระหว่างพำนักที่ Murky Waters แกรัลท์ต้องพบกับการตัดสินใจอันยากลำบากจากความขัดแย้งระหว่าง Scoia'tael และ Order of the Flaming Rose ฮีโร่ของเราถูกบีบให้ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกข้างหรือจะแยกตัวออกมาจากความขัดแย้งดังกล่าว

ตัดสินใจได้ดังนั้น ก็ถึงเวลาที่ Geralt จะกลับไปสะสางเรื่องราวที่ยังค้างคาในเมือง Vizima ซึ่งก็กลับมาพบว่าบ้านเมืองกำลังลุกเป็นไฟจากความขัดแย้งของ Scoia'tael และ Order of the Flaming Rose

ท่ามกลางไฟสงครามกลางเมือง Striga อสูรร้ายผู้ซึ่งเคยฝากรอยแผลให้ Geralt ปรากฎตัวขึ้น

ถึงแม้ว่าจะมีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้นร้ายล้อม แต่ Geralt ก็มุ่งมั่นไล่ล่า Salamandra อย่างไม่ลดละ จนท้ายที่สุด วิชเชอร์ได้เผชิญหน้ากับ Azar Javed และสามารถเอาชนะสมาชิกคนสำคัญของกลุ่มอาชญากรที่บุกรุกบ้านเกิดเขามาได้

Salamandra ถูกทำลาย...

ห้วงเดือน กันยายน ปี 1270 เรื่องราวทุกอย่างกระจ่างชัด หลัง Geralt รู้ว่า ประมุขของ Order of the Flaming Rose คือผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มอาชญากร Salamandra มาตลอด เขาพยายามใช้สูตรกลายพันธุ์ของวิชเชอร์เพื่อสร้างกองทัพมนุษย์กลายพันธุ์ของตัวเองหวังนำโลกไปสู่ยุคใหม่

Geralt สามารถที่จะยับยั้งแผนการณ์ตบตาครั้งใหญ่ครั้งนี้ไปได้และชิงสูตรกลายพันธุ์วิชเชอร์กลับคืนมาจนได้

Geralt ได้รับยกย่องจากราชา Foltest จากเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ความรื่นเริงก็ดูเหมือนว่าจะไม่จีรัง มีมือสังหารปรากฎตัวขึ้นในปราสาท Vizima หวังเอาชีวิตของราชา Foltest แต่ก็ได้ Geralt ยับยั้งการลอบสังหารครั้งนี้เอาไว้ หลังจากนั้น Geralt จึงได้รับการแต่งตั้งจากราชาให้กลายเป็นองครักษ์คนพิเศษจนกว่าแผนการลอบสังหารครั้งนี้จะถูกคลี่คลาย

เหตุเกิดในห้วง เมษายน ปี 1271 หรือประมาณ 7 เดือนหลังความพยายามลอบสังหารครั้งล่าสุด แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่ามือสังหารจะเตรียมการมาเป็นอย่างดี โดยหลังกองทัพซึ่งนำโดย Foltest ยึดปราสาท La Valette จากการก่อกบฎได้สำเร็จ กษัตริย์ถูกลอบสังหารทันทีในระหว่างเขากำลังแยกตัวไปพบลูกนอกสมรสด้านบนหอคอย Geralt ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นองครักษ์คู่กายในขณะนั้น ถูกทหารเข้ามาพบคู่กับร่างไร้วิญญาณของ Foltest จึงถูกจับตัวเป็นผู้ต้องหาทันที

วิชเชอร์ถูกเค้นทรมาน สอบปากคำ ถึงสาเหตุการสังหารกษัตริย์ภายใต้ปราสาท La Valette ซึ่งต่อมาได้ Vernon Roche หัวหน้ากองกำลังพิเศษ Blue Stripes ภายใต้คำสั่งของ Foltest ในขณะนั้นช่วยให้เขาหลบหนีจากคุกผ่านแม่น้ำ Pontar เมื่อปลอดภัย Geralt จึงมุ่งหน้าตามล่ามือสังหารกษัตริย์ต่อไป

ระหว่างตกเป็นจำเลยจากการลอบสังหารกษัตริย์ Geralt ถูกทุบทรมานเพื่อเค้นความจริงนั้น ความเจ็บปวดที่ได้รับจากการทรมานช่วยไปกระตุ้นความทรงจำบางส่วนของเขาให้ฟื้นคืนมา เขากับ Yennefer ถูกสาวน้อยผมสีขาวเทาช่วยชีวิตเอาไว้ท่ามกลางความโกลาหลระหว่างมนุษย์กับพวก non-human ที่ Rivia

ในห้วงเดือน พฤษภาคม ปี 1271 เหตุเกิดในเมืองท่าเล็กๆชื่อ Flotsam ซึ่งอยู่ระหว่างเขตแดน Temeria กับ Aedirn, วิชเชอร์ได้กลับมารวมตัวกับสหายเก่านักกวีชื่อกระฉ่อน Dandelion และ Zoltan Chivay ทหารเก่าแห่งเมืองคนแคระ Mahakam อีกครั้งหลังจากช่วยชีวิตของทั้งสองให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของ Bernard Loredo ผู้บัญชาการผู้ฉ้อฉลและเหี้ยมโหด ซึ่งเป็นผู้ปกครองเมือง Flotsam

ขณะที่ใช้เวลาสืบสาวราวเรื่องอยู่ที่เมืองนี้ Geralt จำต้องเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งระหว่าง Vernon Roche และ Iorveth หัวหน้ากองกำลังหน่วย Scoia'tael ในพื้นที่ อย่างเลี่ยงไม่ได้

Geralt ระลึกได้ว่าเขากับ Yennefer ไร้รับความช่วยเหลือจากเหตุจลาจลที่ Rivia จากสาวน้อยชื่อ Ciri ซึ่งพา Geralt กับ Yennefer หนีไปซ่อนตัวที่เกาะปริศนาแห่งหนึ่งก่อนหายตัวไปทันทีก่อนที่พวก Wild Hunt จะตามมาภายหลัง ปิศาจ Wild Hunt จับตัว Yennefer และหายตัวไปทิ้ง Geralt ที่ให้คำมั่นว่าจะตามหาตัวนางไว้ลำพัง...

ในระหว่างนั้น มือสังหารกษัตริย์ได้จับตัว Triss Merigold และใช้นางเป็นเครื่องมือในการหลบหนีไปยังเขต Aedirn ตอนบน

เหตุเกิดในห้วง มิถุนายน ปี 1271 ไม่ว่า Geralt จะเลือกเดินทางมายัง Aedirn ตอนบนกับ Roche หรือ Iorveth สงครามกบฎระหว่าง กษัตริย์ Henselt แห่ง Kaedwen กับ Saskia หรือในฉายา Virgin of Aedirn ที่กำลังคุกรุ่นก็สร้างความยากลำบากให้กับ Geralt ในการตามล่าตัวมือสังหารกษัตริย์

ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่ Geralt อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ครั้งนี้วิชเชอร์ไม่ทำพลาดซ้ำสอง Geralt ช่วยเหลือชีวิตกษัตริย์ Henselt ไว้ได้ทันท่วงทีที่มือสังหารปรากฎตัวต่อหน้าเหยื่อ จากเหตุการณ์นี้เองทำให้ Geralt รู้ว่าเหล่ามือสังหารได้รับความร่วมมือจาก Lodge of Sorceresses.

เศษเสี้ยวความทรงจำหวนคืนสู่ Geralt อีกครั้ง คราวนี้เขารำลึกได้ถึงความรักที่มีต่อแม่มดสาวผมดำขลับ Yennefer และจำได้ว่าเขาไล่ล่าพวก Wild Hunt อย่างไม่ลดละด้วยเหตุเดียวกันนั้น

น่าแปลกที่ความทรงจำบางส่วนของ Geralt นั้นมีความเชื่อมโยงถึงมือสังหารกษัตริย์, Geralt จำได้ว่าเคยช่วยชีวิตชายคนหนึ่งที่ชื่อ Letho ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชเชอร์จากสำนักอสรพิษ (Viper School) แถม Letho ยังเคยช่วยเขาไล่ล่า Wild Hunt อีกด้วย, ไม่น่าเชื่อว่าสหายที่เคยร่วมทางกับเขาในวันนั้นจะเป็นคนเดียวกับมือสังหารกษัยตริย์ที่ทำให้ชื่อของเขาแปดเปื้อนและกำลังล่าตัวอยู่ในตอนนี้

ในห้วง กรกฎาคม ปี 1271 การประชุมครั้งใหญ่ระหว่างผู้นำแดนเหนือ และตัวแทนจากสภาเวทมนต์ (Council of Mages) รวมไปถึงตัวแทนจากจักรวรรดิ Nilfgaard ถูกจัดขึ้นที่ Loc Muinne ภายใต้ข้อกังวลในสถานการณ์อันระส่ำระสายของแดนเหนือ ในที่สุด Geralt ก็ล่าตัวมือสังหารกษัตริย์คนสุดท้าย Letho จนเจอ ซึ่งแท้จริงแล้วมือสังหารกษัตริย์ก็ได้เผยว่าได้รับการว่าจ้างจากจักรวรรดิ Nilfgaard ให้สร้างความโกลาหลให้แดนเหนือตั้งแต่ต้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อบทสรุปสุดท้ายของ Geralt กับมือสังหารกษัตริย์ได้บรรจบลง, จุดเริ่มต้นของความนองเลือดบนแผ่นดิน Continent เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น

เมื่อ Geralt ได้เผชิญหน้ากับ Letho ความทรงจำบางส่วนก็กลับฟื้นคืนมา ได้ความว่าแท้จริงแล้ว เขากับ Letho ตามล่า ราชาแห่ง Wild Hunt จนเจอและพบกับ Yennefer คนรักของเขา และทราบว่าตัวเขาเองยอมเสนอวิญญาณของตัวเองเพื่อแลกกับการปล่อยตัว Yennefer

Yennefer ถูกปล่อยตัวในขณะที่ Geralt กลับกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของเหล่า Wild Hunt ด้สวยเหตุนี้เองทำให้เขาต้องสูญเสียความทรงจำและหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ —

ในห้วงเดือน สิงหาคม ปี 1271 จักรวรรดิ Nilfgaard ประกาศสงครามต่อแดนเหนือ,... ผืนแผ่นดิน Continent ปกคลุมไปด้วยไฟแห่งสงคราม ช่วงเวลาแห่งความฉิบหายได้มาเยือนอีกครั้ง

ในห้วง พฤษภาคม ปี 1272 กองทัพเหยียบย่ำผืนดิน, เหล่ามอนสเตอร์/ปีศาจร้ายคืบคลาน คุกคามหมู่บ้านเล็กใหญ่ไม่เว้นแต่ละวัน บ้านเมืองที่เคยทุกข์ยากอยู่แล้ว ถูกซ้ำเติมความลำบากยากเข็นเข้าไปอีก

อิสรภาพ ความหวัง กลายเป็นเรื่องเลือนลาง ท่ามกลางมรสุมสงครามที่แทรกซึมไปทุกหนระแหง ท่ามกลางช่วงเวลาอันทุกข์ยาก ไม่แน่นอน ไร้ซึ่งความปราณีนี้เอง ที่ Geralt of Rivia ผู้ซึ่งได้ฟื้นความทรงจำของเขากลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว ได้ออกย่ำเท้า มั่นหมายถึง Yennefer คนรักของเขา...