Recent reviews by gimme dat milk daddy!

Mini Review

Delicious - Emily's Christmas Carol เป็นหนึ่งเกมในซีรีย์ Delicious
และได้ดำเนินเรื่องราวของเอมิลี่และครอบครัวมาจนถึงภาคล่าสุด
โดยเพจ ลูกสาวสุดที่รักของเอมิลี่ไม่ได้รับคัดเลือกให้แสดงบทนางฟ้าในงานคริสต์มาสที่โรงเรียน
เอมิลี่และครอบครัวจึงพยายามปลอบใจเพจด้วยการพาไปนั่งรถไฟสายปาฏิหารย์เพื่อพบซานต้า !!!
แต่การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยปริศนา ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ และความลับของใครบางคนที่แอบซ่อนไว้มาเนิ่นนาน
ร่วมเดินทางไปกับเอมิลี่ เพจ และตัวละครอื่นๆอีกมากมายที่มาร่วมสร้างสีสันใน Delicious ภาคล่าสุดนี้
อย่าลืมแวะมาดูละครเวทีที่เพจแสดงในงานคริสมาสต์ปีนี้ด้วยกันนะคะ

ข้อดี
- ภาพและบรรยากาศน่ารักสดใส ดนตรีเพราะมาก
- เนื้อเรื่องดี เพลิดเพลินเหมือนดูซีรีย์เด็กของต่างประเทศดีๆเรื่องหนึ่งเลย
- แฝงแง่คิดเกี่ยวกับสถาบันครอบครัว
- gameplay มีระบบอัพเกรดอาหาร ทำให้เพิ่มความสนุกขึ้นมาก
- มี Easter egg ด้วยนะจ๊ะ เพิ่มความตื่นเต้น ~
- มีระบบภาษาไทยไว้อ่านกันฟินๆ เพลินๆ

ไม่ใช่ข้อเสีย
- สายเก็บ achievement ต้องอดทนนิดนึงนะ เกมนี้ไม่ใช่เกมที่เล่นแล้วได้ achievement มาครองในเวลาอันรวดเร็วนัก
แต่ได้ครบแน่นอน อาจเสียเวลาไปบ้างในบางภารกิจ
- แม้เล่นเนื้อเรื่องจบแล้วก็ยังสามารถเลือกเล่นเป็นด่านๆเพื่อเก็บรางวัลความสำเร็จได้
แต่บางอันก็ทำจนเบื่อกว่าจะได้ เช่น ภารกิจเดินให้ครบ 1,000 ไมล์ -_-
- ภาษาไทยบางทียังไม่ทันจบคำดีก็ขึ้นบรรทัดใหม่แล้ว ยกตัวอย่างประโยคง่ายๆ
"ตื่นเต้นที่ได้ผจญภัยสุดแส
นมหัศจรรย์"
ทำนองนี้เลย คือแบบบบบ โอเค ถือว่าอ่านออก แต่ตอนที่อ่านก็เผลอกรอกตามองบนเป็นระยะ
ถ้าปรับปรุงได้จะดีมาก

คำแนะนำ

- ใครหา Easter egg หรือ Game Bonus ที่แฝงอยู่ไม่เจอจริงๆ แนะนำ
http://www.gamehouse.com/blog/2016/10/delicious-emilys-christmas-carol-official-walkthrough/
ในนี้จะมีบอกไว้หมดนะจ๊ะ

Mini Review

Heart's Medicine - Time to Heal เป็นเกมภาคต่อที่ดำเนินเรื่องราวชีวิตการทำงานของอลิสัน ฮาร์ท
นักศึกษาแพทย์หญิงจบใหม่
ที่เริ่มเข้าทำงานใช้ทุนที่โรงพยาบาลลิตเติ้ลครีก โดยเริ่มจากการฝึกหัดและเรียนรู้ในแผนกต่างๆ
เพื่อตัดสินใจว่าสุดท้ายแล้วเธอจะเข้าประจำในแผนกศัลยกรรมอย่างที่ตั้งใจไว้ในภาคแรกได้หรือไม่

ในส่วนของ Gameplay นั้นเหมือนเกมเสิร์ฟอาหารชื่อดังอย่าง Dinner Dash ก็เพราะค่ายเดียวกันนั่นเอง
เพียงเปลี่ยนจากลูกค้าเป็นผู้ป่วยแทน และตัวเกมก็เน้นความไวในการคลิกและการตัดสินใจอย่างรวดเร็วเช่นเคย
แต่กระนั้นในการทำงานของอลิสัน ก็มีมินิเกมมาให้เล่นทุกครั้งให้การเล่นดูมีมิติและน่าสนใจขึ้น เช่น การฉีดยา ดึงเศษแก้ว เย็บบาดแผล จ่ายยา ฯลฯ

โดยในเกมได้มีแขกรับเชิญพิเศษจากเกมชุด Delicious - Emily นั้นคืออิมิลี่
ซึ่งเธอเป็นคนรู้จักของอลิสันและได้เข้ามาทำงานขายอาหารในโรงอาหารของโรงพยาบาลด้วย
หากใครชื่นชอบและติดตามเกมในเครือ gamehouse และเซต Emily ต้องปลื้มปริ่มไปตามๆกัน
แต่เดี๋ยวก่อน !!!! เธอไม่ได้มามือเปล่า เธอมาพร้อมกับมินิเกมให้เราทำ
ซึ่งมีภารกิจต้องบริการเสิร์ฟอาหารให้บรรดาหมอ พยาบาล รวมถึงญาติผู้ป่วยให้พวกเขาได้รับความพึงพอใจให้มากที่สุด
ดังนั้นมินิเกมนี้จึงเปรียบเสมือนการยกเกม Delicious - Emily มาให้เล่นกันแบบย่อมๆเลยทีเดียว ซึ่งก็..หางานให้ตูอีก ตูจะเล่นเกมหมอออออ

ข้อดี
- กราฟฟิกน่ารักสดใส
- Soundtrack เลิศ ดีต่อใจจริงๆครับ
- เหมือนเป็นเกมเบาสมองทั่วไป แต่เนื้อเรื่องนี่เข้มข้น ชวนติดตามตลอด
- รองรับภาษาไทย

ไม่ใช่ข้อเสียแต่ไม่เอ่ยถึงก็คงไม่ได้
- เกม crash บ่อยเกินไป หนาววววว ใจจะขาด เพราะขาดเธอคนดี ขาดไอรักอบอุ่นนนน เดี๋ยวๆ อันนี้มัน Clash แล้ว
- เนื่องจาก port มาจากมือถือทำให้เกิดความยุ่งยากในบางมินิเกมที่ต้องใช้เม้าส์คลิกลากหรือเลื่อนเป้าหมายในเวลารวดเร็วนั้นค่อนข้างทำได้ลำบาก (แต่ตัวเกมฉบับมือถือ แค่สไลด์ปรื๊ดเดียวเอาอยู่)
- ภาษาไทยมีอยู่ประมาณ 2-3 ภารกิจแปลได้ชวนงง จนบางครั้งต้องสลับเป็น eng เพื่ออ่านให้ชัดเจน


ข้อแนะนำเสริม

- สำหรับใครที่เป็นสายเก็บ achievement หากงงและไม่เข้าในภาษาไทยที่เขาแปลมาแบบงงๆ?
จงคลิกเข้าเว็บนี้
http://www.gamehouse.com/blog/2016/06/hearts-medicine-time-to-heal-walkthrough/
เลือก Trophies อ่านและทำตามคำแนะนำในนั้นโลด
แต่ส่วนตัวคิดว่า achievement เกมนี้เก็บง่าย แต่ภาษาไทยในเกมบางอันระบุไว้ไม่ค่อยชัดเจน
เช่นรางวัลของเจนนี่ เป็นต้น หากใครอ่านลิ้งค์แล้วยังมีข้อสงสัย ทักมาถามได้นะครับ ^^

Mini Review

หลังจากที่รอคอยมานาน เลยจัดการสอยมาเล่นเป็นการด่วน สดๆร้อนๆ
เมื่อลองเทสก็พบว่าตัว DLC นี้ไม่รองรับเซฟเก่า ดังนั้นต้องเริ่มเล่นเกมใหม่ ครอบครัวใหม่เลยนะจ๊ะ
แต่ผมไม่ซีเรียสเพราะต้องการเล่นอะไรใหม่ๆพอดี ประกอบกับไม่ได้เล่นเซฟเก่ามานานพอสมควร เลยขอเริ่มใหม่ดีกว่า


โดย DLC นี้ทางผู้พัฒนาได้บอกว่าเป็นส่วนเสริมที่ใหญ่ที่สุดของเกมนี้เท่าที่เคยมีมา
และได้เพิ่มตัวละครวัยเด็ก ให้ผู้เล่นได้ซึมซับบรรยากาศที่แท้จริงของสงครามโดยผ่านตัวละครว่า
คุณจะดูแลเด็กบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ให้ผ่านคืนวันอันโหดร้ายและมีชีวิตอยู่รอดจนถึงวันยุติสงครามได้อย่างไร

หากคุณเคยเล่นเกมนี้ และเป็นคนหนึ่งที่เล่นเกมนี้ไม่ผ่าน หรือแค่ 10 วันตาย คุณจะไม่มีชีวิตรอดใน DLC ตัวนี้เลยครับ
เพราะการมีเด็กในบ้านนั้น เราจะต้องดูแลเอาใจใส่เขา แถมตัวเด็กเองก็ยังไม่สามารถช่วยทำอะไรในบ้านไม่ได้นัก
เพราะเขายังไม่โตนั่นเอง เขายังคงได้แต่วิ่งเล่นในบ้าน วิ่งหาคนในบ้าน
คอยเฝ้าถามว่า

"เมื่อไหร่หนูจะได้ออกไปเล่นข้างนอกกับเพื่อนคะ?"
"ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้คะ หนูไม่เข้าใจ..."

หลังจากที่ผู้เขียนลองเล่น แบบสุ่มครอบครัว ระบบจับคู่ Zlata , Emily และเด็กหญิงหมวกไหมพรม Kalina
(ขอบอกจากใจว่าเล่นยากมากถึงมากที่สุด เปรียบเสมือนมีสายซัพทั้งบ้าน นักดนตรีเอย นักกฏหมายเอย เด็กเอย T_T)
ตอนเริ่มเกมทุกคนมีสถานะเจ็บป่วยหมด และวันแรกผมก็พบข้อเสียของการมีเด็กอยู่ในบ้านทันทีครับ

- เด็กมักต้องการให้คนเอาใจใส่ ให้ผู้ใหญ่พูดคุยกับเขา วันละ 2-3 ครั้ง ไม่เช่นนั้นเขาจะติด Sad
- เด็กเจ็บป่วยง่ายมาก วันดีคืนดีตื่นเช้ามาก็ขึ้นสถานะป่วยขั้นแรกแบบงุนงง
ต่อให้กินยา อีกไม่กี่วันก็ป่วยอีก (อันนี้ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับภูมิต้านทานเด็กต่ำหรือเปล่านะ)
- เมื่อโจรขึ้นบ้านในยามกลางคืน เช้ามาเด็กมักจะติด Sad หรือไม่ก็มีบาดแผลเล็กๆน้อยๆ
(คือหนูไปสู้กับโจรมาเหรอลูก?)
- ในเมื่อวันๆคุณจะต้องเลี้ยงเด็ก คอยคุยกับเด็ก ช่วงเริ่มเกมคุณจะเคลียร์บ้านได้ช้ามาก เสร็จประมาณวันที่ 3 นู่นเลย

ข้อแนะนำ

สำหรับคนที่ ยังเล่นไม่เก่ง แต่อยากเล่นครอบครัวที่มีเด็ก
ให้เน้นเล่นครอบครัวที่มีพื้นฐานเรื่องความสามารถในการดำรงชีวิตดี เช่น คนทำอาหาร ตำรวจ นักผจญเพลิง หรือลุงก่อสร้างนักแบกของ
จะทำให้พอเล่นง่ายขึ้น
แต่ถ้าเล่นมาจนเชี่ยวชาญแล้ว แถมต้องการความเร้าใจ ให้ลองเล่นแบบสุ่มไม่ก็สายซัพล้วนดู
หรือเลือกเล่นครอบครัวที่มีเพียง ผู้ใหญ่ 1 คน เด็ก 1 คน จะได้รสชาติและอินกับเกมนี้ระดับสูงสุดครับ

แม้ว่าจะเล่นยากอย่างไร ผมก็ให้ 10/10 ครับ เพราะ DLC ตัวนี้เสริมให้เกมมีกลิ่นความหม่นหมองของสงครามมากขึ้น
ถือเป็นเสน่ห์ของเกมที่ต้องการให้ผู้เล่นมาพิชิตบนยอดเขาแห่งความสำเร็จครับ

หากท่านเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบเกมที่มีกลิ่นอายของความมืดมน ความท้อแท้ ความสิ้นหวัง
แนะนำเลยครับ ผมเชื่อว่าคุณจะต้องหลงรัก "เกมเอาชีวิตรอดผ่านสภาวะสงคราม" เกมนี้อย่างแน่นอน . . .

สำหรับใครที่ชอบแนว open world อยากสัมผัสแนวการเล่นแบบเกรียนๆ แนะนำเลยครับ
แต่งตัวได้ตามใจชอบ สนุกและได้รสชาติมากๆ ฉากแต่ละฉากในโหมดเนื้อเรื่องฮาได้ใจจริงๆครับ